tag:blogger.com,1999:blog-14545030146686852262023-11-16T07:16:06.692-08:00บทความสุขภาพ ความงาม แหล่งรวมสาระน่ารู้ เกี่ยวกับสุขภาพ ความสวยความงาม อาหารเสริมUnknownnoreply@blogger.comBlogger126125tag:blogger.com,1999:blog-1454503014668685226.post-31513026485312430802017-04-12T00:25:00.000-07:002017-04-12T00:27:24.722-07:00ปวดเข่าจากเล่นกีฬาทำไงดี? ทายาหลายทีก็ไม่หาย<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhXR6-dXdnxiPUy6LrteMywA4V_sPtpKQelaZGVvUpNtmV0B6KeJQX8G36n7uFq81DfPPLBnjVejQuX7m3WN5KKp4srmQWu6mWHJJAypYSPx6fDDNXHxR-fnI376gZYIH-WiWLX-PCtqk4/s1600/knee-ache.jpg" imageanchor="1" style="margin-right: 1em;"><img alt="ปวดเข่าจากเล่นกีฬาทำไงดี?" border="0" height="384" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhXR6-dXdnxiPUy6LrteMywA4V_sPtpKQelaZGVvUpNtmV0B6KeJQX8G36n7uFq81DfPPLBnjVejQuX7m3WN5KKp4srmQWu6mWHJJAypYSPx6fDDNXHxR-fnI376gZYIH-WiWLX-PCtqk4/s640/knee-ache.jpg" title="ปวดเข่าจากเล่นกีฬาทำไงดี?" width="640" /></a></div>
<br />
การบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน บางคนเจ็บกล้ามเนื้อเล็กๆน้อย แต่บางคนอาจมีอาการ <b><span style="color: #990000;">"เจ็บเข่าหรือปวดเข่า"</span></b> จากการเล่นกีฬาอันหนักหน่วงได้ ผมเองเป็คนชอบเล่นกีฬามาก ทั้งตีแบด วิ่ง จนไปถึงเล่นบาสเก็ตบอล เมื่อก่อนเล่นแค่ไหนไม่เคยเจ็บเข่า แต่ด้วยอายุที่มากขึ้นประกอบกับโหมเล่นกีฬาหนัก ทำให้เกิดอาการปวดเข่าขึ้นมาจนได้ นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยครับ<br />
<br />
<a name='more'></a><br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhR7IZFqoJ96GB9AbgvDuwl-7DkVUd3eGA8SeEP5gGJ6aqj41_aB5kuPhiQzXS29bmvulIYNtRZnpjUnMHuAAM5UfYyRRXxHb2Ldj8vDRqOz-5KYVcSE-Xs5ixTneEM5HzJPUGXS_CnSUA/s1600/BDMS-BANGKOK-MARATHON-29th-Edition.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="รายการกรุงเทพมาราธอน BDMS BANGKOK MARATHON 29th Edition" border="0" height="640" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhR7IZFqoJ96GB9AbgvDuwl-7DkVUd3eGA8SeEP5gGJ6aqj41_aB5kuPhiQzXS29bmvulIYNtRZnpjUnMHuAAM5UfYyRRXxHb2Ldj8vDRqOz-5KYVcSE-Xs5ixTneEM5HzJPUGXS_CnSUA/s640/BDMS-BANGKOK-MARATHON-29th-Edition.jpg" title="รายการกรุงเทพมาราธอน BDMS BANGKOK MARATHON 29th Edition" width="374" /></a></div>
<br />
<h3>
<span style="color: #990000;"><u>สาเหตุที่ทำให้เจ็บเข่า</u></span></h3>
สาเหตุการปวดเข่าของผมครั้งนี้ น่าจะเริ่มมาจากการวิ่งมาราธอน รายการกรุงเทพมาราธอน BDMS BANGKOK MARATHON 29th Edition วันที่ 5 กุมพาพันธ์ 2017 เป็นการวิ่ง 21 กิโล ครั้งแรกของผม ก่อนวิ่งซ้อมมานิดหน่อย พอวิ่งเสร็จวันรุ่งขึ้นรู้สึกปวดเข่าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ปวดจนแทบเดินไม่ได้ เดินขึ้นลงบันไดนี่นรกเลย ปวดจนบอกไม่ถูก<br />
<br />
แต่พอผ่านไปประมาณ 3-4 วัน อาการปวดเข่าของผมก็หายไป เหลือแต่ปวดกล้ามเนื้อบริเวณข้อพับนิดหน่อย ผมก็ซื้อยาทาแก้ปวดกล้ามเนื้อมาทา แล้วก็ออกไปเล่นกีฬาอีกทั้งเล่นบาสและตีแบด ทำให้ที่เจ็บกล้ามเนื้อไม่ยอมหายสักที(ดื้อมาก) จนมีวันหนึ่งไปเล่นบาสอย่างหนักหน่วงมา รู้สึกปวดขามากกว่าทุกวัน ตอนนอนนอนแทบไม่ได้เพราะรู้สึกปวดทั้งขาและเข่า พอตืนเช้ามาปวดเข่ามาก เข้าด้านซ้ายมีอาการบวมอย่างเห็นได้ชัด เวลานั่งงอเข่านานๆแล้วเปลี่ยนท่า จะรู้สึกปวดเข่าขึ้นมาทันที เป็นอะไรที่ทรมานมาก<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<br /></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi7UXxgZIaCe9ubenEJSZKiLU7aqckYocT268qadP0xrGV641thqR_8-PUsnTmaqGLtlUFORjmOnlZ1xlEA447X50XD83JJGV0Rzu_Jm7kea8E1fB2XaybZUuO6Z0B4mMiBKi2kcYKGvj8/s1600/knee-ache-3.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="ยาทาแก้ปวดเข่า ปวดกล้ามเนื้อ Piroxicam Felgesic Gel" border="0" height="358" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi7UXxgZIaCe9ubenEJSZKiLU7aqckYocT268qadP0xrGV641thqR_8-PUsnTmaqGLtlUFORjmOnlZ1xlEA447X50XD83JJGV0Rzu_Jm7kea8E1fB2XaybZUuO6Z0B4mMiBKi2kcYKGvj8/s640/knee-ache-3.jpg" title="ยาทาแก้ปวดเข่า ปวดกล้ามเนื้อ Piroxicam Felgesic Gel" width="640" /></a></div>
<br />
<h3>
<span style="color: #990000;"><u>ซื้อยามากินและทา</u></span></h3>
หลังจากอาการปวดเข่ารุนแรงขึ้น ผมจึงตัดสินใจไปซื้อยามากินดีกว่า น่าจะช่วยให้อาการปวดเข่าดีขึ้น ผมเดินเข้าไปในร้านขายยาปรึกษาพี่เภสัช บอกว่าปวดกล้ามเนื้อกับปวดเข่า พี่เภสัชเลยจัดยากินมาให้ 2 ตัว <b><span style="color: #990000;">เป็นยาแก้ปวดกับยาแก้ปวดข้อ/กล้ามเนื้ออักเสบ</span></b> แล้วก็ได้ยาทามาอีก 1 หลอด ยี่ห้อ Piroxicam Felgesic Gel<br />
<br />
หลังจากกินยาได้ 5 วัน รู้สึกว่าอาการปวดกล้ามเนื้อดีขึ้น แต่อาการปวดเข่ายังไม่ดีเท่าไร ขับรถนานๆลงจากรถนี่ปวดเข่าทันที เริ่มรู้สึกไม่ไหวละ คงถึงเวลาต้องไปหาหมอแล้วล่ะ<br />
<br />
<h3>
<span style="color: #990000;"><u>ไปหาหมอที่โรงพยาบาลนั่งเกล้า</u></span></h3>
ตอนแรกภรรยาผมบอกให้ไปหาหมอที่โรงพยาบาลเลิดสิน บอกว่าที่นี่เก่งเรื่องข้อเรื่องกระดูก แต่ผมเห็นว่าไกลเกินไปเดินทางลำบาก เลยตัดสินใจไปหาหมอที่โรงพยาบาลนั่งเกล้าแทน เพราะใกล้บ้านมากกว่า<br />
<br />
ผมไปถึงโรงพยาบาลประมาณ 8 โมงเช้า เริ่มจากทำบัตรผู้ป่วยใหม่ก่อน เพราะยังไม่เคยมาใช้บริการที่นั่งเกล้าเลยสักครั้ง จะมีกระดาษให้กรอกข้อมูลอยู่ตรงเคาน์เตอร์ด้านหน้า พอกรอกเสร็จให้เอาไปวางไว้ในตระกร้าเพื่อรอเรียก ผมนั่งรออยู่ประมาณ 20 นาที พนักงานก็เรียกไปสอบประวัติเบื้องต้น ถามว่าเป็นอะไรมา ผมตอบว่าปวดเข่า พนักกงานก็บอกว่าวันนี้หมอกระดูกคิวเต็มแล้ว จะพบหมอทั่วไปแทนได้มั้ย ผมตอบว่าได้ ไหนๆมาแล้วถ้าไม่เจอหมอก็ยังไงอยู่<br />
<br />
<h3>
<span style="color: #990000;"><u>รอพบหมอ</u></span></h3>
หลังจากได้บัตรผู้ป่วยและเอกสารบางส่วน พนักงานให้ผมขึ้นไปที่ชั้น 2 พร้อมกับยื่นเอกสารที่หน้าเคาน์เตอร์ ระหว่างนั้นพยาบาลจะให้เราไปวัดความดัน และสอบถามอาการเบื้องต้น ที่เหลือก็ยืนรอพบหมอที่หน้าห้อง ซึ่งคนเยอะมาก เป็นผู้สูงอายุซะเป็นส่วนใหญ่<br />
<br />
<h3>
<span style="color: #990000;"><u>เข้าพบหมอ</u></span></h3>
ผมยืนรออยู่ประมาณ 30-40 นาที ก็ได้เข้าพบหมอ หมอถามว่าเป็นอะไรมา ผมบอกว่าปวดเข่าข้างซ้าย หมอก็เอามือมาจับที่เข่าถามว่าปวดตรงไหน กดด้านบนถามว่าปวดมั้ย ไม่ปวด กดด้านล่างปวดมั้ย ไม่ปวด หมอเลยถามว่าปวดตรงไหน <b><span style="color: #990000;">ผมบอกว่าปวดตรงส่วนกลางหัวเข่า</span></b> ยังไม่ทันพูดจบอยู่ดีๆมีคนไข้มาโวยวายหน้าห้องหมอ ทำให้หมออารมณ์เสีย (ผมแอบนึกในใจมาโวยวายอะไรตอนนี้) หมอถามผมว่าปวดมากมั้ย ถ้ามากจะให้ไปฉีดยา ผมบอกว่าปวดมากฉีดยาเลยครับ หมอก็จัดการกรอกข้อมูล ส่งตัวไปฉีดยา<br />
<br />
<h3>
<span style="color: #990000;"><u>รอรับยา(รอบแรก)</u></span></h3>
หลังจากตรวจอาการปวดเข่าเสร็จ ผมเดินลงมาที่ชั้น 1 ไปที่ห้องจ่ายยาเพื่อรอรับยา ตอนแรกผมงงว่าทำไมไม่ให้ผมไปฉีดยาก่อนแล้วถึงค่อยมารับยา แต่พอได้รับยาผมจึงเข้าใจ ว่ายาที่ให้มารับนั้นเป็นยาสำหรับฉีดนั่นเอง ให้มาเป็นหลอดแก้วที่ซองยาเขียนว่าเป็นตัวยา Diclofenac<br />
<br />
<h3>
<span style="color: #990000;"><u>รอฉีดยา</u></span></h3>
หลังจากรอรับยาอยู่นาน ผมก็จะได้ฉีดยาสักที พนักงานให้ผมเดินไปที่ห้องฉีดยา ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นห้องหมายเลข 19 ซึ่งต้องเดินเข้าไปลึกหน่อย ต้องถามพยาบาลหรือพนักงานแถวนั้นถึงจะรู้ เพราะเลขห้องมันไม่เรียงกัน<br />
<br />
ไปถึงหน้าห้องฉีดยา เค้าให้ยื่นเอกสารไว้ที่ตะกร้าหน้าห้องแล้วรอเรียก ผมนั่งรออยู่ประมาณ 10 นาที พยายบาลก็เรียกเข้าไป ก่อนฉีดพยาบาลถามผมว่า เราคือคนที่จะฉีดยาใช่มั้ย? ผมตอบไปว่าใช่พร้อมกับความงุนงง สงสัยว่าทำไมถามแปลกๆ พยายบาลบอกว่า คำนำหน้าในประวัติของผมเป็น <span style="color: #990000;"><b>"นาง"</b> </span>แทนที่จะต้องเป็น <b><span style="color: #990000;">"นาย"</span></b> ซึ่งผิดมาตั้งแต่ห้องทะเบียน แกเลยงงว่าตกลงผมเป็นผู้หญิง(ที่เป็นทอม)หรือเป็นผู้ชายกันแน่<br />
<br />
<h3>
<span style="color: #990000;"><u>ฉีดยา</u></span></h3>
พยาบาลให้ผมนอนลงที่เตียง จากนั้นเข้ามาฉีดยาที่บริเวณสะโพกให้จำนวน 1 เข็ม ตอนฉีดพยาบาลถามผมว่าเจ็บมั้ย ผมตอบว่าไม่เจ็บ เพราะพยาบาลฉีดเบามากแทบไม่รู้สึกว่าถูกเข็มจิ้มเข้าไป แต่แล้วสิ่งที่พยาบาลถามด้วยความเป็นห่วงก็เกิดขึ้นจนได้ หลังจากผมเดินออกจากห้องฉีดยาได้ประมาณ 20 เมตร <b><span style="color: #990000;">ผมเริ่มรู้สึกปวดบริเวณสะโพกลามมาถึงก้นจนได้ </span></b>ปวดจนเดินเป๋เลยทีเดียว ไม่น่าเชื่อว่าการฉีดยาสามารถทำให้เราเจ็บปวดได้ขนาดนี้<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhPGcl5N0uMd6dgE_BYHBoFBz4gYvMijTvF4vxRHsDEeD9w1LUEBAPDP_qR3oMxyKR3Cqoee6egAhRBny4qk81Hm8xoFeEgDjmitKJKH1OmrMosdR-Qg4mcSgsEndSRP5lr2nkBimhlOJ0/s1600/knee-ache-1.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="ยาแก้ปวดเข่า โรงพยาบาลนั่งเกล้า" border="0" height="398" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhPGcl5N0uMd6dgE_BYHBoFBz4gYvMijTvF4vxRHsDEeD9w1LUEBAPDP_qR3oMxyKR3Cqoee6egAhRBny4qk81Hm8xoFeEgDjmitKJKH1OmrMosdR-Qg4mcSgsEndSRP5lr2nkBimhlOJ0/s640/knee-ache-1.jpg" title="ยาแก้ปวดเข่า โรงพยาบาลนั่งเกล้า" width="640" /></a></div>
<br />
<h3>
<span style="color: #990000;"><u>จ่ายเงิน รอรับยา(รอบสอง) </u></span></h3>
และแล้วก็มาถึงขั้นตอนสุดท้ายของการรักษาอาการปวดเข่าที่โรงพยาบาลนั่งเกล้าจนได้ รอคิดจ่ายเงิน ซึ่งขั้นตอนนี้จะนานเป็นพิเศษ นานกว่ารอพบหมอซะอีก ขนาดไปฉีดยามายังต้องรอตั้งนานกว่าจะถึงคิว พอถึงคิวจะมีหมายเลขจ่ายเงินเราขึ้นที่หน้าจอ เราก็เข้าไปต่อแถมรอจ่ายเงินได้ ซึ่งผมจ่ายเองไม่ใช้สิทธิ์ประกันสังคมหรือบัตรทอง ตอนพนักกงานบอกยอดเงินผมตกใจเลย!!! 177 บาท ต้องถามซ้ำว่าเท่าไรนะครับ ก็ได้คำตอบเดิมว่า 177 บาท ถูกกว่าที่ผมคาดไว้มาก เพราะทั้งฉีดยา ได้ยากินมา 2 ตัว และยาทาอีก 1 หลอด<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgGEPGMj0D1RdBr1HiHgtVnzuo6VW8FF79ks4eEJ92AnL8nY3FlQRFiDynmHiMDG3TFkUbgsSIgWUsSwJWLXOU8ft0JhTVnQPIJSQFmP7moF8YAFOp054G3R10UudXR0IhuCVgba2vY_cg/s1600/knee-ache-2.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="Coolnac Gel" border="0" height="640" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgGEPGMj0D1RdBr1HiHgtVnzuo6VW8FF79ks4eEJ92AnL8nY3FlQRFiDynmHiMDG3TFkUbgsSIgWUsSwJWLXOU8ft0JhTVnQPIJSQFmP7moF8YAFOp054G3R10UudXR0IhuCVgba2vY_cg/s640/knee-ache-2.jpg" title="Coolnac Gel" width="412" /></a></div>
<br />
หลังจากได้รับการฉีดยาที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า รุ่งเช้าอาการปวดเข่าจากการเล่นกีฬาของผมดีขึ้นทันที หายปวดเลยทีเดียว รู้งี้ไปหาหมอนานแล้ว แต่ยังมีขัดๆบ้างนิดหน่อย แต่พอกินยาและทายาจนหมด <b><span style="color: #990000;">อาการปวดเข่าของผมก็หายเป็นปกติ </span></b>ตอนนี้นั่งทำงานหรือนั่งขับรถที่ต้องงอเข่าเป็นเวลานานก็ไม่ปวดแล้ว เดินเป๋มาเกือบเดือน พอหายปวดแล้วรู้สึกดีจริงๆ<br />
<br />
ใครมีปัญหาปวดเข่าจากการวิ่ง หรือเล่นกีฬาเหมือนผม ทายากินยาแล้วไม่ยอมหายสักที แนะนำให้ไปหาหมอครับ ที่ไหนก็ได้จะเป็นโรงพยาบาลหรือคลินิกใกล้บ้านก็ได้ อย่าปล่อยไว้นานเหมือนผม มันไม่ดีครับUnknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1454503014668685226.post-58175117609072942052016-05-31T00:04:00.001-07:002016-05-31T00:18:43.808-07:00บริจาคเลือดดีอย่างไร? กับประโยชน์ของการบริจาคที่ควรรู้<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<br /></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjFbaA64j6hqbBOctDtW-LwgmwWO2kqw67phuVlDK9c6QDIC3sMojBB0cVZrLp3HmQ1-XGD-1W0eYlektcY1UC-wSjJwtORJ2sX5PjZ3_StP-XP5TFq-9H6m0Umx_Y_G_qurl44zCzP-BA/s1600/blood-donation.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="ข้อดีของการบิจาคเลือด" border="0" height="358" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjFbaA64j6hqbBOctDtW-LwgmwWO2kqw67phuVlDK9c6QDIC3sMojBB0cVZrLp3HmQ1-XGD-1W0eYlektcY1UC-wSjJwtORJ2sX5PjZ3_StP-XP5TFq-9H6m0Umx_Y_G_qurl44zCzP-BA/s640/blood-donation.jpg" title="บริจาคเลือดดีอย่างไร?" width="640" /></a></div>
<br />
เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 59 ที่ผ่านมาผมมีโอกาสได้ไปบริจาคเลือดกับสภากาชาดที่เดอะมอลล์งามวงศ์วานมา เป็นการบริจาคครั้งที่เท่าไรจำไม่ได้ พยาบาลบอกผมก่อนบริจาคว่าครั้งล่าสุดที่บริจาค คือ ปี 2553 ซึ่งนานมาก ก่อนหน้านี้ผมสุขภาพไม่สู้ดีต้องกินยาตลอดทำให้พลาดการบริจาคไป แต่ครั้งนี้ผมพร้อมแล้วเตรียมตัวมาอย่างดี ถึงแม้ว่าหลังบริจาคผมจะหน้ามืดเกือบเป็นลมก็ตาม แต่เลือดก็เต็มถุงพอดี อย่างน้อยก็รู้สึกว่าได้ทำภารกิจสำเร็จอย่างที่ตั้งใจไว้<br />
<a name='more'></a><br />
<div style="text-align: center;">
<script async="" src="//pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/adsbygoogle.js"></script>
<!-- healthbeautydd-center -->
<br />
<ins class="adsbygoogle" data-ad-client="ca-pub-3419656287281437" data-ad-slot="1371127130" style="display: inline-block; height: 280px; width: 336px;"></ins><script>
(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});
</script>
</div>
<br />
ระหว่างที่นั่งพักดื่มน้ำแดงและทานขนมอยู่นั้น ผมเหลือบไปเห็นโบรชัวร์ <b><span style="color: #990000;">"บริจาคโลหิตดีอย่างไร?"</span></b> แผ่นนี้เข้า หยิบอ่านรู้สึกว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการบริจาคเลือดที่มีประโยชน์ซึ่งหลายคนอาจยังไม่รู้ วันนี้ผมจึงขออนุญาตนำข้อมูลในโบร์ชัวมาแชร์ในวันนี้ครับ<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgMJ33M0z07CD_lsCRmjr7pPhbv-ABExMNmACGEgHFB7dyd0SmGM0ChrftuapEAm8pZnD4Et16zlAcGj63qnxyTfNoolqz4_JpZhtV14JCLOdyvKseBNzgu1yteSKfIAQ35iokof1t563c/s1600/blood-donation-2.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="บริจาคโลหิตดีอย่างไร" border="0" height="438" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgMJ33M0z07CD_lsCRmjr7pPhbv-ABExMNmACGEgHFB7dyd0SmGM0ChrftuapEAm8pZnD4Et16zlAcGj63qnxyTfNoolqz4_JpZhtV14JCLOdyvKseBNzgu1yteSKfIAQ35iokof1t563c/s640/blood-donation-2.jpg" title="บริจาคโลหิตดีอย่างไร" width="640" /></a></div>
<br />
<h3>
<span style="color: #990000;">บริจาคโลหิตดีอย่างไร</span></h3>
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ องค์สภานายิกาสภากาชาดทรงมีพระราชดำรัสถึงผู้บริจาคโลหิตว่า <span style="color: #0b5394;">"โลหิตเป็นปัจจัยหล่อเลี้ยงรักษาชีวิตให้ดำรงอยู่ นับได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต การบริจาคโลหิตจึงเทียบได้กับการบริจาคชีวิตเป็นทานสูงสุด ควรยกย่องสรรเสริญอย่างยิ่ง การที่ประชาชนชาวไทยมีศรัทธาบำเพ็ญประโยชน์อย่างเดียวกันนี้ แสดงว่าทุกคนมีจิตใจเป็นกุศลถือว่าตนเป็นเพื่อน เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกัน มีหน้าที่ที่จะอนุเคราะห์ซึ่งกันและกัน</span><br />
<span style="color: #0b5394;"><span style="color: #0c343d;"><br /></span>
<span style="color: #0c343d;">นอกจากนี้การบริจาคโลหิตยังถือเป็นการให้ทานที่ยิ่งใหญ่ ที่สามารถช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ ที่เจ็บป่วยให้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้ เพราะฉะนั้น ผู้บริจาคโลหิตทุกคน จึงถือว่าเป็นผู้เสียสละควรแก่การยกย่องและสรรเสริญ"</span></span><br />
<br />
<h3>
<span style="color: #38761d;">ประโยชน์จากการบริจาคโลหิต</span></h3>
<ol>
<li>กระตุ้นไขกระดูกสร้างเม็ดเลือดแดง</li>
<li>กล้ามเนื้อแขนขาแข็งแรง</li>
<li>ระบบไหลเวียนโลหิตดี</li>
<li>ผิวพรรณสดใส</li>
<li>สุขภาพแข็งแรง</li>
<li>ได้ตรวจสุขภาพร่างกายเป็นประจำทุก 3 เดือน</li>
<li>ทราบหมู่โลหิตระบบ เอ บี โอ และระบบอาร์เอช</li>
<li> มีความสุขความภูมิใจที่ได้ช่วยชีวิตผู้ป่วย</li>
</ol>
<br />
ดูเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ <a href="https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=549036248471717&id=115623895146290">https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=549036248471717&id=115623895146290</a><br />
<br />
<h3>
<span style="color: #38761d;">บริการตรวจสารเคมี</span></h3>
ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ให้บริการตรวจสารเคมีในโลหิต เช่น ตรวจหาน้ำตาล ไขมันในโลหิต ไตรกลีเซอไรด์ ไขมันดี และตรวจสภาวะการทำงานของตับ เป็นต้น (ตรวจให้ปีละ 1 ครั้ง) และให้แจ้งความจำนงที่แพทย์คัดกรองผู้บริจาคโลหิต ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00-10.00 น. (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) โดยต้องงดอาหารหลัง 20.00 น.(ดื่มน้ำเปล่าได้)<br />
<br />
<h3>
<span style="color: #38761d;">สิทธิพิเศษในการรักษาพยาบาล</span></h3>
<span style="color: #990000;">การช่วยเหลือในการรักษาพยาบาล ตามระเบียบกระทรวงสาธารณสุข โดยให้หน่วยบริการช่วยเหลือเฉพาะตัวดังนี้</span><br />
<br />
1. *ผู้บริจาคโลหิตซึ่งมีหนังสือรับรองจากสภากาชาดไทยให้หน่วยบริการช่วยเหลือเฉพาะค่าห้องพิเศษ และค่าอาหารพิเศษ โดยให้เรียกเก็บตามอัตราที่กำหนดไว้ แต่ต้องไม่เกินสิทธิอัน<br />
<br />
พึงเบิกได้จากหน่วยงานต้นสังกัด ส่วนที่เกินให้เรียกเก็บเพียงร้อยละ 50 สำหรับผู้ไม่มีสิทธิดังกล่าว ให้หน่วยบริการเรียกเก็บเพียงร้อยละ 50 ของอัตราที่กำหนดไว้<br />
<br />
2. **ผู้บริจาคโลหิตตั้งแต่ 24 ครั้งขึ้นไป ให้หน่วยบริการรักษาพยาบาลโดยไม่คิดมูลค่า แต่ถ้าอยู่ห้องพิเศษให้เรียกเก็บค่าห้องพิเศษ และค่าอาหารเพียงร้อยละ 50 ของอัตราที่กำหนดไว้<br />
<br />
*ระเบียบกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยการช่วยเหลือในการรักษาพยาบาล (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2550 ข้อ 8 ประเภท ค<br />
<br />
*ระเบียบกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยการช่วยเหลือในการรักษาพยาบาล (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2553 ข้อ 6 ประเภท ก<br />
<br />
<span style="color: #990000;">การช่วยเหลือในการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลต้นสังกัดสภากาชาดไทย ได้แก่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา</span><br />
<br />
1. ผู้บริจาคโลหิตจำนวน 7 ครั้งขึ้นไป เป็นผู้ป่วยใน เสียค่าพยาบาลประเภทคนไข้สามัญ ถ้าใช้ห้องคนไข้พิเศษ , ผ่าตัด , ผ่าตัดคลอดบุตร ให้เพียงกึ่งหนึ่งของอัตราที่กำหนด<br />
<br />
2. ผู้บริจาคโลหิตจำนวน 24 ครั้งขึ้นไป เป็นผู้ป่วยใน ได้รับยกเว้นเฉพาะค่ารักษาพยาบาลประเภทคนไข้สามัญ ถ้าใช้ห้องคนไข้พิเศษผ่าตัด , ผ่าตัดคลอดบุตร , ให้เสียเพียงกึ่งหนึ่งของอัตราที่กำหนด<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiGLP5sGiNhNediglZI_lH0y8ue7h3td1FJ5KFBI2qELx4HWxC-F9w4iZCQovLoUgwjaSy4ip53BOyz4BGTavWvEddG_3wYVHchmFfKnh9NC__dxwYBbOCrzGNydR3K12VAzKAOmVqILtU/s1600/blood-donation-3.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="ศรัทธาแห่งความภูมิใจในการบริจาคเลือด" border="0" height="450" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiGLP5sGiNhNediglZI_lH0y8ue7h3td1FJ5KFBI2qELx4HWxC-F9w4iZCQovLoUgwjaSy4ip53BOyz4BGTavWvEddG_3wYVHchmFfKnh9NC__dxwYBbOCrzGNydR3K12VAzKAOmVqILtU/s640/blood-donation-3.jpg" title="ศรัทธาแห่งความภูมิใจในการบริจาคเลือด" width="640" /></a></div>
<br />
<h3>
<span style="color: #38761d;">ศรัทธาแห่งความภูมิใจ</span></h3>
เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณ และยกย่องสรรเสริญผู้บริจาโลหิตศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ได้จัดทำเข็มที่ระลึกผู้บริจาคโลหิตขึ้นเพื่อมอบให้ผู้บริจาคโลหิต โดยจัดทำเข็มที่ระลึกครั้งที่ 1,7,16,24,36,48,60,72,84,96 และ 108 ตามลำดับ สำหรับผู้บริจาคโลหิตครบ 50,75 และ 100 ครั้ง จะได้รับพระราชทานเหรียญกาชาดสมนาคุณชั้นที่ 3,2 และ 1 ตามลำดับ ส่วนพระภิกษุ สามเณรจะได้รับพระราชทานพัดกาชาดสมนาคุณ<br />
<br />
<h3>
<span style="color: #990000;">ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เปิดทำการ</span></h3>
<ul>
<li>วันจันทร์ พุธ ศุกร์ (ไม่หยุดพักกลางวัน) เวลา 08.00 - 16.30 น.</li>
<li>วันอังคารและพฤหัส (ไม่หยุดพักกลางวัน) เวลา 07.30 - 19.30 น.</li>
<li>วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.30 - 15.30 น.</li>
</ul>
<br />
<b>โทร : </b>0-2256-4300 , 0-2263-9600-99 ต่อ 1101<br />
<b>E-mail :</b> blood@redcross.or.th<br />
<b>Website :</b> www.redcross.or.th, www.blooddonationthai.com<br />
<br />
<h3>
<span style="color: #990000;">ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ</span></h3>
<ul>
<li>ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 3 จ.ชลบุรี โทร. 038-278-905</li>
<li>ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 4 จ.ราชบุรี โทร. 032-327-476</li>
<li>ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 จ.นครราชสีมา โทร. 044-342-407</li>
<li>ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 6 จ.ขอนแก่น โทร. 043-246-807</li>
<li>ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 7 จ.อุบลราชธานี โทร. 045-244-628 ต่อ 105</li>
<li>ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 8 จ.นครสวรรค์ โทร. 056-371-447</li>
<li>ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 9 จ.พิษณุโลก โทร. 055-211-353 ต่อ 111</li>
<li>ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 10 จ.เชียงใหม่ โทร. 053-418-389 ต่อ 17</li>
<li>ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 12 จ.สงขลา โทร. 074-254-130</li>
<li>ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ จ.ภูเก็ต โทร. 076-251-178 ต่อ 2</li>
<li>งานบริการโลหิต สถานีกาชาดหัวหินเฉลิมพระเกียรติ จ.ประจวบคีรีขันธ์ โทร. 032-512-370</li>
</ul>
<br />
<b><span style="color: #bf9000;">หรือบริจาคโลหิตได้ที่</span></b><br />
สาขาบริการโลหิต และโรงพยาบาลประจำจังหวัดทั่วประเทศ<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEis-653Df8aKHgY5_Ukelxj9e9TYkuh1q-kbsNpjDitbDH5_jP8eKROQr6aIFztc3NMvwaZjAsbdFFjVLtQTnBNp_OLpXHUYG_WsYQpC339f7LegLG7UJtzSpB83SgXzYt_O1UG0zIhexE/s1600/blood-donation-4.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="ติดต่อศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย" border="0" height="576" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEis-653Df8aKHgY5_Ukelxj9e9TYkuh1q-kbsNpjDitbDH5_jP8eKROQr6aIFztc3NMvwaZjAsbdFFjVLtQTnBNp_OLpXHUYG_WsYQpC339f7LegLG7UJtzSpB83SgXzYt_O1UG0zIhexE/s640/blood-donation-4.jpg" title="ติดต่อศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย" width="640" /></a></div>
<br />
<br />
การบริจาคเลือดนอกจากจะช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ผิวพรรณสดใส และได้ตรวจสุขภาพแล้ว การบริจาคเลือดยังเป็นการแบ่งปันน้ำใจ ได้ช่วยเหลือผู้ป่วยที่ต้องการเลือดในการรักษา ถือเป็นการให้ทานที่ประเมินค่าไม่ได้ อยากเชิญชวนทุกคนให้มาบริจาคกันเยอะๆ จะทำตามกำลังที่มีหรือทำทุกๆ 3 เดือนก็ได้ ได้ประโยชน์ทั้งกับตัวเองและผู้อื่น สุขกายสบายใจกันถ้วนหน้าครับUnknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1454503014668685226.post-88582074519937480372016-04-19T05:57:00.001-07:002016-04-19T22:12:40.287-07:00ผิวไหม้แดดทำไงดี? ปัญหาผิวสุดฮิตช่วงสงกรานต์<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgJmAi61A6acstOgc2jjwi2_6QbOlkO_MEQ4_b6ZfTIvfLxaL69bgQjlOs09OiuLfx8Wx9ueqg3GaSfBwbkck3cuPXh72x8CelmZMj0kNj1P4PhHiuRGDfBk-ZwxrYbBp7u9XguLHvQaFM/s1600/sunburn.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="ผิวไหม้แดดทำไงดี?" border="0" height="426" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgJmAi61A6acstOgc2jjwi2_6QbOlkO_MEQ4_b6ZfTIvfLxaL69bgQjlOs09OiuLfx8Wx9ueqg3GaSfBwbkck3cuPXh72x8CelmZMj0kNj1P4PhHiuRGDfBk-ZwxrYbBp7u9XguLHvQaFM/s640/sunburn.jpg" title="ผิวไหม้แดดทำไงดี?" width="640" /></a></div>
<br />
อย่างที่รู้กันว่าเมืองไทยเป็นเมืองร้อน โดยเฉพาะในช่วงเดือนเมษาเทศกาลสงกรานต์ เป็นเดือนที่อากาศร้อนอบอ้าวที่สุด ว่าแล้วออกไปเล่นสาดน้ำเย็นๆกันเถอะจะได้หายร้อนสักที ไอ้ตอนเล่นมันก็เย็นอยู่หรอก แต่พอหยุดเล่นเท่านั้นแหละปัญหาตามมาทันที ปัญหาที่ว่า คือ <b><span style="color: #990000;">"ผิวไหม้แดด"</span></b> นั่นเอง<br />
<a name='more'></a><br />
<div style="margin-left: -25px; text-align: center;">
<script async="" src="//pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/adsbygoogle.js"></script>
<!-- healthbeautydd-center -->
<br />
<ins class="adsbygoogle" data-ad-client="ca-pub-3419656287281437" data-ad-slot="1371127130" style="display: inline-block; height: 280px; width: 336px;"></ins><script>
(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});
</script>
</div>
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">ผิวไหม้แดด คือ?</span></u></h3>
ผิวไหม้แดด คือ การตอบสนองของผิวหนังหลังจากโดนแดดเผาเป็นเวลานาน มีลักษณะแดงในช่วงแรกแต่พอผ่านไปสักระยะผิวจะเริ่มดำคล้ำ แสบ แห้ง ลอก บางคนเป็นมากๆอาจรู้สึกปวดแสบปวดร้อนเลยทีเดียว<br />
<br />
<br />
<br />
<h3 style="text-align: center;">
<u><span style="color: #990000;">วิธีแก้ปัญหาผิวไหม้แดด</span></u></h3>
<div>
<u><span style="color: #990000;"><br /></span></u></div>
<br />
<h3>
<span style="color: blue;">1.ประคบด้วยผ้าชุบน้ำเย็น</span></h3>
วิธีแรกสำหรับลดอาการผิวไหม้แดด คือให้นำผ้าขนหนูชุบน้ำเย็น บิดพอหมาดแล้วนำมาประคบยังผิวหนังบริเวณที่เกิดอาการไหม้แดด ความเย็นจากผ้าจะช่วยให้อาการปวดแสบปวดร้อนทุเลาลง เหมาะกับคนที่โดนแดดเผามาใหม่ๆ แต่ถ้าโดนมาหลายวันแล้ววิธีนี้จะไม่ค่อยได้ผล<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiwUggSRQmE8PLtFJk-rvyW80a8rK1CjjizSA5ZEYD84EIvx4EkWQy0bN5TVEdvJ3fPemxTLBYLOspyh1pMOtId2VsQIMWI98ZXFXlqQ12gIEL9Q4YsgNrFpJFDygt1c68bf1zGn7uVfUk/s1600/aloevera.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="ว่านหางจระเข้ บรรเทาผิวไหม้แดด" border="0" height="424" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiwUggSRQmE8PLtFJk-rvyW80a8rK1CjjizSA5ZEYD84EIvx4EkWQy0bN5TVEdvJ3fPemxTLBYLOspyh1pMOtId2VsQIMWI98ZXFXlqQ12gIEL9Q4YsgNrFpJFDygt1c68bf1zGn7uVfUk/s640/aloevera.jpg" title="ว่านหางจระเข้ บรรเทาผิวไหม้แดด" width="640" /></a></div>
<br />
<h3>
<span style="color: blue;">2. ทาว่านหางจระเข้</span></h3>
ว่านหางจระเข้ขึ้นชื่อในเรื่องรักษาแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก ช่วยบรรเทาอาการผิวไหม้แดดโดยเฉพาะ วิธีใช้ให้นำส่วนใบของว่านหางจระเข้มาปอกเปลือกแล้วล้างยางสีเหลืองออกให้สะอาด เพื่อป้องกันไม่ให้ยางกัดผิวหนัง จากนั้นนำวุ้นว่านหางจระเข้มาทาผิวหนังบริเวณที่โดนแดดเผาให้ทั่ว ช่วยบรรเทาอาการไหม้แดดได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าทาแต่ว่านหางจระเข้อย่างเดียวอาจทำให้ผิวแห้ง <b><span style="color: #990000;">จึงนิยมใช้คู่กับน้ำมันมะกอกหรือน้ำมันมะพร้าวเพื่อให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น</span></b> ทาหลังอาบน้ำวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น แต่ถ้าใครไม่รู้จะไปหาว่านหางจระเข้สดที่ไหน สามารถใช้เจลว่านหางจระเข้ที่มีขายตามท้องตลาดทาได้เช่นกันครับ<br />
<br />
<h3>
<span style="color: blue;">3.ทาน้ำผึ้งนมสด</span></h3>
นมสดเป็นครีมบำรุงผิวที่ธรรมชาติสร้างมา พระนางคลีโอพัตราอาบน้ำนมเพื่อบำรุงให้ผิวสวย ดูอ่อนวัย นมช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น ส่วนน้ำผึ้งมีสรรพคุณช่วยลดการอักเสบของผิวหนัง <b><span style="color: #990000;">ช่วยบรรเทาอาการผิวไหม้แดดได้เป็นอย่างดี </span></b>นำนมสดผสมกับน้ำผึ้งในอัตราส่วน 2 : 1 นำมาพอกผิวก่อนอาบน้ำ พอกทิ้งไว้ 15-20 นาทีแล้วออกด้วยการอาบน้ำตามปกติ ทำวันละ 1 ครั้ง จนกว่าอาการไหม้แดดจะดีขึ้น<br />
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgkOGEAdnLr6TVd0Q9gl3EDg148IgCZOYp54-I7bvqjo_teIVoMNkggbMfF8izymE0NSLCvkSh0A7mI5JY2FSejhyphenhyphennYXf4okqmQbu1IQ_7SjJf-OXYfJzHa1hPQcOM8Y8HMaN8_GALdiCE/s1600/Nivea-Cooling-After-Sun-Spray-11782.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="แก้ปัญหาผิวไหม้แดด" border="0" height="640" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgkOGEAdnLr6TVd0Q9gl3EDg148IgCZOYp54-I7bvqjo_teIVoMNkggbMfF8izymE0NSLCvkSh0A7mI5JY2FSejhyphenhyphennYXf4okqmQbu1IQ_7SjJf-OXYfJzHa1hPQcOM8Y8HMaN8_GALdiCE/s640/Nivea-Cooling-After-Sun-Spray-11782.jpg" title="nivea sun moisturising after sun spray" width="640" /></a></div>
<br />
<h3>
<span style="color: blue;">4.After sun lotion</span></h3>
After sun lotion คือ ครีมทาผิวสำหรับคนผิวไหม้แดดหรือตากแดดเป็นเวลานาน มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ วิตามินอี วิตามินบี และสารให้ความชุ่มชื้นอีกหลายตัว ใช้ทาหลังออกแดดเพื่อให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น ช่วยบรรเทาอาการผิวไหม้แดด ลดปัญหาผิวแห้งลอกได้เป็นอย่างดี มีหลายยี่ห้อให้เลือก เช่น nivea sun moisturising after sun spray , eucerin after sun lotion , dermalogica after sun repair หาซื้อได้ตามร้านขายเครื่องสำอางค์หรือห้างสรรพสินค้าทั่วไป<br />
<br />
<h3>
<span style="color: blue;">5.หลีกเลี่ยงน้ำอุ่น</span></h3>
ช่วงผิวไหม้แดดอย่าอาบน้ำอุ่นเด็ดขาด เพราะน้ำอุ่นจะทำให้ผิวแห้ง แสบ อักเสบมากขึ้น แต่ก็ไม่ต้องถึงขนาดอาบน้ำผสมน้ำแข็งเพื่อให้ผิวเย็นลง อาบน้ำที่อุณหภูมิปกติก็เพียงพอ หลังอาบน้ำหาโลชั่นบำรุงผิวมาทาเพื่อให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น และทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน<br />
<br />
ปัญหาผิวไหม้แดดไม่น่ากลัว ปกติผิวหนังของคนเรามีกลไกในการซ่อมบำรุงอยู่แล้ว เพียงแต่วิธีที่แนะนำข้างต้นสามารถช่วยบำรุงให้ผิวกลับมาดีดังเดิมเร็วขึ้น ทำเป็นประจำรับรองว่าอาการไหม้แดดดีขึ้นได้แน่นอน รู้วิธีแก้ปัญหาอย่างนี้แล้วสงกรานต์หน้าคงเล่นน้ำได้อย่างหมดห่วง จริงมั้ยครับ
Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1454503014668685226.post-90294229673549411782016-02-11T21:57:00.003-08:002016-04-19T22:09:50.890-07:00เป็นหนองที่อวัยวะเพศทำไงดี? มีวิธีรักษาดีๆมาบอก<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<br /></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgq_N6fq9LmuKysAFBG5_40UBstetr8UNJiq1yLhoQIMGzP1sxhK4Y_3GfLcShHcwHIcsAfb1LOVRo4JU8ARyvwNgsedYaw7KWeZQ1wBx34T2GlK2Al50AMZ947gR8ORVw6FJydnQBFzsw/s1600/purulent-genital.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="เป็นหนองที่อวัยวะเพศทำไงดี?" border="0" height="432" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgq_N6fq9LmuKysAFBG5_40UBstetr8UNJiq1yLhoQIMGzP1sxhK4Y_3GfLcShHcwHIcsAfb1LOVRo4JU8ARyvwNgsedYaw7KWeZQ1wBx34T2GlK2Al50AMZ947gR8ORVw6FJydnQBFzsw/s640/purulent-genital.jpg" title="เป็นหนองที่อวัยวะเพศทำไงดี?" width="640" /></a></div>
<br />
เมื่อประมาณ 3 สัปดาห์ก่อน <b><span style="color: #990000;">ผมมีปัญหากับอวัยวะเพศของผม</span></b> คือตอนแรกมันเป็นแผลเล็กๆบริเวณหนังหุ้มด้านในตรงขอบรอยต่อระหว่างหนังหุ้มกับอวัยวะเพศ เวลาอาบน้ำรู้สึกแสบ ผ่านมา 2-3 วันแผลเริ่มเป็นหนองและกระจายวงกว้างมากขึ้น โดนน้ำทีนี่เจ็บจนน้ำตาเล็ดเจ็บอย่าบอกใคร<br />
<a name='more'></a><br />
<div style="text-align: center;">
<script async="" src="//pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/adsbygoogle.js"></script>
<!-- healthbeautydd-center -->
<br />
<ins class="adsbygoogle" data-ad-client="ca-pub-3419656287281437" data-ad-slot="1371127130" style="display: inline-block; height: 280px; width: 336px;"></ins><script>
(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});
</script>
</div>
<br />
จริงๆผมเคยเป็นแบบนี้มาหลายครั้งแต่ครั้งก่อนๆเป็นไม่กี่วันไม่ต้องทายาก็หาย แต่ครั้งนี้รู้สึกหนักหนาสาหัสทรมานจนทนไม่ไหว เลยคิดว่าจะไปหาหมอหรือซื้อยามาทาก่อนดี สุดท้ายตัดสินใจลองซื้อยามาทาก่อนแล้วกัน<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgRk7U3bW3hA9bqhpiRtjJfJRAIFq1jO3IPeDhoWqmNRJPyBrcJYIj_vkLxBEkO6cwn4zQ7IQYYC7I6QEDRsENqcYdkWf8eUsudFJCgcWeNL_Vq1VvlwbhoV6ONVlRGSFCPe6tslQTxoBE/s1600/ya-ya-1.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="ยา Azycin 250 mg กับ ยา Cefspan 100 mg" border="0" height="442" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgRk7U3bW3hA9bqhpiRtjJfJRAIFq1jO3IPeDhoWqmNRJPyBrcJYIj_vkLxBEkO6cwn4zQ7IQYYC7I6QEDRsENqcYdkWf8eUsudFJCgcWeNL_Vq1VvlwbhoV6ONVlRGSFCPe6tslQTxoBE/s640/ya-ya-1.jpg" title="ยา Azycin 250 mg กับ ยา Cefspan 100 mg" width="640" /></a></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<br /></div>
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjNHbFrLlct_cDha0J6SXhLKEWK1yhXNMGnl6VmeLIQO0yUMNCQjEkJ-1V01CmOhfe0UA2EAc1IXWQ1eMxl9Pp1C7BrbRz4OXbXBZNe9YDVgCanaLTis6QQ6f49vv_Y9uagaSWVAsE1HW8/s1600/ya-ya-2.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="ยา Azycin 250 mg กับ ยา Cefspan 100 mg" border="0" height="420" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjNHbFrLlct_cDha0J6SXhLKEWK1yhXNMGnl6VmeLIQO0yUMNCQjEkJ-1V01CmOhfe0UA2EAc1IXWQ1eMxl9Pp1C7BrbRz4OXbXBZNe9YDVgCanaLTis6QQ6f49vv_Y9uagaSWVAsE1HW8/s640/ya-ya-2.jpg" title="ยา Azycin 250 mg กับ ยา Cefspan 100 mg" width="640" /></a></div>
<br />
เดินไปซื้อยาที่ร้านขายยาใกล้บ้าน พยายามเลือกร้านที่เภสัชเป็นผู้ชายจะได้คุยแบบไม่อาย เจอร้านหนึ่งเป็นผู้ชายแต่มีผู้หญิงนั่งอยู่ใกล้ๆด้วย จะเข้าดีหรือไม่เข้าดีน้อ สุดท้ายตัดสินใจเข้าไป บอกเภสัชว่าเป็นหนองที่อวัยวะเพศมียาทาอะไรช่วยได้บ้าง เภสัชบอกถ้าเป็นแบบนี้แนะนำให้กินยากินจะเหมาะกว่า <b><span style="color: #990000;">กินพร้อมกัน 8 เม็ด 1 ครั้งจบ</span></b> อืมแปลกดีเพิ่งเคยเจอเป็นครั้งแรก ไม่มีทางเลือกเจ็บเกินทนละ เภสัชว่าไงก็ว่างั้น 8 เม็ด จ่ายไป 200 กว่าบาท แพงไม่ใช่เล่นสงสัยยาจะดี<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjntyrDHa6to8rzVP7ef85ifP7mkmAyHYkbgkxYnlarFVHrI_eygCcUH9By033gHsg83fEbAq39SjON-tmdccV_7letxcC18_tOI7aCKTknFT2VcCTDtw3VDvDQNDwslAyOOD0E7Xljrac/s1600/ya-ya-3.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="Genta-Betasone Cream" border="0" height="454" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjntyrDHa6to8rzVP7ef85ifP7mkmAyHYkbgkxYnlarFVHrI_eygCcUH9By033gHsg83fEbAq39SjON-tmdccV_7letxcC18_tOI7aCKTknFT2VcCTDtw3VDvDQNDwslAyOOD0E7Xljrac/s640/ya-ya-3.jpg" title="Genta-Betasone Cream" width="640" /></a></div>
<br />
กลับถึงบ้านกินข้าวเสร็จกินยาทันที จัดพร้อมกัน 8 เม็ด ดูซิว่าจะหายจริงหรือเปล่า? <b><span style="color: #990000;">3 วันผ่านไปยังไม่หาย แผลไม่แห้งหนองยังเยอะอยู่</span></b> สงสัยยากินแบบนี้ไม่ work แล้ว ตัดสินใจไปร้านขายยาอีกร้านปรึกษาเหมือนกันบอกว่าเป็นหนองที่หนังหุ้มอวัยวะเพศ เภสัชหยิบยาทา Genta-Betasone Cream มาให้หลอดละ 30 บาท บอกล้างน้ำให้สะอาดเช็ดให้แห้ง แล้วทารอบอวัยวะเพศวันละ 2-3 ครั้ง ทาไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็หายไม่ต้องกังวล ยาตัวนี้ทาได้ทุกส่วนของร่างกายตรงไหนอักเสบ เป็นผื่น หรือติดเชื้อทาได้หมด ฟังแล้วรู้สึกดีมากแนะนำดี ราคาไม่แพงด้วย<br />
<br />
กลับถึงบ้านผมรีบล้างทำความสะอาดอวัยวะเพศของผมให้สะอาด ใช้โฟมล้างหน้าล้างแทนสบู่ถูตัวที่เคยใช้ เพราะรู้สึกว่ามันอ่อนโยนกว่าน่าจะเหมาะกับแผลติดเชื้อแบบนี้ พอล้างเสร็จก็ใช้ไดร์เป่าผมเป่าให้แห้ง แล้วก็ <b><span style="color: #990000;">ทา Genta-Betasone Cream ลงไปตรงที่เป็นแผล</span></b> ทาวันละ 2 ครั้ง เช้า-ก่อนนอน บางวันทา 3 ครั้งก็มี ทาอยู่ประมาณ 1 สัปดาห์ก็หาย<br />
<br />
ตอนนี้ผมหายดีแล้วครับ เข็ดไปอีกนานต่อไปนี้จะรักษาความสะอาดน้องชายมากขึ้น จะได้ไม่เป็นหนองแบบนี้อีก ใครมีปัญหาหนองที่อวัยวะเพศเหมือนผมลองเอาวิธีนี้ไปใช้ได้ครับ ผมลองมาแล้วได้ผลจริง
<br />
Unknownnoreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-1454503014668685226.post-57955441652321851232016-01-16T23:57:00.003-08:002016-04-19T22:09:33.559-07:00เมื่อผมรักษาสิวที่ "พรเกษมคลินิก" สาขาเซ็นทรัลเวสต์เกตครั้งแรก(Central westgate)<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEipdaGYqB9DRyTmkknx9Rz5plykERgB1uuQBOOMzYt0uwx9XDwKNpwurr0zHcNS3yPUEAAu9ncvIVQXVcMyhaUM-2AXa7CAx_PuGcZSA_rTIdnyncWdAnSxS-YdD9h6A1y1wKm0MU3M0zA/s1600/Pornkasem-clinic.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="รักษาสิวที่พรเกษมคลินิกเวสต์เกตครั้งแรก" border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEipdaGYqB9DRyTmkknx9Rz5plykERgB1uuQBOOMzYt0uwx9XDwKNpwurr0zHcNS3yPUEAAu9ncvIVQXVcMyhaUM-2AXa7CAx_PuGcZSA_rTIdnyncWdAnSxS-YdD9h6A1y1wKm0MU3M0zA/s1600/Pornkasem-clinic.jpg" title="รักษาสิวที่พรเกษมคลินิกเวสต์เกตครั้งแรก" /></a></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<br /></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">
วันนี้ผมมีเรื่องการรักษาสิวมาเล่าให้ฟัง เป็นการรักษาสิวที่<b><span style="color: #0b5394;"> "พรเกษมคลินิก"</span></b> สาขาเซ็นทรัลเวสต์เกตครั้งแรก ถือเป็นการรีวิวเรื่องการรักษา บริการ และค่ายาแบบย่อมๆก็แล้วกันครับ</div>
<br />
<a name='more'></a><br />
<div style="text-align: center;">
<script async="" src="//pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/adsbygoogle.js"></script>
<!-- healthbeautydd-center -->
<br />
<ins class="adsbygoogle" data-ad-client="ca-pub-3419656287281437" data-ad-slot="1371127130" style="display: inline-block; height: 280px; width: 336px;"></ins><script>
(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});
</script>
</div>
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjk3V_tt7YaJUKtVDPoT8sAYREi1_K-7DQVMt44khuICb6q2hd7qRvg7xFnV6t3yQLt-U8D7lzDcr5rSmfM-o2MDlgFEUVFzl6dEG5iqTs2g1VCwRvzKDgKZJONDqpoxgAaiMH8hAjV1Ns/s1600/face-1.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="สิวอักเสบเม็ดโต" border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjk3V_tt7YaJUKtVDPoT8sAYREi1_K-7DQVMt44khuICb6q2hd7qRvg7xFnV6t3yQLt-U8D7lzDcr5rSmfM-o2MDlgFEUVFzl6dEG5iqTs2g1VCwRvzKDgKZJONDqpoxgAaiMH8hAjV1Ns/s1600/face-1.jpg" title="สิวอักเสบเม็ดโต" /></a></div>
<br />
เรื่องของเรื่องคือผมมีสิวอักเสบเม็ดเป้งขึ้นบริเวณข้างจมูกด้านขวา จากรูปด้านบนอาจจะดูไม่ค่อยใหญ่เท่าไรแต่จริงๆค่อนข้างใหญ่และเป็นมาประมาณ 10 วันแล้ว ทายาแต้มสิวทั้ง Benzac , Retin-a และ ครีมแต้มสิวของ provemed ก็ยังไม่หาย คิดไปคิดมาขืนปล่อยไว้นานอาจมีเลือดคั่งอยู่ข้างใน <b><span style="color: #990000;">พอสิวหายต้องกลายเป็นหลุมสิวเหมือนที่เคยเป็นมาแน่ๆ</span></b>เลยตัดสินใจว่าจะไปฉีดสิวที่คลินิก<br />
<br />
ตอนแรกกะไปหาคลินิกในตลาดบางใหญ่แต่ดันไม่เปิด เลยตัดสินใจเดินเข้าไปในเซ็นทรัลเวสต์เกตเพื่อไปเดินหาคลินิกฉีดสิว คลินิกรักษาสิวจะกระจุกตัวอยู่ที่ชั้นหนึ่ง คือเดินเข้าจากทางสะพานลอยแล้วเดินไปทางขวาของลานน้ำพุต้นไม้ไฟจะเจอคลินิกเรียงรายกันอยู่ ผมเดินผ่านไป 2-3 คลินิก ก็ไปเจอพรเกษมคลินิกได้ยินชื่อมานาน บอกว่ารักษาด้วยแพทย์ผิวหนังโดยตรงดูน่าเชื่อถือ จึงตัดสินใจว่าจะไปฉีดสิวที่นี่<br />
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">นั่งรอฉีดสิว</span></u></h3>
<br />
ผมเดินเข้าไปในคลินิกบอกกับพนักงานว่าจะมาฉีดสิว พนักกงานถามผมว่าเคยรักษาที่สาขาอื่นมาก่อนหรือเปล่า ผมตอบว่าไม่เคยพนักงานจึงให้ผมกรอกประวัติคนไข้ พอกรอกเสร็จก็ไปนั่งรอที่โซฟา พอนั่งปุ๊บจะมีพนักงานมาเสิร์ฟน้ำให้ทันที คลินิกสมัยนี้บริการดีแข่งขันกันน่าดู<br />
<br />
นั่งรอหมออยู่ประมาณ 15 นาที พนักงานก็เรียกผมเข้าไปในห้องเอาผ้าห่มมาคลุมขาให้เพื่อรอฉีดสิว ในห้องจะมีเก้าอี้ที่เอนได้กับโคมไฟส่องหน้าขนาดใหญ่อยู่ นั่งรออยู่อีกเกือบ 10 นาที หมอก็เข้ามาพร้อมกับผู้ช่วยอีก 2 คน จากนั้นหมอก็เริ่มพูดคุยถึงเรื่องสิวบนหน้าผม ไล่ดูสิวที่หน้า ที่หน้าอก และที่หลัง <b><span style="color: #990000;">ดูเสร็จก็บอกผมว่าผมเป็นสิวฮอร์โมน</span></b> ลักษณะสิวจะชอบเป็นสิวอักเสบเม็ดใหญ่ พอสิวหายมักจะทิ้งรอยแผลเป็นไว้ เหมือนกับที่เป็นอยู่ (หน้าผมเป็นหลุมสิวค่อนข้างเยอะ)<br />
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">อธิบายแนวทางการรักษาสิว</span></u></h3>
<br />
หลังจากบอกสาเหตุการเกิดสิวของผมเรียบร้อย หมอก็พูดถึงแนวทางการรักษาสิวบนหน้าผมต่อไป โดยเริ่มการฉีดสิวเพื่อให้สิวยุบลง กินยา และทายาเพื่อลดการอักเสบของสิว หยุดใช้โฟมล้างหน้า ยาทารักษาสิว และครีมที่เคยใช้ แล้วให้เปลี่ยนมาใช้ของทางคลินิกทั้งหมด<br />
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">แนะนำวิธีรักษาหลุมสิว</span></u></h3>
<br />
พอพูดจบหมอก็ขออนุญาตผมเพื่อแนะนำบริการของทางคลินิกเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษารอยแดง รอยดำ และหลุมสิวบนหน้าผม(หมอคงเห็นว่ามันเยอะ) โดยตัวที่แนะนำเรื่องรอยแดงชื่อว่าโปรแกรม Smooth sure ส่วนตัวที่แนะนำเรื่องรักษาหลุมสิว คือ E-matrix พอหมอพูดจบผมก็ถามหมอว่าค่าใช้จ่ายเป็นยังไง หมอบอกว่าเดี๋ยวให้พนักงานแจ้งรายละเอียดให้ภายหลัง ซึ่งผมถามแต่ตัว E-matrix ทำ 3 ครั้งเฉพาะที่แก้ม 2 ข้าง 200 ช็อต ราคา 24,000 บาท แต่ถ้าทำทั้งหน้าแบบที่ผมเป็นคือที่แก้มและขมับทั้ง 2 ข้าง ต้อง<b><span style="color: #990000;">ทำถึง 5 ครั้ง 400 ช็อต ราคา 46,000 บาท </span></b>(เกือบครึ่งแสน) เอิ่ม!!! เก็บมันไว้ในใจก่อนแล้วกัน มาฉีดสิวกันต่อดีกว่า 5555<br />
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">เริ่มฉีดสิว</span></u></h3>
<br />
ก่อนฉีดหมอบอกว่าจะฉีดให้ผม 3 ตำแหน่ง คือ ข้างจมูก มุมปากด้านล่าง และที่คาง บอกเสร็จหมอก็เอาแอลกอฮอล์เช็ดที่หัวสิวและจัดการปักเข็มลงไป ค่อยฉีดสเตียรอยด์เข้าที่หัวสิว ความรู้สึกตอนโดนฉีดเจ็บจี๊ดเลย น้ำตาผมไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว พอฉีดที่ข้างจมูกเสร็จก็ไล่ฉีดที่มุมปากและคางตามลำดับ<br />
<br />
ฉีดสิวเสร็จหมอก็อธิบายการดูและผิวหน้า การใช้ครีม และการกินยา พูดเสร็จก็ขอตัวออกไปที่เหลือให้พนักงานเช็ดทำความสะอาดบริเวณสิวที่ฉีด และให้น้ำแข็งมาก้อนหนึ่งประคบที่หัวสิวเพื่อลดอาการบวมที่เกิดขึ้น นั่งรอสักพักก็ออกไปข้างนอกรอจ่ายเงิน<br />
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">เช็คบิล</span></u></h3>
<br />
จากที่ตั้งใจมาฉีดสิวอย่างเดียว ทำไปทำมาได้ครีมกับยากินเพิ่ม มีอะไรบ้างมาดูกัน<br />
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEheJ6pzf55NvjEh88B5-9CoNN2yqFjt9KZLBOMyPIXg5rNoDk0BawB-o-UiggfbTiOvJ3USjMRXl4IX4eRfumYU3pBo9_3Jk5TcBm-a0_bMYKSpyEB5y6TPQBQOuVHYWwADam_gYPOy__s/s1600/foam.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="โฟมล้างหน้า XG" border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEheJ6pzf55NvjEh88B5-9CoNN2yqFjt9KZLBOMyPIXg5rNoDk0BawB-o-UiggfbTiOvJ3USjMRXl4IX4eRfumYU3pBo9_3Jk5TcBm-a0_bMYKSpyEB5y6TPQBQOuVHYWwADam_gYPOy__s/s1600/foam.jpg" title="โฟมล้างหน้า XG" /></a></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<br /></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<b><span style="color: red;">โฟมล้างหน้า ขนาด 50 g ราคา 120 บาท</span></b></div>
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhOpRZY7lUc7E0S6pOJEg8iu6P582Z6Gtsr3qgnZYSiseKmUip_Y-g06aFAp25HCM9Ty5PVjYZQhJNA47pe-TBNKkDYj7MxpjLK88gb_kqv8WYfc3k6PG8B06KSRvuH3cIf2_LNjdWqpto/s1600/ya-1.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="ยาแต้มสิว AS2 พรเกษมคลินิก" border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhOpRZY7lUc7E0S6pOJEg8iu6P582Z6Gtsr3qgnZYSiseKmUip_Y-g06aFAp25HCM9Ty5PVjYZQhJNA47pe-TBNKkDYj7MxpjLK88gb_kqv8WYfc3k6PG8B06KSRvuH3cIf2_LNjdWqpto/s1600/ya-1.jpg" title="ยาแต้มสิว AS2 พรเกษมคลินิก" /></a></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<br /></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<span style="color: red;"><b>ยาแต้มสิว ขนาด 6 cc ราคา 125 บาท</b></span></div>
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgcUTFHt94DdHniPKWuab4h0khqR_F4TOSZ9nc60KJ_Hx5oYzF_ssiplM6Nfm8nSWRY_i7DSRUgPyNRUR0WMW51SXAPBd0IlwTCBmgjxcanOc6xIXcdIWWBwu9zdcWCjSMv5A_pYWjsvFk/s1600/ya-2.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="ครีมบำรุงผิว Aloe พรเกษม" border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgcUTFHt94DdHniPKWuab4h0khqR_F4TOSZ9nc60KJ_Hx5oYzF_ssiplM6Nfm8nSWRY_i7DSRUgPyNRUR0WMW51SXAPBd0IlwTCBmgjxcanOc6xIXcdIWWBwu9zdcWCjSMv5A_pYWjsvFk/s1600/ya-2.jpg" title="ครีมบำรุงผิว Aloe พรเกษม" /></a></div>
<div style="text-align: center;">
<br /></div>
<div style="text-align: center;">
<b><span style="color: red;">ครีมบำรุงผิว Aloe ขนาด 7 g ราคา 80 บาท</span></b></div>
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi2wRXDYO-KmbBv5UcWLTDen5J50GmY9eRDgqugpJfbz-44HHX1e7jLaN7MFYREntIGOwibKC7XbyLd6HRIc6iiors8RIRTMTa33xW-EHPtmWqxQgvOOaN8MaqivdK_7KzF-xY-tR38QWs/s1600/ya-3.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="ครีมกันแดด SunO พรเกษมคลินิก" border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi2wRXDYO-KmbBv5UcWLTDen5J50GmY9eRDgqugpJfbz-44HHX1e7jLaN7MFYREntIGOwibKC7XbyLd6HRIc6iiors8RIRTMTa33xW-EHPtmWqxQgvOOaN8MaqivdK_7KzF-xY-tR38QWs/s1600/ya-3.jpg" title="ครีมกันแดด SunO พรเกษมคลินิก" /></a></div>
<div style="text-align: center;">
<br /></div>
<div style="text-align: center;">
<b><span style="color: red;">ครีมกันแดด ขนาด 5 g ราคา 150 บาท</span></b></div>
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj4vMo4oTBh5btAzEcS0KK_lqKQGsjvUmsG2w8o0SySbShaGIDUkp8PK42Eord92rVIEfugFJmfSILLBV7RKs0vJ2CSall3P4ScZg5ElNlBkBTctFJJWl2ptck7S7JtBRBRDI5unYZHm6c/s1600/ya-4.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="ยากินรักษาสิว" border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj4vMo4oTBh5btAzEcS0KK_lqKQGsjvUmsG2w8o0SySbShaGIDUkp8PK42Eord92rVIEfugFJmfSILLBV7RKs0vJ2CSall3P4ScZg5ElNlBkBTctFJJWl2ptck7S7JtBRBRDI5unYZHm6c/s1600/ya-4.jpg" title="ยากินรักษาสิว" /></a></div>
<div style="text-align: center;">
<br /></div>
<div style="text-align: center;">
<b><span style="color: red;">ยากิน 2 ตัว ราคา 168 บาท กับ 240 บาท</span></b></div>
<br />
<br />
ตอนแรกยังไม่รู้ราคาครีมกับราคายา ในใจคิดว่าไม่น่าเกิน 600-700 บาท มั้ง พนักงานเรียกไปจ่ายตังค์เจอไป <b><span style="color: #990000;">1,291 บาท</span></b> ตกใจ!!!!! ไม่ได้เข้าคลินิกรักษาสิวนานไม่ชินกับราคา แต่เอาเถอะไหนๆก็มาแล้วไม่ได้มากันบ่อยๆ<br />
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">ลำดับการทายา</span></u></h3>
<ol>
<li>ล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้า XG</li>
<li>ทายาแต้มสิว AS2 (กลิ่นเหมือน Clinda m เลย)</li>
<li>ทาครีมบำรุงผิว Aloe</li>
<li>ทาครีมกันแดด</li>
</ol>
<div>
กินยาทั้ง 2 ตัว อย่างละ 2 เม็ด วันละ 2 ครั้ง สรุปคือกินมื้อละ 4 เม็ด เช้า-เย็น</div>
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjlAsfWThVg4KojCJZy_JaoY15-iySRhEN2iSUWRAyfiqaB69mP3X8ODwT-wfBWNdl7fDGgaLUbX0oPKrKoXGw5cJgJU6ZmL6Wvl4q2YciOYITxzBzSqqRYYWRAD1c85Md1kskHBDpJq3M/s1600/face-2.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjlAsfWThVg4KojCJZy_JaoY15-iySRhEN2iSUWRAyfiqaB69mP3X8ODwT-wfBWNdl7fDGgaLUbX0oPKrKoXGw5cJgJU6ZmL6Wvl4q2YciOYITxzBzSqqRYYWRAD1c85Md1kskHBDpJq3M/s1600/face-2.jpg" /></a></div>
<br />
นี่คือสภาพสิวหลังจากฉีดสิว ทายา และกินยา 3 วัน สิวยุบแล้วเหลือแต่รอยดำที่เกิดจากการฉีดสิว อีก 4 วัน หมอนัดเจออีกทีดูว่าสิวยุบหรือเปล่า บอกว่าจะจัดการสิวที่อยู่ข้างในให้ และจะจัดการรักษารอยสิวต่อไป<br />
<br />
นี่คือประสบการณ์รักษาสิวที่พรเกษมเซ็นทรัลเวสต์เกตครั้งแรก ประทับใจในบริการและคำแนะนำของหมอครับ หมอพูดเป็นฉากๆเหมือนมีสคริปเลย <b><span style="color: #990000;">พนักงานก็สุภาพพูดจาดี แต่ค่าครีมกับค่ายาสูงไปนิด</span></b> ไม่รู้ว่าที่อื่นราคาพอๆกันหรือเปล่า ส่วนตัวชอบโฟมล้างหน้าของเค้าครับ เป็นเนื้อเจลมีกลิ่นหอมนิดๆ ล้างแล้วรู้สึกสะอาดหน้าไม่แห้งตึง ผมหน้ามันล้างแล้วสะอาดหมดจดดี ไม่มีอะไรจะเขียนแล้วขอจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้ครับ
<br />
Unknownnoreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-1454503014668685226.post-88782840646181920892015-12-15T04:27:00.000-08:002016-04-19T22:09:14.210-07:00ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ ช่วยห่างไกลจากเชื้อหวัด<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjUhTz6582bZkh4kaX3ck9QoPk9bDDUWUbN4ROURMjHiNCTX8PiaZBlKQM8Aeazky8vBNHLs4U4IZ-dg4mByswvRksLFEWwgwWOw2VZZkUlAfrxQsaRn3jRkgYRCY_I4hJTqS4BEHxiryY/s1600/Saline-nasal-wash-2.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ ช่วยห่างไกลจากเชื้อหวัด" border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjUhTz6582bZkh4kaX3ck9QoPk9bDDUWUbN4ROURMjHiNCTX8PiaZBlKQM8Aeazky8vBNHLs4U4IZ-dg4mByswvRksLFEWwgwWOw2VZZkUlAfrxQsaRn3jRkgYRCY_I4hJTqS4BEHxiryY/s1600/Saline-nasal-wash-2.jpg" title="ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ ลดอาการภูมิแพ้" /></a></div>
<br />
ไม่แน่ใจว่าช่วงนี้หน้าหนาว หรือหน้าอะไรกันแน่ อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เดี๋ยวหนาว เดี๋ยวฝน เดี๋ยวร้อนหลายคนปรับตัวไม่ทันโดนไข้หวัดเล่นงานกันยกใหญ่ เป็นเล็กน้อยซื้อยามากินพอไหว แต่ถ้าเป็นมากคงต้องไปหาหมอให้หมอช่วยเคลียร์ให้ เหนื่อยใจจริงๆ<br />
<a name='more'></a><br />
<div style="text-align: center;">
<script async="" src="//pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/adsbygoogle.js"></script>
<!-- healthbeautydd-center -->
<br />
<ins class="adsbygoogle" data-ad-client="ca-pub-3419656287281437" data-ad-slot="1371127130" style="display: inline-block; height: 280px; width: 336px;"></ins><script>
(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});
</script>
</div>
<br />
วันนี้ผมมีเคล็ดลับป้องกันไข้หวัด น้ำมูกไหล ไซนัสอักเสบมาฝาก วิธีที่ว่าคือ <b><span style="color: #990000;">"การล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ"</span></b> เป็นวิธีง่ายๆที่สามารถทำได้เองที่บ้าน แต่กลับได้ผลอย่างเหลือเชื่อ<br />
<br />
<h3>
<span style="color: #990000;"><u>ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือดียังไง?</u></span></h3>
<div>
<span style="color: #990000;"><u><br /></u></span></div>
การล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ เป็นวิธีช่วยทำความสะอาดโพรงจมูก ช่วยขจัดน้ำมูก น้ำหนอง ฝุ่นละออง หรือเชื้อโรคที่อยู่ภายในจมูกให้หลุดออกมาด้วยน้ำเกลือที่ความเข้มข้น 0.9% ซึ่งใกล้เคียงกับน้ำในร่างกาย ประโยชน์ของการล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ คือ<br />
<ul>
<li>ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้โพรงจมูก</li>
<li>ช่วยขจัดน้ำมูกที่คั่งอยู่ในโพรงจมูก ให้ออกมาอย่างง่ายดายและรวดเร็ว</li>
<li>ช่วยป้องกันการลุกลามของเชื้อโรค ไม่ให้ลุกลามไปยังไซนัสและปอด</li>
<li>ช่วยลดอาการแน่นจมูก หายใจไม่ออก</li>
<li>ช่วยลดเสมหะ ลดจำนวนน้ำมูกที่ไหลลงคอ</li>
<li>ช่วยลดปริมาณสารก่อภูมิแพ้ในโพรงจมูก</li>
<li>ช่วยลดการระคายเคือง หรืออาการคันจมูก</li>
</ul>
<div>
<br /></div>
<div>
<h3 style="text-align: center;">
<u><span style="color: #990000;">วิธีล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ</span></u></h3>
</div>
<div>
<u><span style="color: #990000;"><br /></span></u></div>
<div>
<u><span style="color: #990000;"><br /></span></u></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjrJlDnJSHnz8CGha-0OplsDPEfFc0QRPpeP4khpDamOuP_IgJUSo4qZF8XFG4LFuxcD-Fo_2olgVanwNB8IzjBfNmG2CqDPKJGIU89ZlhU-FI3qOk1t9ziCFmkHVTxiN24g9y50ToGAK8/s1600/Syringe+10+cc.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="400" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjrJlDnJSHnz8CGha-0OplsDPEfFc0QRPpeP4khpDamOuP_IgJUSo4qZF8XFG4LFuxcD-Fo_2olgVanwNB8IzjBfNmG2CqDPKJGIU89ZlhU-FI3qOk1t9ziCFmkHVTxiN24g9y50ToGAK8/s400/Syringe+10+cc.jpg" width="400" /></a></div>
<div>
<u><span style="color: #990000;"><br /></span></u></div>
<div>
<u><span style="color: #990000;"><br /></span></u></div>
<div>
<br /></div>
<div>
<h3>
<b><span style="color: blue;">อุปกรณ์</span></b></h3>
</div>
<div>
<ul>
<li>น้ำเกลือความเข้มข้น 0.9%</li>
<li>กระบอกฉีดยาหรือไซริ้ง ขนาด 10-20 cc</li>
<li>แก้วน้ำหรือภาชนะสำหรับแบ่งน้ำเกลือ</li>
<li>กระดาษทิชชู่</li>
</ul>
<div>
<h3>
<b><span style="color: blue;">วิธีล้าง</span></b></h3>
</div>
</div>
<div>
<ol>
<li>เทน้ำเกลือลงในแก้วน้ำหรือภาชนะที่เตรียมไว้ กะให้พอดีต่อการใช้ เราจะไม่เทกลับขวดถ้ามันเหลือ เพราะจะทำให้เชื้อโรคผสมกับน้ำเกลือในขวดได้</li>
<li>ดูดน้ำเกลือด้วยกระบอกฉีดยา หรือไซริ้งที่เตรียมไว้ โดยดูดให้เต็มกระบอก</li>
<li>เตรียมท่าก่อนล้างจมูกโดยก้มหน้าลงเล็กน้อย เพื่อให้การล้างง่ายขึ้น กลั้นหายใจ นำไซริ้งจ่อเข้าไปในจมูก จากนั้นค่อยๆฉีดน้ำเกลือเข้าอย่างช้าๆ เลือกจมูกข้างที่หายใจสะดวกก่อน</li>
<li>เปลี่ยนมาล้างจมูกอีกข้างหนึ่ง ทำเหมือนเดิมค่อยๆฉีดน้ำเกลือเข้าไปเพื่อทำความสะอาดโพรงจมูก โดยระหว่างฉีดอาจมีน้ำมูก ขนจมูก หรือสิ่งสกปรกหลุดออกมา ให้สั่งน้ำมูกที่ไหลออกมาให้หมด โดยให้สั่ง 2 ข้างพร้อมกันไม่ควรสั่งทีละข้าง เพราะอาจทำให้แก้วหูทะลุได้</li>
<li>หากล้างจมูกซ้ายขวาจนแน่ใจว่าน้ำมูกหรือสิ่งสกปรกออกหมดแล้ว ให้ล้างทำความสะอาดบริเวณจมูก และบ้วนปากด้วยน้ำเปล่าอีกครั้ง จากนั้นใช้ทิชชู่เช็ดให้แห้งเป็นอันเสร็จขั้นตอนการล้าง </li>
</ol>
<div>
<br /></div>
</div>
<h3>
<span style="color: #990000;"><u>ทิศทางการไหลของน้ำเกลือ
</u></span></h3>
<br />
ระหว่างที่เราฉีดน้ำเกลือเข้ารูจมูก น้ำเกลือจะไหลออกได้ 3 ทาง คือ<br />
<ul>
<li>ไหลกลับทางเดิม</li>
<li>ไหลทะลุไปอีกข้าง</li>
<li>ไหลเข้าปาก</li>
</ul>
<div>
<br /></div>
<div>
บางคนล้างจมูกแล้วน้ำเกลือไหลกลับทางเดิม ไม่ไหลทะลุออกรูจมูกอีกข้างก็รู้สึกว่าตัวเองล้างไม่ถูกวิธี ซึ่งความจริงแล้วไม่ว่าน้ำเกลือจะไหลออกทางไหนก็ไม่ผิด <b><span style="color: #990000;">ขอแค่อย่าให้สำลักก็พอ</span></b> เพราะถ้าสำลักอาจทำให้เชื้อโรคไหลกลับเข้าไปยังไซนัสได้</div>
<div>
<br /></div>
<br />
<h3>
<span style="color: #990000;"><u>ล้างจมูกบ่อยเป็นอันตรายหรือไม่?</u></span></h3>
<div>
<br /></div>
<div>
การล้างทำความสะอาดจมูกด้วยน้ำเกลือไม่เป็นอันตราย ล้างบ่อยแค่ไหนก็ได้ขอแค่ล้างให้ถูกวิธี ไม่สำลักน้ำเกลือระหว่างล้าง แต่ส่วนใหญ่จะล้างวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น และควรล้างก่อนรับประทานอาหาร หรือหลังทานอาหารประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการอาเจียน หรือสำลักที่อาจเกิดขึ้น</div>
<div>
<br /></div>
<h3>
<span style="color: #990000;"><u>อย่าลืมทำความสะอาดกระบอกฉีดยาทุกครั้ง</u></span></h3>
<div>
<br /></div>
<div>
หลังจากล้างจมูกด้วยน้ำเกลือเสร็จแล้ว ควรล้างทำควาสะอาดกระบอกฉีดยาหรือไซริ้งด้วยน้ำสบู่ทุกครั้ง และตากให้แห้ง เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อโรค</div>
<div>
<br /></div>
<h3>
<u><span style="color: #990000;">ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ล้างจมูกได้ทั้งนั้น</span></u></h3>
<div>
<br /></div>
<div>
หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าการล้างจมูก ควรใช้ในเด็กเท่านั้น แต่จริงๆแล้วไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ ก็สามารถล้างจมูกด้วยน้ำเกลือได้เหมือนกัน โดยเฉพาะเวลาที่รู้สึกเหมือนจะไม่สบาย มีน้ำมูก หรือรู้สึกเจ็บคอ ควรรีบล้างทำความสะอาดโพรงจมูกด้วยน้ำเกลือ จะช่วยให้อาการเจ็บป่วยบรรเทาลง เผลอๆอาจไม่ต้องกินยาหาหมอเลยก็ได้</div>
<div>
<br /></div>
<h3>
<u><span style="color: #990000;">ประสบการณ์ล้างน้ำเกลือลดอาการไอ และเสมหะ</span></u></h3>
<div>
<br /></div>
<div>
ผมมีประสบการณ์ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือมาเล่าให้ฟัง เรื่องของเรื่องคือ มีช่วงหนึ่งผมมีปัญหาไอเรื้อรัง ไอได้ไอดีไอไม่หยุด โดยเฉพาะตอนกลางคืนอากาศเย็นๆไอจนไม่ได้หลับไม่ได้นอน ตอนแรกไอแบบแห้งๆไม่มีเสมหะ ทนไม่ไหวตัดสินใจไปหาหมอที่โรงพยาบาลรัฐบาล หมอให้ x-rey ปอดกับตรวจเลือด ผลออกมาปกติทั้ง 2 อย่าง สุดท้ายหมอสรุปว่าผมน่าจะเป็นหลอดลมอักเสบ ให้ยาแก้ไอกับยาละลายเสมหะมากิน กินยาจนหมดไม่หาย ตัดสินใจซื้อยามากินเองก็ไม่หาย สุดท้ายทนไม่ไหวลองไปหาหมอเฉพาะทางที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง</div>
<div>
<br /></div>
<div>
หมอให้ยาเสตียรอยด์สำหรับสูดทาปาก ยาพ่นทางจมูก ยาแก้แพ้ และยาแก้ไอ พร้อมกับให้ผม <b><span style="color: #990000;">ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ </span></b>หมอบอกว่าวิธีนี้ช่วยให้โพรงจมูกสะอาด ลดอาการแพ้ ลดน้ำมูก พอน้ำมูกน้อยลงเสมหะจะน้อยลงตามไปด้วย</div>
<div>
<br /></div>
<div>
กลับบ้านผมก็ปฏิบัติตามที่หมอบอกอย่างเคร่งครัด ล้างจมูกทุกวันวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ประมาณ 1 สัปดาห์อาการไอของผมลดน้อยลง เสมหะก็น้อยลงตามไปด้วย ตอนแรกบอกตามตรงผมไม่คิดว่าการล้างจมูกจะได้ผลดีขนาดนี้ <b><span style="color: #990000;">พอลองทำแล้วหายผมล้างจมูกด้วยน้ำเกลือทุกวันเลย</span></b> เหมาะกับคนเป็นภูมิแพ้อย่างผมมาก</div>
<div>
<br /></div>
<div>
การล้างจมูกด้วยน้ำเกลือเป็นวิธีดูแลสุขภาพที่ง่ายและได้ผลดี ช่วยลดอาการภูมิแพ้ ลดน้ำมูกที่ข้นเหนียวได้เป็นอย่างดี เดี๋ยวนี้ใครเป็นไข้หวัดมีน้ำมูก ผมแนะนำให้ล้างน้ำเกลือตลอด ช่วยให้หวัดหายเร็วขึ้น ช่วงนี้ใครไม่สบายลองล้างโพรงจมูกด้วยน้ำเกลือดูครับ มัน work จริงๆ</div>
<br />
Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1454503014668685226.post-86322263304751539722015-07-01T06:38:00.000-07:002016-04-19T22:08:51.415-07:00รวมวิธีรักษาสิวเป็นไตไต สิวฝังใน สิวไม่มีหัว เลือกได้ตามใจชอบ<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjajfsFCvRagOcfzs7tGdatKV-AmWOmTm0Lgl9sklb-5QpB4RFxmYqm8vnybTwoNr5406GG0tYGt08-2D5Hbj1fMnhTZ-cn8IaOYN7vh-dvFMq5SPgid68k4PsfepZOXqsa78Cj-GEgG5s/s1600/acne-tai-tai.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="สิวเป็นไตไต สิวไม่มีหัว" border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjajfsFCvRagOcfzs7tGdatKV-AmWOmTm0Lgl9sklb-5QpB4RFxmYqm8vnybTwoNr5406GG0tYGt08-2D5Hbj1fMnhTZ-cn8IaOYN7vh-dvFMq5SPgid68k4PsfepZOXqsa78Cj-GEgG5s/s1600/acne-tai-tai.jpg" title="สิวเป็นไตไต สิวไม่มีหัว" /></a></div>
<br />
<b><span style="color: #990000;">"สิวเป็นไตไต"</span></b> สิวไม่มีหัว จับดูจะรู้สึกแข็งๆแต่มองไม่เห็นหัวสิว จริงๆแล้วสิวไตไตแบบนี้คือสิวอุดตันชนิดหนึ่ง แต่มันเป็นการอุดตันที่หัวสิวอยู่ลึก และผิวชั้นบนค่อนข้างหนา ทำให้หัวสิวไม่สามารถโผล่หัวขึ้นมาได้ ว่าแล้วเอาไงกับมันดี จะปล่อยให้มันเป็นไตแข็งๆอยู่บนหน้าไปตลอดคงไม่ดีแน่ มาดูวิธีรักษาสิวไตไตกันดีกว่า<br />
<a name='more'></a><br />
<div style="text-align: center;">
<script async="" src="//pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/adsbygoogle.js"></script>
<!-- healthbeautydd-300 -->
<br />
<ins class="adsbygoogle" data-ad-client="ca-pub-3419656287281437" data-ad-slot="4814025537" style="display: inline-block; height: 250px; width: 300px;"></ins><script>
(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});
</script>
</div>
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">1. ทาครีมลดการอุดตัน</span></u></h3>
<div>
<u><span style="color: #990000;"><br /></span></u></div>
วิธีรักษาสิวเป็นไตไตวิธีแรกคือทาครีมหรือยาลดการอุดตันของสิว มีหลายตัว เช่น retin-a , differin ,Isotrexin , epiduo , benzac ac เอามาทาบริเวณที่เป็นสิว ครีมเหล่านี้จะช่วยผลัดผิว ลดการยึดเกาะของผิวชั้นบน ช่วยให้สิวอุดตันหลุดลอกออกมาง่ายขึ้น ส่วนจะใช้ทาตอนนั้นขึ้นอยู่กับประเภทยารักษาสิวที่ใช้ มีทั้งทาก่อนล้างหน้า และหลังล้างหน้า ทาเช้า-เย็น หรือทาเฉพาะก่อนนอน ก่อนซื้อใช้ควรปรึกษาเภสัชอีกที สอบถามสรรพคุณและผลข้างเคียงของยาให้ดี เพราะยาบางตัว เช่น retin-a ห้ามใช้ในหญิงมีครรภ์ ฤทธิ์ยาอาจส่งผลต่อเด็กในครรภ์ได้ ส่วนต้องใช้นานเท่าไรสิวไตไตถึงจะหายบอกไม่ได้ ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของผิวหน้าแต่ละคน ยางบางตัวอาจทำให้สิวเห่อขึ้นเยอะในช่วงแรก หรือที่เรียกว่า<b><span style="color: #990000;"> "การขับสิว"</span></b> เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ แต่ถ้าใช้ต่อเนื่องสิวจะค่อยๆหายไปในที่สุด (ถ้าไม่แพ้นะ)<br />
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">2. เลเซอร์สิวอุดตัน</span></u></h3>
<br />
อีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถช่วยจัดการสิวเป็นไตไตให้หายในชั่วข้ามคืน คือ "การทำเลเซอร์สิวอุดตัน" เป็นการใช้เลเซอร์ยิงเปิดผิวที่อุดตันให้เป็นรู ทำให้สามารถกดสิวอุดตันออกมาได้ วิธีนี้รวดเร็วกว่าการทายามาก ทำปุ๊บหายปั๊บแต่ค่าใช้จ่ายสูงกว่า <b><span style="color: #990000;">ทำครั้งหนึ่งประมาณ 1,500-3,000 บาท</span></b> ขึ้นอยู่กับจำนวนสิวอุดตันที่เป็น ถ้าเป็นสิวไตไตเยอะส่วนใหญ่จะทำแบบเหมาทั้งหน้า คลินิกรักษาสิวส่วนใหญ่มีบริการเลเซอร์สิวอุดตันหมด เลือกเอาว่าชอบที่ไหนก็จัดไปได้เลย<br />
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">3. ฉีดสิว</span></u></h3>
<br />
บางทีสิวเป็นไตไตอาจเกิดการอักเสบบวมโตขึ้น เราสามารถฉีดสิวเพื่อทำให้สิวยุบลง พอสิวยุบแล้วค่อยจัดการกดเอาหัวสิวออก การฉีดสิวไม่ทำให้สิวหาย แค่ช่วยลดการอักเสบของสิวเท่านั้น ถ้าไม่เอาหัวสิวออกเดี๋ยวมันก็เกิดอักเสบอีก ใครมีปัญหาสิวอักเสบจากสิวเป็นไตไตไปฉีดสิวได้ แต่อย่าฉีดบ่อยไม่ดี<br />
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">4. ล้างหน้าตามแนวโพรงขน</span></u></h3>
<br />
การล้างหน้าตาวแนวโพรงขนเป็นวิธีช่วยป้องกันการเกิดสิวไตไต แต่ไม่ช่วยลดการเกิดสิวนะ ขึ้นแล้วขึ้นเลยก็ต้องรักษาตามวิธีข้างบน แต่ถ้าไม่อยากให้สิวขึ้นเพิ่ม ลองล้างหน้าตามแนวโพรงขนดู เป็นทฤษฏีของหมอผิวหนังท่านหนึ่ง ที่บอกไว้ว่าหน้าเราจะมีโพรงขนอยู่จำนวนมาก การล้างหน้าแบบไร้ทิศทางจะทำให้โพรงขนไม่เป็นระเบียบ ทำให้ผิวเกิดการอุดตันง่าย การล้างหน้าตามแนวโพรงขนช่วยจัดระเบียบโพรงขน ช่วยลดโอกาสการเกิดสิวอุดตันหรือสิวเป็นไตไตได้เป็นอย่างดี ใครสนใจวิธีการล้างหน้าลดสิวแบบนี้ ตามไปอ่านได้จากลิงค์บทความนี้เลย <a href="http://acnedefend.blogspot.com/2014/01/best-of-face-wash.html" target="_blank">วิธีล้างหน้าตามแนวโพรงขน</a><br />
<br />
สิวเป็นไตไตเป็นสิวที่น่ารำคาญ รักษายาก บางคนคิดว่าปล่อยทิ้งไว้แล้วมันจะหายไปเอง สุดท้ายมีแต่สิวเป็นไตไตเต็มหน้าไปหมด เพราะฉะนั้นใครเพิ่งเริ่มเป็นควรรีบรักษาอย่างเร่งด่วน <b><span style="color: #990000;">ยิ่งปล่อยทิ้งไว้นานจะยิ่งรักษายากและเสียค่าใช้จ่ายมากขึ้น</span></b> ถ้าไม่รู้จะรักษายังไงแนะนำให้ไปหาหมอผิวหนังตามโรงพยาบาล เช่น ศิริราช , จุฬา , รามาธิบดี , สถาบันโรคผิวหนังราชวิถี ถ้าไม่อยากไปคลินิกเสริมความงาม ก็ไปที่โรงพยาบาลเหล่านี้ได้ รับรองว่าได้เจอหมอเฉพาะทางแน่นอน
<br />
Unknownnoreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-1454503014668685226.post-48957172474493579292015-06-08T06:52:00.000-07:002016-04-19T22:08:37.726-07:00ระวังเรื่องไอเรื้องรัง เสมหะเยอะ กับปัญหาโรคหอบหืด<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhvWxk4eTCD7SPYmMnFgEs3LefUHW8U_UFLDT-F9xmCeQC8WrmPB07ay9ScsrXxi5Rhn8lqgrhiwaSosheWQyncpfx3wsvWVxNeQqaNUXzcYeG8pAjY02YQYjNqFl7VG1fV_6g1HiQQw4M/s1600/asthma-and-cough-drops.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="รักษาไอเรื้อรังกับปัญหาโรคหืดหอบ" border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhvWxk4eTCD7SPYmMnFgEs3LefUHW8U_UFLDT-F9xmCeQC8WrmPB07ay9ScsrXxi5Rhn8lqgrhiwaSosheWQyncpfx3wsvWVxNeQqaNUXzcYeG8pAjY02YQYjNqFl7VG1fV_6g1HiQQw4M/s1600/asthma-and-cough-drops.png" title="รักษาไอเรื้อรังกับปัญหาโรคหืดหอบ" /></a></div>
<br />
เชื่อว่าปัญหา<b><span style="color: #990000;"> "ไอเรื้อรัง"</span></b> เป็นปัญหาที่หลายคนกำลังเผชิญอยู่ ไอได้ไอดีไอไม่ยอมหยุด หาหมอก็แล้วกินยาแก้ไอก็แล้วไม่ยอมหาย ยิ่งใครที่ชอบไอตอนกลางคืนหรือตอนเข้านอนด้วยแล้วบอกได้เลยว่าทรมานสุดๆ<br />
<a name='more'></a><br />
<div style="text-align: center;">
<script async="" src="//pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/adsbygoogle.js"></script>
<!-- healthbeautydd-300 -->
<br />
<ins class="adsbygoogle" data-ad-client="ca-pub-3419656287281437" data-ad-slot="4814025537" style="display: inline-block; height: 250px; width: 300px;"></ins><script>
(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});
</script>
</div>
<br />
ผมเองเป็นอีกหนึ่งคนที่ประสบปัญหาไอเรื้อรังมาโดยตลอด ถ้านับจริงๆไอมาเป็นปีเห็นจะได้ อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนคงสงสัยว่าไอขนาดนี้ทำไมไม่ไปหาหมอ ผมไปมาแล้วครับ ดีขึ้นแต่ไม่หายขาด จนมาถึงที่สุดท้ายอาการไอของผมดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด วันนี้จึงขอ<b><span style="color: #990000;">แชร์ประสบการณ์การรักษาอาการไอเรื้อรังและโรคหอบหืด</span></b>ให้ลองอ่านดู เผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังประสบปัญหาเหมือนกัน<br />
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">จุดเริ่มต้นของการไอเรื้อรัง</span></u></h3>
<div>
<u><span style="color: #990000;"><br /></span></u></div>
จุดเริ่มต้นของการไอเรื้อรังของผมเริ่มมาจาก การสูดฝุ่นจากการเก็บทำความสะอาดบ้านเข้าไปเยอะ เยอะจนไม่สบายแล้วไม่ยอมไปหาหมอ ไปหาซื้อยามากินเอง เพราะคิดว่าคงเป็นอาการไอที่ไม่ร้ายแรงอะไร กินแต่ยาแก้อักเสบกับยาแก้ไอแบบน้ำ ตอนกินมันก็ช่วยลดอาการไอได้นิดหน่อย แต่พอหมดฤทธิ์ยาก็ไอขึ้นมาอีก ยิ่งตอนกลางคืนผมจะไอหนักมากไอจนนอนไม่หลับ หรือบางทีหลับไปแล้วอยู่ดีๆก็รู้สึกคันคอลุกขึ้นมาไออีกชุดใหญ่ เป็นอย่างนี้อยู่หลายคืนจนทนไม่ไหวตัดสินใจไปหมอที่โรงพยาบาลของรัฐใกล้บ้าน<br />
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">หาหมอโรงพยาบาลของรัฐ</span></u></h3>
<div>
<u><span style="color: #990000;"><br /></span></u></div>
ไปหาหมอที่โรงพยาบาลของรัฐ หมอถามอาการเบื้องต้นผมก็บอกไปว่าไอติดต่อกันมานานหลายวัน ชอบไอตอนกลางคืนกลางวันไม่ค่อยไอ ไม่ค่อยกินเหล้าและไม่สูบบุหรี่ แล้วก่อนมาหาหมอก็กินยาแก้อักเสบกับยาแก้ไอมาก่อน พอบอกอาการเสร็จหมอให้ผมไป x-ray กับตรวจเลือด สงสัยว่าผมจะมีปัญหาที่ปอดหรือเปล่า แต่พอผลตรวจออกมาปรากฏว่าปอดผมปกติแข็งแรงดี ผมถามหมอว่าตกลงแล้วผมเป็นอะไร หมอตอบกลับมาว่าหลอดลมอาจจะอักเสบ หมอก็เลยจ่ายยาแก้อักเสบ กับยาแก้ไอแบบชงกับน้ำดื่มและแบบอมให้ผม ผมก็กลับบ้านด้วยความหวังว่าหาหมอเสร็จแล้วอาการไอของผมจะดีขึ้น<br />
<br />
แต่ความจริงที่เกิดขึ้นคือ หลังจากกินยาหมดแล้วอาการไอของผมก็ยังไม่ดีขึ้น ผมเห็นว่าหาหมอแล้วไม่ดีขึ้นก็เลยไม่อยากไปหาอีกจึงตัดสินใจไปร้านขายยาซื้อยาแก้ไอมากินอีก และตั้งแต่วันนั้นมาอาการไอของผมก็เป็นเรื้อรังมาโดยตลอด <b><span style="color: #990000;">ไอจนกินยาแก้ไอจะครบทุกยี่ห้ออยู่แล้วก็ยังไม่หาย</span></b> จนสุดท้ายแฟนผมทนไม่ไหวจะพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลนนทเวช ไปโรงพยาบาลเอกชนน่าจะดีกว่า ตอนแรกผมไม่อยากไปเพราะคิดว่ามันต้องแพงแน่ๆ แต่ก็ทนกับอาการไอแบบมาราธอนของตัวเองไม่ไหวจึงตัดสินใจลองไปดูสักครั้ง<br />
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">หาหมอที่โรงพยาบาลนนทเวช</span></u></h3>
<div>
<u><span style="color: #990000;"><br /></span></u></div>
ผมเพิ่งเคยไปหาหมอที่โรงพยาบาลเอกชนเป็นครั้งแรกในชีวิต บอกเลยว่าต่างจากโรงพยาบาลของรัฐจริงๆโดยเฉพาะในเรื่องการบริการ การพูดจา ต่างกันลิบลับจริงๆ ไปถึงโรงพยาบาลเค้าจะมีการคัดกรองคนไข้ที่ด้านหน้าของโรงพยาบาลเลย หลังจากซักประวัติเสร็จพยาบาลก็ส่งผมไปให้กับหมอเฉพาะทางเกี่ยวกับปอด นั่งรอคิวอยู่สักพักหมอก็เรียกเข้าไปพบ คุณหมอเป็นผู้หญิงพูดจาไพเราะ ดูเป็นมิตรมาก ซึ่งผมไม่เคยเจอเลยสักครั้งเวลาไปโรงพยาบาลของรัฐ คุณหมอก็ซักอาการป่วยของผม ประมาณว่าไอมากี่วันแล้ว ไอแห้ง หรือแบบมีเสมหะ เสมหะมีสีอะไรสีเขียวหรือเปล่า มีโรคประจำตัวมั้ย ซึ่งในส่วนโรคประจำตัวผมบอกหมอว่าผมเคยเป็นโรคหอบหืดตอนที่เป็นเด็ก แต่รักษาหายแล้วสามารถเล่นกีฬาได้ตามปกติ พอพูดคุยกันเสร็จคุณหมอให้ผมไป x-ray ปอด กับทดสอบสมรรถภาพปอด ซึ่งการ x-ray ผมเคยทำมาก่อนหน้านี้แล้วก็เลยไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ไอ้การทดสอบสมรรถภาพปอดผมเพิ่งเคยทำเป็นครั้งแรก<br />
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">ทดสอบสมรรถภาพปอด</span></u></h3>
<div>
<u><span style="color: #990000;"><br /></span></u></div>
การทดสอบสมรรถภาพปอดเป็นการทดสอบความผิดปกติของของปอดและทางเดินหายใจ มักใช้กับผู้ป่วยที่มีปัญหาไอเรื้อรังหรือโรคปอด วิธีการคือเค้าจะให้เราเป่าลมเข้าไปในเครื่อง Spirometer 2 ครั้ง โดยครังแรกจะให้เป่าแบบปกติ แต่รอบสองจะให้เราสูดยาสเตียรอยด์เพื่อขยายหลอดลมก่อนแล้วค่อยเป่า ซึ่งการเป่าลมเจข้าเครื่องนี้ต้องบอกว่าไม่ใช่เรื่องง่าย ผมเป่าอยู่หลายรอบกว่าจะใช้ได้ ต้องเป่าลมแรง เร็ว และยาวที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่งั้นผลที่ออกมาอาจไม่ถูกต้องใช้ไม่ได้<br />
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh9MG9UuYo-R-9zwo6MWfOIeNzyoyrsXo3kFl4yeCSv51tMdJp1bp6H-x6mz1wV5hXzi_NWV_btGkCgw4PUJhkLSrAfVaIq2Bmiqinsn7RfMFRzQjKDPfc4X95AfTwU0SWTCywUVlX2s2A/s1600/Seretide-accuhaler.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="Seretide accuhaler" border="0" height="312" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh9MG9UuYo-R-9zwo6MWfOIeNzyoyrsXo3kFl4yeCSv51tMdJp1bp6H-x6mz1wV5hXzi_NWV_btGkCgw4PUJhkLSrAfVaIq2Bmiqinsn7RfMFRzQjKDPfc4X95AfTwU0SWTCywUVlX2s2A/s400/Seretide-accuhaler.jpg" title="Seretide accuhaler" width="400" /></a></div>
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">คุยกับหมออีกครั้ง</span></u></h3>
<div>
<u><span style="color: #990000;"><br /></span></u></div>
หลังจากทดสมรรถภาพเสร็จเรียบร้อย ก็กลับไปที่ห้องเพื่อฟังคุณหมอประเมินผลการทดสอบ คุณหมอบอกว่าหลอดลมผมทำงานผิดปกติ ค่าที่ได้ครั้งแรกกับครั้งที่สองต่างกันอย่างมีนัยยะ ครั้งที่สองหลังจากสูดยาเสตียรอยด์เข้าไปทำให้ค่าที่วัดได้แตกต่างกัน คุณหมอบอกผมว่าหลอดลมของผมน่าจะอักเสบ ซึ่งคุณหมอจะจ่ายยาสูด <b><span style="color: #990000;">Seretide accuhaler</span></b> เป็นสเตียรอยด์กับยาพ่นทางจมูกให้ผม หน้าตายาสูดจะเป็นเหมือนรูปข้างบนเป็นวัตถุทรงกลมแบนสีม่วง<br />
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">วิธีใช้ยาสูดสเตียรอยด์ Seretide accuhaler</span></u></h3>
<div>
<u><span style="color: #990000;"><br /></span></u></div>
วิธีใช้ให้เราหมุนเปิดให้ช่องที่ใช้สูดออกมา จากนั้นให้กดคันโยกด้านขวามือลงเพื่อทำการเปิดช่องเก็บยา โดยช่องเก็บยาจะมีทั้งหมด 60 ช่อง ตั้งแต่ 0-59 กด 1 ครั้งตัวเลขจะวิ่งขึ้น 1 ตัวเลข พอกดคันโยกลงแล้วจากนั้นให้เรากลั้นหายใจและใช้ปากสูตรยาเข้าไปอย่างรวดเร็ว หลังจากสูดยาจนสุดลมหายใจแล้วให้กลั้นหายใจไว้อีก 10 วินาทีแล้วค่อยหายใจออก แล้วตามด้วยการบ้วนปากทุกครั้ง เพราะผมข้างเคียงของยาจะทำให้เกิดเชื้อราในช่องปากเรา ถ้าไม่บ้วนปากให้สะอาดเชื้อราจะติดที่ลิ้นและปากเต็มไปหมด ใช้วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น เท่ากับว่าจะต้องใช้ยาสูดสเตียรอยด์ตัวนี้ประมาณ 1 เดือนถึงจะหมด<br />
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">รับยาจ่ายตังค์กระเป๋าเบา</span></u></h3>
<div>
<u><span style="color: #990000;"><br /></span></u></div>
หลังจากตรวจเสร็จผมก็ไปจ่ายตังค์และรับยา เบ็ดเสร็จที่ผมจ่ายไปวันนั้นประมาณ 4,000 กว่าบาท จ่ายสดไม่มีประกันสังคมหรือประกันสุขภาพใดๆทั้งสิ้น ได้ยา Seretide accuhaler , ยาพ่นทางจมูก , และยากินอีก 4 กระปุก จำไม่ได้ว่ามียาอะไรบ้าง แต่จำได้คร่าวๆว่ามียาแก้ไอ ยาขยายหลอดลม และยาแก้แพ้ นัดตรวจอีกทีคือถัดไปอีก 1 เดือน เจอค่ายาเข้าไปถึงกับจุกเลยทีเดียว<br />
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">ผลการรักษาไอเรื้อรัง</span></u></h3>
<div>
<u><span style="color: #990000;"><br /></span></u></div>
หลังจากได้กินยาและสูดยา Seretide accuhaler อาการไอผมก็ดีขึ้นตามลำดับ แต่ยังไม่หายขาด ส่วนเสมหะยังคงมีเยอะเหมือนเดิม ทุกเช้าตื่นมาเสมหะจะเยอะเป็นพิเศษ ทั้งเยอะทั้งข้น บางวันนะมีเสมหะพันคอทั้งวันรู้สึกรำคาญมาก หลังจากตรวจครั้งแรกผมก็ยังไปหาหมออีกประมาณ 3 ครั้ง ซึ่งอาการไอของผมก็ยังทรงตัว ไม่ไอเยอะแต่จะไอตอนก่อนนอนหรือเวลาเปิดแอร์ สุดท้ายผมตัดสินใจไม่ไปหาหมอต่อเพราะรู้สึกว่าอาการไอเรื้อรังไม่ยอมหายสักที และรู้สึกว่าค่าใช้จ่ายมันสูงเกินกว่าที่ผมจะรับไหว<br />
<br />
หลังจากที่ผมตัดสินใจหยุดหาหมอ อาการไอผมก็ยังทรงๆตัว เรียกว่าไอจนชินก็ว่าได้ ผมคิดว่าโรคที่ผมเป็นจะกลายเป็นโรคประจำตัวไปซะแล้วเพราะ search หาข้อมูลใน google ก็เจอคนที่เป็นเหมือนกัน <b><span style="color: #990000;">ไอเรื้อรังไม่หายสักที</span></b> ตอนแรกว่าจะไม่ไปหาหมอแล้ว แต่ช่วงหลังผมเริ่มไอหนักขึ้นจนแฟนทนไม่ไหวบอกว่าจะพาไปหมอที่อื่นอีก ก็เลยหาโรงพยาบาลที่คิดว่ามีความชำนาญในด้านนี้โดยตรง สุดท้ายตัดสินใจไปหมอที่โรงพยาบาลรามาธิบดี และแล้วจุดเปลี่ยนในชีวิตผมก็เกิดขึ้น ส่วนจะเป็นยังไงนั้นขอเล่าต่อในบทความหน้า รักษาไอเรื้อรังที่โรงพยาบาลรามาธิบดี อย่าลืมติดตามกันนะครับ
<br />
Unknownnoreply@blogger.com2tag:blogger.com,1999:blog-1454503014668685226.post-43079326664721507462015-05-05T03:48:00.001-07:002016-04-19T22:08:21.466-07:00แชร์วิธีรักษาหลุมสิวเท่าที่เคยทำมา หลุมสิวนี่รักษายากจริงๆ<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhCG8SICICZckyOcKclFk-70vpAb2jqQ7rkYX6F-MyYKzxN3NBFaX7MYkiy_zfD8gOSbrEq5KVoY2jotqVYoCZD-Vixn2JKIAXcFeFh6jGQr230tcURUkew3YGPLPtCVN5_UVcySWR3gEA/s1600/acne-scar-treatment.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="วิธีรักษาหลุมสิว" border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhCG8SICICZckyOcKclFk-70vpAb2jqQ7rkYX6F-MyYKzxN3NBFaX7MYkiy_zfD8gOSbrEq5KVoY2jotqVYoCZD-Vixn2JKIAXcFeFh6jGQr230tcURUkew3YGPLPtCVN5_UVcySWR3gEA/s1600/acne-scar-treatment.jpg" title="วิธีรักษาหลุมสิว" /></a></div>
<br />
แค่เป็นสิวก็กลุ้มใจมากพอแล้วแต่ถ้าต้องเป็นหลุมสิวอีกคงปวดใจน่าดู ก็อย่างที่รู้กันว่าการรักษาหลุมสิวไม่ใช่เรื่องง่ายๆ และยิ่งถ้าเป็นเยอะๆหรือเป็นหลุมสิวที่ลึกมากๆ โอกาสหายแบบ 100% นี่แทบจะลืมไปได้เลย ผมเองเป็นผู้ประสบภัยจากปัญหาหลุมสิวคนหนึ่ง ส่วนใหญ่เป็นที่แก้ม 2 ข้าง เป็นหลุมสิวทุกประเภททั้ง Ice pick scar , Box car scar , Rolling scar รักษาหลุมสิวมาหลายครั้งหลายแบบ วันนี้ผมจะมา<b><span style="color: #990000;">แชร์ประสบการณ์รักษาหลุมสิว</span></b>ในแต่ละแบบให้อ่านกัน ตามมาครับ<br />
<a name='more'></a><br />
<div style="text-align: center;">
<script async="" src="//pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/adsbygoogle.js"></script>
<!-- healthbeautydd-300 -->
<br />
<ins class="adsbygoogle" data-ad-client="ca-pub-3419656287281437" data-ad-slot="4814025537" style="display: inline-block; height: 250px; width: 300px;"></ins><script>
(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});
</script>
</div>
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">Microdermabrasion</span></u></h3>
<div>
<u><span style="color: #990000;"><br /></span></u></div>
Microdermabrasion หรือ Crystal peel เป็นวิธีรักษาหลุมสิวด้วยเกร็ดอัญมณี โดยใช้เครื่องมือที่สามารถพ่นเกร็ดอัญมณีพ่นลงไปในบริเวณที่เป็นหลุมสิวเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวหนังของเราสร้างเนื้อผิวขึ้นมาทดแทนเนื้อผิวที่สูญเสียไป ตอนที่ทำผมทำกับคอสมาแคร์ คลินิก สาขาโลตัสวังหิน ตอนแรกไม่เคยคิดรักษาหลุมสิวบนหน้าของตัวเองมาก่อนเลย เพราะตอนนั้นไม่มีเงินเพิ่งทำงานใหม่ๆเงินเดือนยังไม่เยอะ และคิดว่าการรักษาหลุมสิวต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงมาก แต่มีวันหนึ่งบังเอิญไปรับโบรชัวร์ของทางคลินิกมา อ่านสรรพคุณของ Crystal peel แล้วรู้สึกว่าเข้าท่า ประกอบกับราคาที่พอรับได้ ถ้าจำไม่ผิดทำ 9 ครั้ง 9,000 บาท จึงตัดสินใจซื้อคอร์ส ทำสัปดาห์เว้นสัปดาห์ จนมาถึงวันสุดท้ายที่ทำเดินไปจ่ายเงิน พนักงานชวนทำ Dermaroller ต่อบอกว่า<b> <span style="color: #990000;">รักษาหลุมสิวดีกว่า Crystal peel หลายเท่า</span></b> ทำ Crystal peel 9 ครั้งไม่เท่าทำ Dermaroller ครั้งเดียว (นึกในใจทำไมไม่บอกตั้งแต่ทีแรก) แล้วพนักงานก็อธิบายวิธีการรักษาหลุมสิวด้วย Dermaroller ให้ฟัง ฟังไปเคลิ้มไป ประกอบกับเห็นว่าทำ Crystal peel แล้วมันเหมือนไม่ได้ผลเลย หลุมสิวไม่ตื้นขึ้นเลยจึงตัดสินใจทำ Dermaroller ต่อโดยหวังว่าจะช่วยให้ฝันของผมเป็นจริง อยากมีผิวหน้าเรียบๆไร้หลุมสิวเหมือนคนอื่นบ้าง<br />
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh-s-5lEY3nioyH5lrE9BRo4Gu6fkSHuOGk0omB7MPkMegY78ffl8FsJ7szueXF8aA7gRFyQj8Zl6FagDtQiDQmqer5EXivJtgxkIbcr_BdQd2qalX_8DPfUsHG8vMoZWa5oo34nAY3h0Y/s1600/derma-roller-tool.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="ลูกกลิ้ง dermaroller" border="0" height="295" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh-s-5lEY3nioyH5lrE9BRo4Gu6fkSHuOGk0omB7MPkMegY78ffl8FsJ7szueXF8aA7gRFyQj8Zl6FagDtQiDQmqer5EXivJtgxkIbcr_BdQd2qalX_8DPfUsHG8vMoZWa5oo34nAY3h0Y/s400/derma-roller-tool.jpg" title="ลูกกลิ้ง dermaroller" width="400" /></a></div>
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">Dermaroller</span></u></h3>
<div>
<u><span style="color: #990000;"><br /></span></u></div>
การทำ Dermaroller เพื่อรักษาหลุมสิวของผมในครั้งนั้นเป็นการตัดสินใจที่เร็วมาก นอกจากอยากให้หลุมสิวบนหน้าหายแล้วตอนนั้นจำได้ว่าทางคลินิกมีโปรโมชั่นมาล่อใจ ลดราคา 50% เมื่อซื้อคอร์สต่อไป จากราคา 15,000 บาท ลดเหลือ 7,500 บาท ทำ 4 ครั้ง ก่อนเขียนถึงวิธีการรักษาผมขออธิบายแนวทางการรักษาหลุมสิวด้วย Dermaroller แบบคร่าวๆก่อนแล้วกัน<br />
<br />
Dermaroller เป็นการรักษาหลุมสิวโดยใช้ลูกกลิ่งเข็มขนาดเล็กกลิ้งลงไปบริเวณผิวหนังเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน โดยทำให้ผิวหนังเกิดแผลขนาดเล็ก เป็นวิธีที่เชื่อว่าช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น ช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้นได้<br />
<br />
<b><span style="color: blue;">ขั้นตอนการทำ Dermaroller </span></b><br />
<br />
มาถึงขั้นตอนการทำ ก่อนจะกลิ้งลูกกลิ้งเข็มลงบนหน้าหมอจะให้พนักงานทายาชาให้เราก่อน ทาทิ้งไว้ประมาณ 30-40 นาที พอหน้าชาได้ที่พนักกงานจะมาเช็ดยาชาออกให้จากนั้นหมอก็จะเริ่มการทำ Dermaroller เพื่อรักษาหลุมสิวให้เรา โดยเริ่มกลิ้งลูกกลิ้งเข็มที่บริเวณแก้มก่อนเพราะผมเป็นหลุมสิวที่แก้มเยอะที่สุด ไล่ไปคาง จมูก และหน้าผาก ความรู้สึกตอนกลิ้งลูกกลิ้งเข็มต้องบอกว่าเจ็บมาก เจ็บจนน้ำตาเล็ด นี่ขนาดทายาชาแล้วยังรู้สึกเจ็บ คือหมอกลิ้งลูกกลิ้งแรงมาก ระหว่างที่หมอทำอยู่พนักกงานจะคอยซับเลือดที่ออกอยู่ตลอดเวลา ผมรู้สึกว่าเลือดผมไหลออกเยอะมากได้กลิ่นคาวเลือดของตัวเองชัดเจนเลย กลิ้งอยู่ประมาณ 10-15 นาทีก็เสร็จ หลังจากนั้นพนักงงานจะมารับช่วงต่อด้วยการทายาฆ่าเชื้อและทาวิตามินบำรุงผิวให้เราเพื่อให้ผิวหน้าฟื้นตัวเร็วขึ้น<br />
<br />
ก่อนกลับหมอให้ครีมมาทาเป็นเจลคอลลาเจนใช้ทาหลังล้างหน้าวันละ 2 ครั้งเช้าเย็น แต่วันแรกที่ทำ Dermaroller กลับบ้านไปหมอบอกว่าอย่าเพิ่งล้างหน้าให้แผลแห้งก่อนแล้วค่อยล้าง ก็เลยต้องล้างอีกทีวันรุ่งขึ้น ก่อนล้างหน้าคิดว่าต้องแสบหน้าแน่ๆหน้าดูยับเยินซะขนาดนั้น แต่พอล้างจริงๆก็ไม่แสบสักเท่าไร ทำ Dermaroller ไปแล้ว 1 ครั้ง เหลืออีก 3 ครั้ง หมอนัดให้ทำ 2 สัปดาห์/ครั้ง<br />
<br />
<b><span style="color: blue;">ผลลัพธ์ที่ได้</span></b><br />
<br />
หลังจากทำจบคอร์ส 4 ครั้ง ยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนเท่าไร ทำแรกๆหน้าจะบวมๆทำให้รู้สึกว่าหลุมสิวมันตื้นขึ้น แต่พอหน้าหายบวมมันก็กลับมาเห็นชัดเหมือนเดิม แต่หลังจากทำเสร็จประมาณ 6 เดือนจะรู้สึกว่าผิวหน้าดีขึ้น ถึงแม้หลุมสิวจะไม่หายแต่ก็ดูตื้นขึ้น ขนาดแม่ยังทักว่าหน้าดูดีขึ้น โดยรวมก็ถือว่าพอใจในระดับหนึ่ง ตอนแรกหมอบอกให้ไปทำอีกคอร์สหน้าจะเรียบกว่านี้ แต่ช่วงนั้นทรัพย์เริ่มจางเลยตัดสินใจว่าขอพักไว้ก่อน รอให้มีตังค์แล้วค่อยกลับไปทำอีกที แต่หลังจากนั้นประมาณ 1-2 ปี มารู้ว่าการทำ Dermaroller นั้นเป็นวิธีการรักษาฟลุมสิวที่ไม่ผ่าน อย. ของไทย ก็เลยไม่คิดกลับไปทำอีก<br />
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhxmI8Yb4SjrCsDsOWSNMP9EoLSpQh46P7m0n_8zlt4x0cLEPbuubs_0i2-mge_q13L2D15dcEJ3Zi9j06oE71NKq3_3Ib0ykG5TT_0jQs89BjsS6yB8065Auyu1LDEqSlPyr__mRbChgU/s1600/nokor+needle.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="เข็ม norkor needle รักษาหลุมสิว" border="0" height="400" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhxmI8Yb4SjrCsDsOWSNMP9EoLSpQh46P7m0n_8zlt4x0cLEPbuubs_0i2-mge_q13L2D15dcEJ3Zi9j06oE71NKq3_3Ib0ykG5TT_0jQs89BjsS6yB8065Auyu1LDEqSlPyr__mRbChgU/s400/nokor+needle.jpg" title="เข็ม norkor needle รักษาหลุมสิว" width="400" /></a></div>
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">Subcision</span></u></h3>
<div>
<u><span style="color: #990000;"><br /></span></u></div>
Subcision เป็นอีกวิธีรักษาหลุมสิวที่น่าสนใจ วิธีทำ Subcision นั้นหมอจะใช้เข็มขนาดเล็กที่เรียกว่า Norkor needle เป็นเข็มที่ปลายเข็มเป็นมีดขนาดเล็ก เซาะลงบริเวณขอบด้านนอกของหลุมสิวเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และทำลายพังผืดที่เกาะอยู่ที่หลุมสิว เหมาะกับหลุมสิวแบบแอ่งกระทะหรือ Rolling scar ผมได้ทำ Subcision ฟรีเพราะซื้อคอร์ส Dermaroller หมอจะทำให้ก่อนกลิ้งลูกกลิ้งเข็ม ความรู้สึกตอนทำ Subcision นั้นเหมือนโดนเอามีดมากรีดหน้า เจ็บนิดๆไม่มากเพราะทายาชาไว้ แต่รู้สึกเสียวมากกว่า โดยรวมแล้วผมคิดว่า <b><span style="color: #990000;">Subcision เป็นวิธีการรักษาหลุมสิวที่ได้ผลดีตัวหนึ่ง</span></b> ราคาก็ไม่แพงมากถ้าไม่ได้ซื้อคอร์สจะคิดเป็นจุดๆไป แต่ถ้าเป็นเยอะจะคิดแบบเหมาทั้งหน้ามากกว่า ประหยัดกว่ากันเยอะ<br />
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">Mini subcision</span></u></h3>
<br />
Mini subcision เป็นวิธีรักษาหลุมสิวด้วยเข็มคล้ายกับ Dermaroller แต่เข็มจะมีขนาดเล็กกว่า เวลาทำจะไม่กลิ้งแต่จะกดลงบนผิว หมอบางคนใช้เครื่อง บางคนใช้ค้อนทุบแล้วแต่ความถนัดของแต่ละคน ผมรักษาหลุมสิว Mini subcision ที่นิติพลคลินิก ตอนแรกไม่คิดทำเลยแค่ไปฉีดสิวเฉยๆ แต่เห็นหมอน่ารักดีเลยถามว่าถ้าหน้าเป็นหลุมสิวต้องใช้วิธีไหนรักษา หมอแนะนำให้ทำ Mini subcision นี่แหละ พอดีมีคอร์ส Mini subcision + VIPL ลดราคา ทำ Mini subcision 4 ครั้ง VIPL 4 ครั้ง 20,000 บาท เห็นราคาไม่แพงมากและอยากรักษาหลุมสิวให้หายสักทีเลยตัดสินใจหยิบบัตรเครดิตมารู๊ดปื๊ดไป 1 ทีมัดจำไว้ก่อน 10,000 บาท อาทิตย์หน้ามาทำค่อยจ่ายส่วนที่เหลือ<br />
<br />
<b><span style="color: blue;">ขั้นตอนการทำ Mini subcision</span></b><br />
<br />
ขั้นตอนการทำ Mini subcision นั้นจะเริ่มจากการเช็ดทำความสะอาดผิวหน้า จากนั้นพนักงานจะทายาชาที่หน้าให้ ทาทิ้งไว้ประมาณ 40 นาที พอหน้าเริ่มชาหมอจะเข้ามาทำ Mini subcision ให้โดยใช้เครื่องมือลักษณะเหมือนค้อนมาทุบที่หน้าเรา หลักการคล้ายกับการทำ Dermaroller เลย คือทำให้หน้าเกิดบาดแผลเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน หมอทุบหน้าผมอยู่ประมาณ 10-15 นาทีก็เสร็จ อ้อ!!! ลืมบอกไปว่าก่อนทำ Mini subcision หมอทำ Subcision เซาะพังผืดหลุมสิวให้ผมก่อน ทำให้ทุกจุดที่เป็นหลุมใหญ่ๆ ทำทุกอย่างเสร็จพนักงานจะทาเบตาดีนฆ่าเชื้อให้ทั่วหน้าเพื่อป้องกันแผลอักเสบ ก่อนกลับบ้านรับวิตามินซีแบบเม็ดไปกินพร้อมกับซื้อครีมลดรอยดำ PK Blink Gel มา 1 กระปุก ราคา 750 บาท (น้ำตาแทบไหล) ทาเพื่อให้รอยดำรอยช้ำจากการทำ Mini subcision หายเร็วขึ้น<br />
<br />
<b><span style="color: blue;">ผลลัพธ์ที่ได้</span></b><br />
<br />
หลังจากทำ Mini subcision ครบ 4 ครั้ง ตอนแรกยังไม่เห็นผลอะไรนอกจากรอยดำรอยช้ำที่ยังคงอยู่ แต่หลังจากนั้นประมาณ 5-6 เดือน รอยดำก็จะค่อยๆจางไปตามกาลเวลาผิวหน้าดูดีขึ้น <b><span style="color: #990000;">หลุมสิวดูตื้นขึ้นเล็กน้อย </span></b>แต่หน้าดูสว่างมากกว่าเดิม สรุปคือทำแล้วหลุมสิวก็ยังไม่หายไปไหน แต่ดูดีขึ้นนิดนึง ถ้ามว่าพอใจมั้ยก็พอใจในระดังหนึ่ง แต่ยังอยากให้หลุมสิวตื้นขึ้นกว่านี้อีก กำลังคิดว่าจะลองไปทำเลเซอร์อยู่เหมือนกันเผื่ออะไรๆจะดีขึ้นกว่านี้<br />
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">VIPL</span></u></h3>
<br />
VIPL เป็นวิธีลดรอยแดงรอยดำจากสิวด้วยลำแสง บางคนคิดว่ามันเป็นเลเซอร์แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ มันยังไม่เจ๋งเท่าการทำเลเซอร์ ส่วนใหญ่จะนิยมทำ VIPL เพื่อลดรอยสิว จุดด่างดำ กระชับรูขุมขน ช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น นอกจากนี้สำหรับบางคนยังสามารถช่วยลดการเกิดสิวได้อีกด้วย<br />
<br />
<b><span style="color: blue;">ขั้นตอนการทำ VIPL</span></b><br />
<br />
เริ่มจากพนักงานทำความสะอาดผิวหน้า เอาหมวกมาคลุมผม พร้อมกับแส่นตาปิดตา เตรียมตัวยิง VIPL จากนั้นหมอจะเข้ามายิงให้ เวลาถูกยิงจะรู้สึกร้อนหน้าและมีลำแสงแว๊บขึ้นมา ซึ่งจะมีพัดลมตัวเล็กๆเปิดไว้และพนังงานจะคอยประคบเย็นให้ตลอด คือยิง 1 ช็อต ประคบ 1 ครั้ง ถามว่ายิง VIPL เจ็บมั้ยขอตอบว่าไม่เจ็บมาก มันจะเหมือนถูกหนังสติ๊กดีดใส่หน้าประมาณนั้น ยิงไม่เกิน 15 นาทีก็เสร็จ หลังยิงเสร็จพนักงานจะลงครีมให้อีก 3 ตัว คือ ครีมลดการระคายเคือง , ครีมลดการอักเสบ และครีมกันแดด หลังทำหน้าจะแดงเล็กน้อยแต่ไม่นานก็หาย และจะไม่เกิดรอยแผลใดๆทั้งสิ้นแต่อาจเกิดสะเก็ดแผลสีน้ำตาลเล็กๆขึ้นได้ไม่ต้องตกใจเป็นเรื่องปกติ<br />
<br />
<b><span style="color: blue;">ผลลัพธ์ที่ได้</span></b><br />
<br />
จริงๆผมทำ Mini subcision พร้อมๆกับ VIPL คือ ทำสลับกัน สัปดาห์นี้ทำ Mini อีกสัปดาห์ทำ VIPL เลยแยกไม่ออกว่า VIPL มันดียังไง ขอเหมารวมผลลัพธ์ที่ได้กับ Mini subcision ไปเลยก็แล้วกัน ดูได้จากผลลัพธ์ด้านบนเลยครับ<br />
<br />
ก็จบกันไปกับวิธีรักษาหลุมสิวที่ผมเคยทำมา ถาวว่าวิธีไหนได้ผลสุดผมขอเรียงลำดับตามนี้ครับ <b><span style="color: #990000;">Dermaroller > Mini subcision > Subcision > VIPL > Microdermabrasion</span></b> แต่อย่างที่บอกไว้ว่า Dermaroller นั้นไม่ผ่านอย. ผมจึงไม่แนะนำให้ทำครับ ส่วนที่เหลือทำได้แต่จะได้ผลมากน้อยแค่ไหนคงขึ้นอยู่กับปัญหาหลุมสิวที่เป็น อายุ และการตอบสนองของแต่ละคน และสุดท้ายที่ขาดไม่ได้คือ เงินในกระเป๋าของแต่ละคนนั่นเองครับ
<br />
Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1454503014668685226.post-16845306035063695342015-04-07T05:18:00.001-07:002016-04-19T22:08:02.016-07:00หลั่งเร็ว เสร็จไวทำไงดี มีวิธีทำให้อึดขึ้นบ้างหรือเปล่า<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjppdrrvETuuWs7t9maLmR2czBkZb-dnwbP2jy3R6dDf7HewoGR0el5VsbYpESGsW1_VLTgniRlsVir19eoFpWtb1ixbPR8UNMBVsDkmnZjqWdWyvAIPo09-s3On1NTGBIKdb6YgY_RmCg/s1600/premeture-ejaculation.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="หลั่งเร็ว เสร็จไวทำไงดี" border="0" height="352" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjppdrrvETuuWs7t9maLmR2czBkZb-dnwbP2jy3R6dDf7HewoGR0el5VsbYpESGsW1_VLTgniRlsVir19eoFpWtb1ixbPR8UNMBVsDkmnZjqWdWyvAIPo09-s3On1NTGBIKdb6YgY_RmCg/s1600/premeture-ejaculation.jpg" title="หลั่งเร็ว เสร็จไวทำไงดี" width="560" /></a></div>
<br />
ปัญหา <b><span style="color: #990000;">"หลั่งเร็วเสร็จไว"</span></b> นี่จัดเป็นปัญหาระดับชาติเลยก็ว่าได้ อย่าเห็นว่าเป็นแค่เรื่องเล็กๆแก้ไขได้ไม่ยาก บางครั้งการหลั่งเร็วอาจเป็นบ่อเกิดของปัญหาครอบครัวได้เลยทีเดียว<br />
<br />
<a name='more'></a><br />
<div style="text-align: center;">
<script async="" src="//pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/adsbygoogle.js"></script>
<!-- healthbeautydd-300 -->
<br />
<ins class="adsbygoogle" data-ad-client="ca-pub-3419656287281437" data-ad-slot="4814025537" style="display: inline-block; height: 250px; width: 300px;"></ins><script>
(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});
</script>
</div>
<br />
ผู้ชายเป็นเพศที่ถึงจุดสุดยอดได้เร็วกกว่าผู้หญิง ใช้เวลาแค่ 3-4 นาทีก็ถึงแล้ว ในขณะที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ต้องใช้เวลานานถึง 15-20 นาทีกว่าจะสุขสมอารมณ์หมาย จึงไม่น่าแปลกใจที่ผู้ชายมักมีปัญหาการหลั่งเร็วกันเยอะ วันนี้ <a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/" target="_blank">Healthbeautydd </a>มีวิธีช่วยให้ผู้ชายหลั่งช้าลงเพื่อพาคนรักไปสู่ฝั่งฝันพร้อมๆกัน ถ้าพร้อมแล้วตามมาได้เลยครับ<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">1. ฝึกหมิบก้น</span></u></h3>
<br />
นี่เป็นเทคนิคพื้นฐานเพื่อแก้ปัญหาการหลั่งเร็วของผู้ชาย การหมิบก้นไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมใดๆทั้งสิ้น นั่งทำงานไปหมิบไปยังได้ วิธีการฝึกคือให้เราหายใจเข้า หมิบก้น และนับ 1 ถึง 10 ในใจ จากนั้นปล่อยลมหายใจนับเป็น 1 ครั้ง ทำอย่างนี้วันละ 15-20 ครั้ง ถ้าฝึกฝนอย่างต่อเนื่องคุณจะสามารถควบคุมการหลั่งได้ ปัญหาเสร็จไวจะไม่มากวนใจคุณอีกต่อไป<br />
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">2. เปลี่ยนท่าบ่อยๆ</span></u></h3>
<br />
บางครั้งถ้าเราอยู่ในท่าถนัดหรือท่าที่เราชื่นชอบเราจะถึงหรือหลั่งเร็วเป็นพิเศษ วิธีแก้ปัญหาง่ายๆคือ เวลาที่เรากำลังฟีเจอริ่งกับแฟนอยู่ถ้ารู้สึกว่ากำลังจะถึงแล้วให้เราชะลอความเร็วลงพร้อมกับเปลี่ยนท่าไปเป็นท่าใหม่ การทำอย่างนี้บางครั้งอาจทำให้เสียอามรมณ์ไปบ้าง แต่มันช่วยให้เราหลั่งช้าลงได้จริงๆ ลองดูนะครับ<br />
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">3. คำภีร์หยุดกระสุน</span></u></h3>
<br />
อีกวิธีที่ช่วยป้องกันการหลั่งเร็วได้เป็นอย่างดี คือการบีบรัดบริเวณโคนอวัยวะเพศของเรา จะบีบเองหรือจะให้แฟนช่วยบีบให้ก็ได้ครับ พอใกล้จะถึงให้ใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้บีบทิ้งไว้ประมาณ 4-5 วินาที หรือจนกว่าจะหมดอารมรณ์ที่ทำให้หลั่ง จากนั้นค่อยเริ่มบรรเลงเพลงรักกันใหม่ จะได้ไม่หลั่งเร็วทำให้เสียอารมณ์กันทั้ง 2 ฝ่าย<br />
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">4. ใช้ถุงยางช่วย</span></u></h3>
<br />
การใช้ถุงยางช่วยลดการเสียดสีภายในช่วยลดความเสียวซ่านลงไปได้เยอะ ดังนั้น<b><span style="color: #990000;">ถ้าไม่อยากหลั่งเร็วให้เลือกถุงยางอนามัยที่หนาๆเข้าไว้</span></b> หรือจะเลือกถุงยางที่มีส่วนผสมของยาชาเล็กน้อยก็ได้ ไม่อันตราย ช่วยให้เราอึดขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยครับ<br />
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">5. ฝึกงานบ่อยๆ</span></u></h3>
<br />
บางครั้งการช่วยตัวเองบ่อยๆสามารถช่วยควบคุมการหลั่งได้เป็นอย่างดี วิธีคือตอนที่เราช่วยตัวเองอยู่และกำลงจะถึงจุดสุดยอด ให้เราอดกลั้นเอาไว้ให้ได้เพื่อหยุดยั้งการหลั่งอย่าเพิ่งปล่อยออกมา พอหยุดได้ก็เริ่มกระตุ้นตัวเองต่อพอจะถึงจะถึงก็กลั้นเอาไว้อีก <b><span style="color: #990000;">ทำให้ได้วันละ 3-4 ครั้งเป็นอย่างน้อย</span></b> และจำอารมณ์ ณ จุดสุดยอดของเราให้ดี เวลาออกศึกจริงจะได้รู้ว่าเวลาไหนเราควรเร่งเวลาไหนเราควรผ่อน จะได้ไม่หลั่วเร็วถึงไวจนแฟนส่ายหน้ายังไงล่ะครับ<br />
<br />
คนรักกันต้องทำกิจกรรมเข้าจังหวะกันเป็นเรื่องธรรมดา การประคับประคองให้ไปถึงจุดสุดยอดของคนสองคนเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ และเป็นหน้าที่ของผู้ชายอกสามศอกอย่างเราที่ควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง ป้องกันไม่ให้เกิดการหลั่งเร็วเกินไป win win กันทั้ง 2 ฝ่ายรับรองว่าชีวิตคู่ยืนยาวแน่นอนครับ
<br />
Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1454503014668685226.post-42216311715781338502015-03-28T06:57:00.001-07:002016-04-19T22:07:45.742-07:00แนะนำ 3 คลีนซิ่งสำหรับคนเป็นสิว เช็ดก่อนล้างป้องกันไม่ให้สิวอุดตันขึ้น<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiLRsFW2joWs2h5tdG2r3nz2HntgkOv-pFyzHN7JfOb3V68NWF_xT6rqCJ5nd2O1FpEvPjyQMeowEoxulV0JbfoyUV-koSyGWDMGNnA5m3J4vzSUdv4thoGjgCVhVJrXns9VXQ_-IQZYRs/s1600/cleansing-for-acne.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="คลีนซิงสำหรับคนเป็นสิว" border="0" height="378" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiLRsFW2joWs2h5tdG2r3nz2HntgkOv-pFyzHN7JfOb3V68NWF_xT6rqCJ5nd2O1FpEvPjyQMeowEoxulV0JbfoyUV-koSyGWDMGNnA5m3J4vzSUdv4thoGjgCVhVJrXns9VXQ_-IQZYRs/s1600/cleansing-for-acne.png" title="คลีนซิงสำหรับคนเป็นสิว" width="560" /></a></div>
<br />
สำหรับคนเป็นสิวนั้นการทำความสะอาดผิวหน้าเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าล้างหน้าไม่สะอาดปล่อยให้มีสิ่งอุดตันตกค้างรับรองได้ว่าน้องสิวต้องถามหาอย่างแน่นอน ด้วยเหตุนี้คลีนซิ่งจึงเข้ามามีบทบาทช่วยทำความสะอาดผิวหน้าให้คนเป็นสิว มาดูกันดีกว่าว่ามี<b><span style="color: #990000;">คลีนซิ่งสำหรับคนเป็นสิว</span></b>ตัวไหนน่าสนใจบ้าง<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<br /></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
</div>
<a name='more'></a><br />
<div style="text-align: center;">
<script async="" src="//pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/adsbygoogle.js"></script>
<!-- healthbeautydd-300 -->
<br />
<ins class="adsbygoogle" data-ad-client="ca-pub-3419656287281437" data-ad-slot="4814025537" style="display: inline-block; height: 250px; width: 300px;"></ins><script>
(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});
</script>
</div>
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgRGgg0iQOD9O8tJN19LdPap-Ecmqjv_UYxfzJaUBkoELUA9XE0HEpOeB_dXk1et4lZHlWRiMNXH3ZzyQdmoPuHvWKE7LFdESLv7OtL_Cp_G51ib9TIzs87Mv-ayob9p7F2-Un6gsf3ulw/s1600/Bioderma-Sensibio-H2O.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="Bioderma Sensibio H2O (ฝาชมพู)" border="0" height="270" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgRGgg0iQOD9O8tJN19LdPap-Ecmqjv_UYxfzJaUBkoELUA9XE0HEpOeB_dXk1et4lZHlWRiMNXH3ZzyQdmoPuHvWKE7LFdESLv7OtL_Cp_G51ib9TIzs87Mv-ayob9p7F2-Un6gsf3ulw/s1600/Bioderma-Sensibio-H2O.png" title="Bioderma Sensibio H2O (ฝาชมพู)" width="400" /></a></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<br /></div>
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">1. Bioderma Sensibio H2O (ฝาชมพู)</span></u></h3>
<div>
<u><span style="color: #990000;"><br /></span></u></div>
คลีนซิ่ง Bioderma Sensibio H2O ฝาชมพู คลีนซิ่งยอดฮิตสำหรับคนเป็นสิว คลีนซิ่งสูตรน้ำที่สามารถทำความสะอาดเครื่องสำอางได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นอายไลเนอร์ รองพื้น เบส คอนซีลเลอร์ แป้งพัฟ มีส่วนผสมของสารที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย และสารช่วยลดการอักเสบบนผิวหน้า Bioderma Sensibio H2O Solution Micellaire จึงเป็นคลีนซิ่งที่ทำความสะอาดผิวได้ดีโดยที่ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว <b><span style="color: #990000;">เหมาะกับคนเป็นสิวและผิวแพ้ง่าย</span></b> คนเป็นสิวคนไหนกำลังมองหาคลีนซิ่งก่อนล้างหน้าดีๆสักตัวผมแนะนำเลยครับ Bioderma Sensibio H2O ฝาชมพู เป็นคลีนซิ่งอันดับหนึ่งในดวงใจของผมเลยทีเดียว ขนาด 500 ml ราคาประมาณ 850 บาท<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhOClj_xWB25g2QSFtuZy7YAR4LFGNXdrClBCArAUTtwO9JOdOtJAV6nnDRjTXdtoPwl7L2X_w7AL9Q-GMSHjKiVAOObsrBx4Nkv4Pb77N7y1i1beFeTufv7nEVe2VOnnVYafgJCrjl5V0/s1600/Bifesta-Sebum-Cleansing-Lotion.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="Bifesta Sebum Cleansing Lotion" border="0" height="270" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhOClj_xWB25g2QSFtuZy7YAR4LFGNXdrClBCArAUTtwO9JOdOtJAV6nnDRjTXdtoPwl7L2X_w7AL9Q-GMSHjKiVAOObsrBx4Nkv4Pb77N7y1i1beFeTufv7nEVe2VOnnVYafgJCrjl5V0/s1600/Bifesta-Sebum-Cleansing-Lotion.png" title="Bifesta Sebum Cleansing Lotion" width="400" /></a></div>
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">2. Bifesta Sebum Cleansing Lotion (ขวดเขียว)</span></u></h3>
<br />
คลีนซิ่ง Bifesta Sebum Cleansing Lotion เป็นคลีนซิ่งสำหรับคนเป็นสิวที่ผมอยากแนะนำให้ลองใช้ สูตรนี้เป็นสูตรสำหรับคนหน้ามันหรือที่เราเรียกกันว่าขวดเขียว คลีนซิ่งสูตรน้ำที่สามารถทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างยอดเยี่ยม เช็ดเครื่องสำอางได้ทุกอย่างเหมือนกัน แต่ถ้าเจอแบบกันน้ำอาจต้องเช็ดสัก 2 รอบ ด้วยการทำความสะอาดผิวหน้าแบบเข้มข้นทำให้ Bifesta Sebum Cleansing Lotion ขวดนี้ไม่เหมาะกับคนผิวแห้งสักเท่าไร เพราะใช้แล้วอาจทำให้ผิวหน้าแห้งเกินไป ส่วนตัวแล้วคลีนซิ่งตัวนี้อาจไม่ดีเท่าคลีนซิ่ง Bioderma ตัวข้างบนแต่ถ้าเทียบเรื่องราคาแล้วถือว่า Bifesta Sebum Cleansing Lotion ตัวนี้ถูกกว่ามาก ขนาด 300 ml ราคา 380 บาท ถูกว่ากันประมาณ 2 เท่าเลยทีเดียว ด้วยราคาที่ไม่แพงมากบวกกับการทำความสะอาดที่ไม่แพ้กัน ทำให้คลีนซิ่งของ Bifesta ขวดนี้ เป็นคลีนซิ่งที่คนเป็นสิวไม่ควรมองข้ามเลยทีเดียว<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhWvugfJRG3rKYov-m1LrPNfT4aRvguzfQUM1gxZghykWUrav00kOFuvHpzsgfu0BaE1CiwXYyls4MC8PFGV_phJmk6qURpJbTmy4zpTSWi5jVWNVTYgQkgF3QeOnvK7X3wr8GTFFhMa2c/s1600/Eucerin-Dermopurifyer-Acne-&-Make-Up-Cleansing-Water.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="Eucerin Dermopurifyer Acne & Make-Up Cleansing Water" border="0" height="270" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhWvugfJRG3rKYov-m1LrPNfT4aRvguzfQUM1gxZghykWUrav00kOFuvHpzsgfu0BaE1CiwXYyls4MC8PFGV_phJmk6qURpJbTmy4zpTSWi5jVWNVTYgQkgF3QeOnvK7X3wr8GTFFhMa2c/s1600/Eucerin-Dermopurifyer-Acne-&-Make-Up-Cleansing-Water.png" title="Eucerin Dermopurifyer Acne & Make-Up Cleansing Water" width="400" /></a></div>
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">3. Eucerin Dermopurifyer Acne & Make-Up Cleansing Water</span></u></h3>
<div>
<u><span style="color: #990000;"><br /></span></u></div>
<div>
เป็นคลีนซิ่งทำความสะอาดเครื่องสำอางสูตรน้ำตัวใหม่ของยูเซอริน ที่โฆษณาเช็ดหน้าให้ดูแบบจะจะว่าเช็ดแล้วไม่มีมีสารตกค้างเหลืออยู่เลย ไม่ผสมสารที่ก่อให้เกิดการอุดตันผิวซึ่งเป็นสาเหตุการเกิดสิวอุดตัน ไม่ผสมแอลกอฮอล์ และสารกันเสียจำพวก paraben เช็ดแล้วไม่ทำให้ระคายเคืองผิวหน้า จากที่ได้ลองใช้พบว่าสามารถเช็ดทำความสะอาดผิวได้ดี <b><span style="color: #990000;">ทำความสะอาดได้หมดจดแม้กระทั่งเครื่องสำอางแบบกันน้ำ</span></b> หลังเช็ดทำความสะอาดหน้าเสร็จไม่ทำให้ผิวหน้าแห้งตึงมากเกินไป ด้วยเหตุนี้ผมจึงคิดว่า Eucerin Dermopurifyer Acne & Make-Up Cleansing Water ตัวนี้จัดเป็นคลีนซิ่งที่เหมาะกับคนเป็นสิวและผิวแพ้ง่ายตัวหนึ่ง ขนาด 200 ml ราคา 900 บาท น่าจะเป็นคู่แข่งสำคัญของ Bioderma Sensibio H2O เลยทีเดียว เพราะทั้งคุณภาพและราคาสูสีกันมาก</div>
<div>
<br /></div>
<div>
ก็จบกันไปสำหรับคลีนซิ่งสำหรับคนเป็นสิวที่ผมอยากแนะนำในวันนี้ ทั้ง 3 ตัวเป็น<b><span style="color: #990000;">คลีนซิ่งสูตรน้ำที่ผมคิดว่าเหมาะกับคนเป็นสิว</span></b> โดยปกติแล้วคนเป็นสิวจะไม่เหมาะกับคลีนซิ่งสูตรออยล์สักเท่าไร นี่เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวจากที่ผมได้ทดลองใช้เท่านั้น หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้คนเป็นสิวที่กำลังมองหาคลีนซิ่งสำหรับทำความสะอาดผิวก่อนล้างหน้าดีดีสักตัวครับ</div>
Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1454503014668685226.post-56039033339658633092015-03-20T02:17:00.002-07:002016-04-19T22:07:31.322-07:00แนะนำครีมกันแดดสําหรับคนเป็นสิว คุมมันดี ช่วยลดการเกิดสิว<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiJ2yg5Qv9rkmRUz7vBXrOuoROCjhkYEX8sJWXlA13kIl8gsvnZFtGZGQ-Zr3-Z3uTnSplliE_MnppQ5L1b11P4_a8LCKNNO6ECDMY-54pJdhjjO-kDPK2-ZOCZDw50E73oQukRWGlSN5s/s1600/sunscreen-for-acne.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="378" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiJ2yg5Qv9rkmRUz7vBXrOuoROCjhkYEX8sJWXlA13kIl8gsvnZFtGZGQ-Zr3-Z3uTnSplliE_MnppQ5L1b11P4_a8LCKNNO6ECDMY-54pJdhjjO-kDPK2-ZOCZDw50E73oQukRWGlSN5s/s1600/sunscreen-for-acne.png" width="560" /></a></div>
<br />
ครีมกันแดดกับเมืองร้อนอย่างบ้านเราเป็นของคู่กัน วันไหนไม่ได้ทาครีมกันแดดแล้วต้องออกบ้านไปโดนแดดแบบจังๆรับรองได้ว่ากลับมาหน้าดำหมองคล้ำอย่างไม่ต้องสงสัย เดี๋ยวนี้ครีมกันแดดมีมากมายหลายยี่ห้อมาให้เลือกสรร แล้วคนเป็นสิวอย่างเราควรเลือกครีมกันแดดยี่ห้อไหนดี ที่สามารถช่วยกันหน้าดำและป้องกันการเกิดสิวไปพร้อมๆกันได้ ถ้าใครยังหา<b><span style="color: #990000;">ครีมกันแดดสำหรับคนเป็นสิว</span></b>ที่ว่านี้ไม่ได้ ผมขออาสาแนะนำให้เองครับ<br />
<a name='more'></a><br />
<div style="text-align: center;">
<script async="" src="//pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/adsbygoogle.js"></script>
<!-- healthbeautydd-300 -->
<br />
<ins class="adsbygoogle" data-ad-client="ca-pub-3419656287281437" data-ad-slot="4814025537" style="display: inline-block; height: 250px; width: 300px;"></ins><script>
(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});
</script>
</div>
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgsGcAxw5MJNt770T6nJpXPb9uYJTRxrXCVuPcaxOTXYBSsNiLpHfZkYWfdmFtjHYV-7_qZtKcewHay6ScDsj0Wh-_kxIjJw-CSusQwW06rdEEd0Tuxi6QsXD1HC3emXBu6ACIteZuIiXI/s1600/spectraban-sensitive-spf-30-pa.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="ครีมกันแดดสำหรับคนเป็นสิว SpectraBAN Sensitive SPF30 PA++" border="0" height="270" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgsGcAxw5MJNt770T6nJpXPb9uYJTRxrXCVuPcaxOTXYBSsNiLpHfZkYWfdmFtjHYV-7_qZtKcewHay6ScDsj0Wh-_kxIjJw-CSusQwW06rdEEd0Tuxi6QsXD1HC3emXBu6ACIteZuIiXI/s1600/spectraban-sensitive-spf-30-pa.png" title="ครีมกันแดดสำหรับคนเป็นสิว SpectraBAN Sensitive SPF30 PA++" width="400" /></a></div>
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">ครีมกันแดด SpectraBAN Sensitive SPF30 PA++</span></u></h3>
<br />
SpectraBAN Sensitive SPF30 PA++ เป็นครีมกันแดดสำหรับคนเป็นสิวยอดนิยมตัวหนึ่ง เนื้อครีมเป็นสีขาวข้น เวลาเกลี่ยจะรู้สึกหนืด ทาแล้วทำให้หน้ามันวาวเล็กน้อย แต่ก็ไม่ถึงกับทำให้รำคาญหรือหนักหน้ามากนัก อาจเป็นเพราะให้ SPF มาต่ำเนื้อครีมจึงไม้ข้นหนืดสักเท่าไร แต่เรื่องความอ่อนโยนและการอุดตันผิวของ SpectraBAN Sensitive SPF30 PA++ นี่ต้องบอกว่าไม่ธรรมดา<b><span style="color: #990000;"> เป็นครีมกันแดดที่อ่อนโยนมากเหมาะกับคนผิวแพ้ง่าย</span></b> นอกจากนี้ยังไม่มีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดการอุดตันผิว มันจึงเป็นครีมกันแดดที่เหมาะกับคนเป็นสิวมากที่สุดตัวหนึ่ง ราคาก็ไม่แพงมาก หลอด 30 กรัม ราคา 200 กว่าบาทเท่านั้น<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg-gK_e-xjHGZg9vGYG5f6agK-etqRYJxTRFkgEzJLlooISFKT-oqqoQTW1GdkPgnjLrq_fppMVZeZpFgYGkFKW3q-rP4yTPJUm-DWp0tBmlEb-sV-Hdn3u7fYjrC0WYL3bQNLBTVqLfyk/s1600/spectraban-sc-spf40.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="ครีมกันแดดสำหรับคนเป็นสิว SpectraBAN SC SPF 40 PA+++" border="0" height="270" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg-gK_e-xjHGZg9vGYG5f6agK-etqRYJxTRFkgEzJLlooISFKT-oqqoQTW1GdkPgnjLrq_fppMVZeZpFgYGkFKW3q-rP4yTPJUm-DWp0tBmlEb-sV-Hdn3u7fYjrC0WYL3bQNLBTVqLfyk/s1600/spectraban-sc-spf40.png" title="ครีมกันแดดสำหรับคนเป็นสิว SpectraBAN SC SPF 40 PA+++" width="400" /></a></div>
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">ครีมกันแดด SpectraBAN SC SPF 40 PA+++</span></u></h3>
<br />
SpectraBAN SC SPF 40 PA+++ ครีมกันแดดสำหรับคนเป็นสิวที่น่าสนใจอีกตัวของ Spectraban เป็นครีมกันแดดเนื้อเจล เกลี่ยง่าย บางเบา ทาแล้วไม่ทำให้หน้ามันมากเหมือนครีมกันแดดแบบเนื้อครีม ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม แอกอฮอล์ และสารที่ก่อให้เกิดการอุดตันผิว ทาแล้วไม่ทำให้หน้าขาววอก ช่วยให้การแต่งหน้าง่ายขึ้น หลังทาไม่ทำให้หน้าหมองคล้ำเป็นสีเทา ส่วนราคาจัดว่าสูงอยู่เหมือนกัน ขนาด 45 ml ราคาประมาณ 800 กว่าบาท แต่ถ้าใช้แล้วไม่ทำให้สิวขึ้นช่วยลดการเกิดสิวได้จริงมันก็น่าลองนะครับ<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj4j-_jIHGO_xPoibYMupfbppob8CCVKvWUcWOz3tifH0ImTTuk6EVH6NUqf0zUdG8RSQjRSjxzr3ZU4T_IiDCcquPEDbHkOXi5k6l3Xgz-CtLv54IpgJdAsV2trLNFrIUH_m0ttq_KubU/s1600/Biore-UV-Aqua-Rich-Watery-Essence-SPF-50+-PA.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="ครีมกันแดดสำหรับคนเป็นสิว Biore UV Aqua Rich Watery Essence SPF 50+ PA+++" border="0" height="270" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj4j-_jIHGO_xPoibYMupfbppob8CCVKvWUcWOz3tifH0ImTTuk6EVH6NUqf0zUdG8RSQjRSjxzr3ZU4T_IiDCcquPEDbHkOXi5k6l3Xgz-CtLv54IpgJdAsV2trLNFrIUH_m0ttq_KubU/s1600/Biore-UV-Aqua-Rich-Watery-Essence-SPF-50+-PA.png" title="ครีมกันแดดสำหรับคนเป็นสิว Biore UV Aqua Rich Watery Essence SPF 50+ PA+++" width="400" /></a></div>
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">ครีมกันแดด Biore UV Aqua Rich Watery Essence SPF 50+ PA+++</span></u></h3>
<br />
ครีมกันแดด Biore UV Aqua Rich Watery Essence SPF 50+ PA+++ เป็นครีมกันแดดสำหรับคนเป็นสิวอีกหนึ่งตัวที่ผมชอบมากๆ เนื้อกันแดดเป็นสูตรน้ำเนื้อเอสเซ้นส์ เกลี่ยง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ บางเบา ทาแล้วไม่ทำให้หน้ามัน และที่สำคัญไม่ทำให้หน้าวอกอีกด้วย ส่วนตัวจากที่ลองใช้คิดว่า Biore UV Aqua Rich Watery Essence SPF 50+ PA+++ เป็นครีมกันแดดที่เหมาะกับคนหน้ามัน คนเป็นสิวก็ใช้ได้<b><span style="color: #990000;">ผมเป็นสิวใช้แล้วก็ไม่ทำให้อุดตันหรือเป็นสิวแต่อย่างใด</span></b> SPF ก็ให้มาถึง 50+ ซึ่งเหลือเฟือต่อการป้องกันแสงแดด นอกจากนี้สามารถทาทับ make up ระหว่างวันโดยไม่ทำให้เกิดคราวขาวอีกด้วย คนเป็นสิวที่อยากหาครีมกันแดดดีๆสักตัว ผมแนะนำครีมกันแดดของ Biore ตัวนี้เลยครับ ราคากลางๆไม่แพงมาก หลอด 50 g 400 กว่าบาท ลองดูครับแล้วจะติดใจเหมือนผม<br />
<br />
เรื่องสิวไม่เข้าใครออกใคร เมืองไทยเป็นเมืองร้อนคนกว่า 50% จึงมักมีปัญหาสิวคอยกวนใจอยู่เสมอ ครีมกันแดดเป็นผลิตภัณฑ์ที่สำคัญมากตัวหนึ่ง โดยเฉพาะกับคนที่ต้องทายารักษาสิวเป็นประจำหน้ามักบางกว่าคนปกติ การทาครีมกันแดดจะช่วยป้องกันไม่ให้หน้าดำหมองคล้ำ ด้วยเหตุนี้เราจึงควรเลือกซื้อครีมกันแดดที่บางเบา อ่อนโยน และไม่ทำให้เกิดสิวติดตัวไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้หน้าดำ ป้องกันการเกิดสิวอุดตันยังไงล่ะครับ
<br />
Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1454503014668685226.post-74564707805152035602015-03-18T23:34:00.005-07:002016-04-19T22:07:15.601-07:00cc cream คืออะไร? แตกต่างจาก bb cream ยังไง? ตัวไหนใช้ดีกว่ากัน<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEghHEY2iLVZbaR1joZFPbJIb8Zn98RmpRbQ7HwLObIsMlr_douvXQZrYFI3ro3LQM6xRhyApTL1vhuBQHuX5PZG5X7Zo1BflwhrOW_suDvFg9XYgT4ygcZVYfmc-kDrDIBpLC_y9UbFYno/s1600/cc-cream.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="cc cream คืออะไร?" border="0" height="316" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEghHEY2iLVZbaR1joZFPbJIb8Zn98RmpRbQ7HwLObIsMlr_douvXQZrYFI3ro3LQM6xRhyApTL1vhuBQHuX5PZG5X7Zo1BflwhrOW_suDvFg9XYgT4ygcZVYfmc-kDrDIBpLC_y9UbFYno/s1600/cc-cream.png" title="cc cream คืออะไร?" width="560" /></a></div>
<br />
เดี๋ยวนี่ครีมทาหน้ามีให้เลือกเยอะจริงๆทั้ง รองพื้น , เบส , มอยเจอไรเซอร์ , โทนเนอร์ , คอนซีลเลอร์ ครีมกันแดด , bb cream ล่าสุดมี cc cream มาอีกตัวซึ่งเป็นเทรนด์ที่มาจากเกาหลีเจ้าเก่า ว่าแต่มีใครสงสัยบ้างมั้ยว่า cc cream คืออะไร? แล้วมันต่างกับ bb cream ยังไง? ใช้ตัวไหนดีกว่ากัน มาดูคำตอบของคำถามเหล่านี้ได้เลยครับ<br />
<a name='more'></a><br />
<div style="text-align: center;">
<script async="" src="//pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/adsbygoogle.js"></script>
<!-- healthbeautydd-300 -->
<br />
<ins class="adsbygoogle" data-ad-client="ca-pub-3419656287281437" data-ad-slot="4814025537" style="display: inline-block; height: 250px; width: 300px;"></ins><script>
(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});
</script>
</div>
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">cc cream คือ?</span></u></h3>
<br />
cc cream คือ เทรนด์ครีมเอนกประสงค์ล่าสุดที่ต่อมาจาก bb cream มีส่วนผสมหลายอย่างคล้ายกับ cc cream ปกติ bb cream จะมีส่วนผสมของ รองพื้น เบส ครีมกันแดด ส่วน cc cream จะมีส่วนผสมของ รองพื้น เบส ครีมกันแดด และ <b><span style="color: #990000;">สารควบคุมการปรับสภาพสีผิว(Color Controller)</span></b><br />
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">cc cream ดีกว่า bb cream ยังไง?</span></u></h3>
<br />
ข้อดีของ cc cream ที่ bb cream ไม่มีก็คือการคุบคุมหรือปรับสภาพสีผิวหลังจากที่ทาครีมลงไปแล้ว คือ cc cream มันช่วยหน้าเราไม่หมองหรือดูเทาๆเหมือนกับเวลาทา bb cream cc cream มันช่วยควบคุมความสม่ำเสมอ ความเรียบเนียน และการเปลี่ยนแปลงสีผิวบนหน้าได้ดีกว่า และที่สำคัญ cc cream ยังมีเนื้อครีมที่บางเบา เกลี่ยง่ายกว่า bb cream อีกด้วย มันจึงเป็นครีมปกปิดจุดบกพร่องบนผิวหน้าที่ดีมากตัวหนึ่ง ช่วยลดขั้นตอนและเวลาทาครีมไปได้เยอะเลยล่ะ<br />
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">ข้อด้อยของ cc cream</span></u></h3>
<br />
ถึงแม้ว่า cc cream จะเป็นครีมทาผิวที่ดีแต่ข้อด้อยที่ด้อยกว่า bb cream อย่างเห็นได้ชัดก็คือความสามารถในการปกปิดจุดด่างดำและริ้วรอยบนผิวหน้า ซึ่งความสามารถนี้ bb cream ทำได้ดีกว่า ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะ cc cream มันมีเนื้อผลิตภัณฑ์ที่บางเบากว่า ทำให้ความสามารถในการปกปิดด้อยลงไป ถ้าทาเทียบกันจะเห็นได้ชัดเลยว่า bb cream ปกปิดได้ดีกว่า ก็อยู่ที่คนใช้แล้วล่ะครับว่าจะเลือกแบบปกปิดแต่ไม่เป็นธรรมชาติ หรือเลือกเป็นธรรมชาติ แต่ปกปิดได้น้อยกว่ากันแน่<br />
<br />
<h3 style="text-align: center;">
<u><span style="color: #990000;">cc cream ยอดนิยม</span></u></h3>
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiUdcOjPPaI9mRwGua4aEPi8y5waA1L7YfWb6o9bDOOtGJiZo7RUdSAnQHDxmO1pUZRgq-tnQJ2l6EYCSt7knpwLs8cVpnOH9tfZvwC3KzbrOQdf696IRByHEwr-ekllpdQiy_Fts1bblI/s1600/Origins+Smarty+Plants+CC+Spf20.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="Origins Smarty Plants CC Spf20/pa++" border="0" height="400" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiUdcOjPPaI9mRwGua4aEPi8y5waA1L7YfWb6o9bDOOtGJiZo7RUdSAnQHDxmO1pUZRgq-tnQJ2l6EYCSt7knpwLs8cVpnOH9tfZvwC3KzbrOQdf696IRByHEwr-ekllpdQiy_Fts1bblI/s1600/Origins+Smarty+Plants+CC+Spf20.jpg" title="Origins Smarty Plants CC Spf20/pa++" width="400" /></a></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<br /></div>
<div style="text-align: center;">
Origins Smarty Plants CC Spf20/pa++ 40 ml <b><span style="color: red;">ราคา 1,450 บาท</span></b></div>
<div style="text-align: center;">
<br /></div>
<div style="text-align: center;">
<br /></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhF-jL2PyKd94RzEwROmKfs0jI5rKnUvPpLKuyu6fEvbgFCkFV4m74yAt8Ew964fOSQLG7yPtXnsYkmfHIZ5Umpf2KrxFgsbyeBayonx96VQ43Byp8GFs9re6yQF7p5A3849fesMH1FBm0/s1600/Etude+Correct+&+Care+Cream+(CC%2BCream).jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="Etude Correct & Care Cream (CC Cream)" border="0" height="301" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhF-jL2PyKd94RzEwROmKfs0jI5rKnUvPpLKuyu6fEvbgFCkFV4m74yAt8Ew964fOSQLG7yPtXnsYkmfHIZ5Umpf2KrxFgsbyeBayonx96VQ43Byp8GFs9re6yQF7p5A3849fesMH1FBm0/s1600/Etude+Correct+&+Care+Cream+(CC%2BCream).jpg" title="Etude Correct & Care Cream (CC Cream)" width="400" /></a></div>
<div style="text-align: center;">
<br /></div>
<div style="text-align: center;">
Etude Correct & Care Cream (CC Cream) 35g <b><span style="color: red;">ราคา 450 บาท</span></b></div>
<div style="text-align: center;">
<br /></div>
<div style="text-align: center;">
<br /></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhu9Bm3dfrdJrFALKf9WI5ixHaagn138TkAVrXNgX39GfohH8d7abNg-Gl3634z-H4D_tu6XHEBMWUeU0NXipv49sMqMRPAna5lONSIBReWWakCwX0GS8P4I7tRbnNEXAQ3LPS83eYRl5M/s1600/Chanel+CC+Cream.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="Chanel CC Cream" border="0" height="225" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhu9Bm3dfrdJrFALKf9WI5ixHaagn138TkAVrXNgX39GfohH8d7abNg-Gl3634z-H4D_tu6XHEBMWUeU0NXipv49sMqMRPAna5lONSIBReWWakCwX0GS8P4I7tRbnNEXAQ3LPS83eYRl5M/s1600/Chanel+CC+Cream.jpg" title="Chanel CC Cream" width="400" /></a></div>
<div style="text-align: center;">
<br /></div>
<div style="text-align: center;">
Chanel CC Cream 30g <b><span style="color: red;">ราคา 2,200 บาท</span></b></div>
<div style="text-align: center;">
<br /></div>
<div style="text-align: center;">
<br /></div>
<div style="text-align: left;">
cc cream ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องแต่งหน้าและมีเวลาไม่มากในแต่ละวัน เพราะเป็นครีมที่รวมส่วนผสมหลายอย่างไว้ในหลอดเดียว ทาแล้วหน้าจะสว่างใสขึ้นมาทีเดียว แต่สำหรับคนที่มีผิวเข้มอย่าลืมเลือกสีให้แมตช์กับผิวตัวเองด้วย เพราะ <b><span style="color: #990000;">cc cream ส่วนใหญ่สีจะอ่อนและสว่างตามสไตล์สาวเกาหลี</span></b> ระวังทาแล้วหน้าจะลอยเด่นเป็นสง่าเกินจำเป็นก็แล้วกันครับ</div>
Unknownnoreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-1454503014668685226.post-81906321317795778802015-02-23T02:07:00.000-08:002016-04-19T22:06:54.872-07:00ชอบสะดุ้งตอนนอนทำไงดี กระตุกทีไรตื่นนอนทุกทีเลย<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiWq0QCpnlVrzIkK-rrDDzmVa6Me8Wo_UOwwGiQaFSufDes30rtE21HW3EzCKMGiI6zPavsbAlBvOHHY6GenlQL3MxQek1xLDypRMfw4tzn_sPxnxLwnBPUL6shVG2Hm0axn4sKoGPtcyE/s1600/Hypnic-Myoclonic-jerk.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="ชอบสะดุ้งตอนนอนทำไงดี" border="0" height="373" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiWq0QCpnlVrzIkK-rrDDzmVa6Me8Wo_UOwwGiQaFSufDes30rtE21HW3EzCKMGiI6zPavsbAlBvOHHY6GenlQL3MxQek1xLDypRMfw4tzn_sPxnxLwnBPUL6shVG2Hm0axn4sKoGPtcyE/s1600/Hypnic-Myoclonic-jerk.jpg" title="ชอบสะดุ้งตอนนอนทำไงดี" width="560" /></a></div>
<br />
เคยมั้ยครับที่นอนๆอยู่แล้วอยู่ดีๆต้อง<b><span style="color: #990000;"> "สะดุ้งตื่น"</span></b> เพราะอาการกระตุกแบบไม่ทราบสาเหตุ กระตุกทีหนึ่งไม่ใช่เบาๆนะครับนอนกอดแฟนอยู่ดีๆสะดุ้งทีแฟนตื่นเลย ผมเป็นหนุ่มวัย 30 ปีทีมีปัญหานอนสะดุ้ง เมื่อก่อนไม่เคยเป็นมาเป็นเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมานี้เอง ตอนแรกไม่คิดอะไรคิดว่าเป็นเรื่องปกติแต่ช่วงหลังเริ่มสงสัยว่าไอ้อาการสะดุ้งหรือกระตุกแรงๆแบบนี้มันจะเป็นรางบอกเหตุถึงโรคร้ายอะไรหรือเปล่าก็เลยลองหาข้อมูลที่ว่าดู และข้อมูลที่ได้ก็คือ<br />
<a name='more'></a><br />
<div style="text-align: center;">
<script async="" src="//pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/adsbygoogle.js"></script>
<!-- healthbeautydd-300 -->
<br />
<ins class="adsbygoogle" data-ad-client="ca-pub-3419656287281437" data-ad-slot="4814025537" style="display: inline-block; height: 250px; width: 300px;"></ins><script>
(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});
</script>
</div>
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">อาการสะดุ้งเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ทั่วไป</span></u></h3>
<br />
จากข้อมูลที่ได้มาเค้าบอกว่าอาการสะดุ้งหรือกระตุกในขณะหลับนั้นเป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย ส่วนใหญ่จะเกิดกับเด็กเล็กและผู้ใหญ่วัยกลางคน (เอ่อ ผมเริ่มจะเข้าข่ายแล้วนะ) โดยอาการสะดุ้งที่ว่ามีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า<b><span style="color: #990000;"> “ฮิปนิก” (</span></b>Hypnic) เป็นอาการที่ไม่รู้สาเหตุการเกิดที่แน่นอน แต่สาเหตุที่เค้าว่ากันว่าทำให้เกิดอาการ Hypnic นี้คือ<br />
<br />
<ul>
<li><b><span style="color: blue;">สมองสับสนอะไรบางอย่าง</span></b> สมองคิดว่าตอนที่เรานอนซึ่งกล้ามเนื้อกำลังคลายตัวนั้นเป็นภาวะฉุกเฉินเหมือนตอนเรากำลังตกจากที่สูงจึงสั่งการให้กล้ามเนื้อกระตุกเพื่อเตรียมรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้น</li>
<li><b><span style="color: blue;">ความวิตกกังวลก่อนนอน</span></b> มีเรื่องเครียดๆก่อนนอนที่คิดไม่ตกก็อาจทำให้สะดุ้งตอนนอนได้</li>
<li><b><span style="color: blue;">การอดนอน</span></b> นอนน้อย</li>
<li><b><span style="color: blue;">การกินยาบางชนิด</span></b> เช่น ยาบรรเทาอาการซึมเศร้า</li>
</ul>
<div>
<br /></div>
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">วิธีแก้ปัญหาอาการสะดุ้งตอนนอน</span></u></h3>
<div>
<ul>
<li><b><span style="color: blue;">อย่าคิดอะไรมากก่อนนอน</span></b> ทำใจให้สบาย ทำสมองให้โล่งเข้าไว้</li>
<li><b><span style="color: blue;">นั่งสมาธิก่อนนอน</span></b> การนั่งสมาธิเป็นวิธีที่ช่วยให้จิตใจเราสงบไม่ฟุ้งซ่าน นั่งสมาธิก่อนเข้านอนสัก 15 นาทีจะช่วยให้หลับสบายขึ้น</li>
<li><b><span style="color: blue;">ดื่มนมอุ่นผสมน้ำผึ้งก่อนนอน </span></b>นมมีสารที่ช่วยให้ระบบประสาทผ่อนคลาย ส่วนน้ำผึ้งมีฤทธิ์ระงับประสาทอ่อนๆ ดื่มก่อนเข้านอนรับรองได้ว่าไม่มีสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกแน่นอน</li>
<li><b><span style="color: blue;">เล่นกีฬาให้เสียเหงื่อ</span></b> เวลาเหงื่อออกเยอะๆร่างกายจะรู้สึกเพลียและต้องการพักผ่อน ดังนั้นการออกกำลังกายจึงเป็นยานอนหลับชั้นดีอย่างไม่ต้องสงสัย</li>
<li><b><span style="color: blue;">แต่งห้องนอนให้น่านอนยิ่งขึ้น </span></b>บางครั้งการปรับเปลี่ยนมุมห้อง หรือการตกแต่งห้องให้มีบรรยากาศสบายๆผ่อนคลายเป็นวิธีช่วยให้เรานอนหลับสบายโดยไม่สะดุ้งตื่นอีกวิธีหนึ่ง</li>
<li><b><span style="color: blue;">ปรับแอร์ในอุณหภูมิที่พอเหมาะ</span></b> ว่ากันว่าอุณหภูมิที่ทำให้เราหลับสบายอยู่ที่ 26-27 องศาเซลเซียส ไม่ร้อนไปไม่เย็นไปกำลังดี</li>
</ul>
<div>
<br /></div>
</div>
<div>
ใครมีปัญหาตื่นนอนเพราะสะดุ้งหรือกระตุกเหมือนที่ผมเป็นอยู่ลองเอาวิธีแก้ปัญหาที่เขียนไว้ไปใช้ดูครับ เผื่อช่วยให้นอนหลับสนิทมากขึ้น ผมว่าจะลองเอาไปใช้ดูเหมือนกันเบื่อจริงๆเลยไม่ได้นอนกอดแฟนมาหลายคืนแล้ว เซ็งสุดๆ!!!!!</div>
Unknownnoreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-1454503014668685226.post-50761433306616358492015-02-22T00:35:00.000-08:002016-04-19T22:06:40.194-07:00"สิวที่คาง" ปัญหาสิวของสาวๆก่อนมีประจำเดือน<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjPHg7rvjmifZV66uCETSwuAxVAbpclGXJnhwe3R18e5XXZuztkigdq_om7P71kREzwSUSRLCPQPQsRyb4QmONNiFa3AT2Fnt7pr9SEDwoJ7JY4jmNFYkxWPe3x0i72OHurmGS9Ewz5bt4/s1600/acne-on-chin.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="รักษาสิวที่คาง" border="0" height="378" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjPHg7rvjmifZV66uCETSwuAxVAbpclGXJnhwe3R18e5XXZuztkigdq_om7P71kREzwSUSRLCPQPQsRyb4QmONNiFa3AT2Fnt7pr9SEDwoJ7JY4jmNFYkxWPe3x0i72OHurmGS9Ewz5bt4/s1600/acne-on-chin.jpg" title="รักษาสิวที่คาง" width="560" /></a></div>
<br />
ประจำเดือนหรือระดูเป็นธรรมชาติของอิสตรีทุกคนที่ต้องเป็นกันทุกคนตั้งแต่วัยรุ่นไปจนถึงวัยกลางคน แต่ที่ไม่ปกติก็เห็นจะเป็น <b><span style="color: #990000;">"สิวที่คาง"</span></b> ที่ชอบขึ้นมากวนใจในแต่ละเดือนนี่แหละ บางคนบอกว่าเม็ดเก่ายังไม่ทันหายเม็ดใหม่ขึ้นมาอีกแล้ว สิวขึ้นจนรอยดำเต็มปากเต็มคางไปหมดแก้ไม่หายสักที ว่าแล้วมาดูสาเหตุการเกิดสิวที่คางและวิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นกันดีกว่า<br />
<br />
<a name='more'></a><br />
<div style="text-align: center;">
<script async="" src="//pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/adsbygoogle.js"></script>
<!-- healthbeautydd-300 -->
<br />
<ins class="adsbygoogle" data-ad-client="ca-pub-3419656287281437" data-ad-slot="4814025537" style="display: inline-block; height: 250px; width: 300px;"></ins><script>
(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});
</script>
</div>
<br />
<h3>
<u><span style="color: blue;">สาเหตุการเกิดสิวที่คาง</span></u></h3>
<ul>
<li>ฮอร์โมนแปรปรวน โดยเฉพาะช่วงประจำเดือนใกล้มานี่ขึ้นได้ขึ้นดีจริงๆ</li>
<li>ความมันบริเวณ T-zone เป็นบริเวรที่มีต่อมไขมันเยอะเป็นพิเศษ</li>
<li>ยาสีฟันที่ใช้ บางคนแพ้ยาสีฟันเวลาฟองไหลลงคางแล้วก่อให้เกิดการระคายเคืองจนเป็นตุ่มที่มีลักษณะคล้ายสิวเกิดขึ้น</li>
<li>ท้องผูกบ่อยๆ</li>
<li>ชอบนั่งเท้าคางบ่อยๆ</li>
</ul>
<div>
<br /></div>
<h3 style="text-align: center;">
<span style="color: blue;"><u>วิธีแก้ปัญหาสิวที่คาง</u></span></h3>
<div>
<span style="color: blue;"><u><br /></u></span></div>
<div>
<span style="color: blue;"><u><br /></u></span></div>
<div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjM_k_v5bqLjKQV65CBeMu79B2CyF-0gN008HwzCmNyDykIXJTvHnNMgSBzwdrX5pkRq9gzKaPEQlXDfEfFhmdkdvSIbu8xx0_YmskCoCJ_Hlyo7pH0zqVTAe_yln4WKg2nK6M3WTe43hY/s1600/product-gel-big.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjM_k_v5bqLjKQV65CBeMu79B2CyF-0gN008HwzCmNyDykIXJTvHnNMgSBzwdrX5pkRq9gzKaPEQlXDfEfFhmdkdvSIbu8xx0_YmskCoCJ_Hlyo7pH0zqVTAe_yln4WKg2nK6M3WTe43hY/s1600/product-gel-big.png" /></a></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<br /></div>
</div>
<h3>
<u><span style="color: #990000;">ทายาลดการอักเสบของสิว</span></u></h3>
<div>
<u><span style="color: #990000;"><br /></span></u></div>
<div>
สิวที่ชอบขึ้นมาที่คางมักเป็นสิวอักเสบหรือสิวไม่มีหัวซะเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นการแก้ปัญหาก็คือหายาแต้มสิวหรือยาลดการอักเสบมาทาเพื่อลดการบวมแดงและการติดเชื้อแบคทีเรียลง ยาแต้มสิวอักเสบ เช่น Benzac AC , Clinda-m , Clindalin gel , Smooth e acne hydrogel , Tomei Clindai Gel , eryacne erythromycin 4% ใช้แต้มที่หัวสิวที่อักเสบหรือกำลังจะอักเสบ ทาตั้งแต่เนิ่นๆสิวจะได้ไม่ลุกลามมาก</div>
<div>
<br /></div>
<h3>
<u><span style="color: #990000;">เปลี่ยนยาสีฟันที่ใช้</span></u></h3>
<div>
<u><span style="color: #990000;"><br /></span></u></div>
<div>
ถ้าใครเป็นสิวที่คางแบบเรื้อรังไม่ยอมหายสักทีลองเปลี่ยนยาสีฟันที่ใช้ดู บางทีที่สิวเราขึ้นอาจเป็นเพราะยาสีฟันที่ใช้อยู่ทุกวันก็ได้ บางคนเปลี่ยนไปใช้ยาสีฟันแบบสมุนไพรแล้วสิวหายก็มีนะ ลองดูๆเผื่อช่วยได้</div>
<div>
<br /></div>
<h3>
<u><span style="color: #990000;">ลดเครียดลดสิว</span></u></h3>
<div>
<u><span style="color: #990000;"><br /></span></u></div>
<div>
อย่างที่บอกว่าช่วงก่อนมีประจำเดือนฮอร์โมนของสาวๆจะแปรปรวนเป็นพิเศษ และความเครียดก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ฮอร์โมนปั่นป่วนไปหมด ถ้าไม่เชื่อลองสังเกตดูได้เลยว่าก่อนประจำเดือนมาสาวๆมักมีอารมณ์ขึ้นๆลงๆเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย โมโหง่าย หงุดหงิดทั้งวัน ถ้ายิ่งเพิ่มความเครียดเข้าไปอีกเชื่อเถอะว่าสิวที่คางต้องขึ้นมาเยอะกว่าเดิมแน่นอน ถ้าไม่อยากให้สิวที่คางขึ้นมากไปกว่านี้หยุดเครียดก่อนดีที่สุด</div>
<div>
<br /></div>
<h3>
<u><span style="color: #990000;">กินยาแก้อักเสบ</span></u></h3>
<div>
<u><span style="color: #990000;"><br /></span></u></div>
<div>
ในกรณีที่สิวที่คางอักเสบมากเกินไปเราสามารถกินยาแก้อักเสบร่วมด้วยได้ แต่อยากให้เป็นวิธีสุดท้ายที่เลือกทำเพราะยาแก้อักเสบหรือยาฆ่าเชื้อสิวบางตัวมีผลข้างเคียงเยอะ ก่อนตัดสินใจกินควรปรึกษาเภสัชกรหรือให้แพทย์เป็นคนสั่งจ่ายจะดีที่สุด</div>
<div>
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgoFcnIlBVoiHUS7_bWaYTzDzE36Zh1ZIYurQfBFVC6NFtG4tENcmo3Rx6B_V95mudYcHFSGpemTkhiKHmPiGJZZIYuZ8FzKu9EyXLzsmCsGqAT7AKVu-pDeaOFvU0lGTziHV40cJa9vrQ/s1600/fruit.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="400" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgoFcnIlBVoiHUS7_bWaYTzDzE36Zh1ZIYurQfBFVC6NFtG4tENcmo3Rx6B_V95mudYcHFSGpemTkhiKHmPiGJZZIYuZ8FzKu9EyXLzsmCsGqAT7AKVu-pDeaOFvU0lGTziHV40cJa9vrQ/s400/fruit.jpg" width="400" /></a></div>
<br /></div>
<h3>
<u><span style="color: #990000;">กินผักผลไม้เยอะๆ</span></u></h3>
<div>
<br /></div>
<div>
เมื่อก่อนผมเป็นคนหนึ่งที่มีปัญหาสิวที่คางและรอบปาก ทายาแต้มสิวก็ไม่หายพยายามหาวิธีรักษาอยู่นานจนไปเจอข้อมูลที่บอกว่าสิวที่คางอาจเกิดจากระบบขับถ่ายที่มีปัญหาคือท้องผูกบ่อยๆ เอ่อ!!!เราก็ท้องผูกบ่อยๆนี่หว่า แบบว่าไม่ค่อยชอบกินผักกินแต่เนื้ออย่างเดียว อยากสิวหายก็เลยลองเชื่อกินผักมากขึ้นหรือไม่ก็หาผลไม้มากินเพื่อป้องกันอาการท้องผูกที่เกิดขึ้น ทำอยู่ 3-4 เดือน เฮ้ย!!!สิวที่คางมันหายไปจริงๆ ไม่รู้ว่าสิวที่คางกับการขับถ่ายมันเกี่ยวกันมากน้อยแค่ไหน แต่ลองทำแล้วมัน work ก็เลยอยากเอามาเล่าให้ฟัง ของอย่างนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่เป็นอันขาด</div>
<div>
<br /></div>
<div>
นี่เป็น<b><span style="color: #990000;">วิธีแก้ปัญหาสิวที่คาง</span></b>ที่ชอบขึ้นมาช่วงก่อนมีประจำเดือนของสาวๆ ลองเลือกวิธีที่คิดว่าเหมาะกับตัวเองไปใช้ดูครับ ลองสังเกตุพฤติกรรมการใช้ชีวิตของตัวเองดูว่าอะไรน่าจะเป็นสาเหตุการเกิดสิวที่คางของเรา จะได้แก้ปัญหาได้ตรงจุด สิวและรอยดำที่คางจะได้หายไปสักที</div>
Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1454503014668685226.post-61944871096875174082015-02-10T17:53:00.000-08:002016-04-19T22:06:21.397-07:00ปวดฉี่บ่อยทำไงดี? ตื่นกลางดึกมาฉี่ทุกคืนเซ็งสุดๆ<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg5XHXcMulsHzycy7X1XfkRevff5QCK5SIL5jcQtbiSkvZJTsHPnW6AKwlnTR10nICG777Ae6_F5Mi4xCL8a2d211eC7DHZ8M8oIbaG-sCuRgoH8hB8r3qj1fAEuij-_STWOqZsA9LHKpY/s1600/Pain-often-pee.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="ปวดฉี่บ่อยทำไงดี" border="0" height="375" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg5XHXcMulsHzycy7X1XfkRevff5QCK5SIL5jcQtbiSkvZJTsHPnW6AKwlnTR10nICG777Ae6_F5Mi4xCL8a2d211eC7DHZ8M8oIbaG-sCuRgoH8hB8r3qj1fAEuij-_STWOqZsA9LHKpY/s1600/Pain-often-pee.jpg" title="ปวดฉี่บ่อยทำไงดี" width="560" /></a></div>
<br />
เป็นกันบ้างมั้ยครับที่ต้องตื่นนอนมากลางดึกเพราะปวดฉี่ กำลังหลับสบายๆอยู่แท้ๆต้องลุกไปฉี่แทบทุกคืน ผมคนหนึ่งครับที่เจอ <b><span style="color: #990000;">"ปัญหาปวดฉี่บ่อย" </span></b>ปวดมันทั้งกลางวันกลางคืนเข้าห้องน้ำบ่อยเป็นว่าเล่น ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้ผมต้องมานั่งหาสาเหตุว่าทำไมผมจึงชอบปวดฉี่บ่อยพร้อมกับหาวิธีแก้ปัญหาไปพร้อมๆกัน และสิ่งที่ผมหามาได้ก็คือ<br />
<a name='more'></a><br />
<div style="text-align: center;">
<script async="" src="//pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/adsbygoogle.js"></script>
<!-- healthbeautydd-300 -->
<br />
<ins class="adsbygoogle" data-ad-client="ca-pub-3419656287281437" data-ad-slot="4814025537" style="display: inline-block; height: 250px; width: 300px;"></ins><script>
(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});
</script>
</div>
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">สาเหตุที่ทำให้ปวดฉี่บ่อย</span></u></h3>
<div>
<u><span style="color: #990000;"><br /></span></u></div>
<ul>
<li><b><span style="color: blue;">ดื่มน้ำเยอะไป</span></b> น้ำเปล่าที่เราดื่มกันทุกวันนี่แหละ คิดไปคิดมาผมเป็นคนชอบดื่มน้ำ จิบเรื่อยๆมันก็เลยฉี่เรื่อยๆมั้ง</li>
<li><b><span style="color: blue;">ดื่มเครื่องดื่มที่กระตุ้นการฉี่ </span></b>เช่น ชา กาแฟ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ น้ำอัดลม เครื่อดื่มชูกำลัง น้ำผลไม้บางชนิด</li>
<li><b><span style="color: blue;">กินผลไม้บางชนิด</span></b> เช่น สับปะรด มะนาว ส้ม แคนตาลูป องุ่น หรือผลไม้ที่มีฤทธิ์เป็นกรดเป็นต้น</li>
<li><span style="color: blue;"><b>เป็นโรคบางอย่าง</b></span> เช่น กรวยไตอักเสบ , ติดเชื้อในท่อปัสสาวะ , กระเพาะปัสสาวะไวเกิน , ต่อมลูกหมากโต , มะเร็งในกระเพาะปัสสาวะ , เนื้องอกในกระเพาะปัสสาวะ , โรคเบาหวาน , โรคเบาจืด</li>
</ul>
<div>
<br /></div>
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">รู้ได้ไงว่าเราฉี่เยอะกว่าปกติ</span></u></h3>
<div>
<br /></div>
<div>
เค้าบอกว่าคนปกติทั่วไปจะฉี่วันละ 1-2 ลิตร หรือเดินเข้าออกห้องน้ำตอนกลางวันไม่เกิน 3-5 ครั้ง/วัน ตอนกลางคืนไม่เกิน 1-2 ครั้ง/คืน หรือปริมาณการฉี่ต้องไม่เกิน 3 ลิตร ถ้าฉี่บ่อยหรือฉี่มากเกินต้องไปหาหมอด่วนเพราะบางทีเราอาจเป็นโรคร้ายแรงที่เราคาดไม่ถึงได้ (ผมเองก็แอบหวั่นๆอยู่เหมือนกัน)</div>
<div>
<br /></div>
<h3>
<u><span style="color: #990000;">วิธีป้องกันไม่ให้ฉี่บ่อย</span></u></h3>
<div>
<br /></div>
<div>
วิธีที่เราพอทำได้เพื่อป้องกันไม่ให้ฉี่บ่อยโดยเฉพาะตอนกลางคืนตอนที่เรากำลังหลับฝันหวานอยู่นั้นก็คือการหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มหรือกินผลไม้ต้องห้ามตอนก่อนเข้านอน หลัง 6 โมงเย็นพยายามดื่มน้ำให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนตอนกลางวันดื่มเยอะๆได้เพราะยังไงเราก็เดินไปฉี่ได้ตลอดอยู่แล้ว อีกเรื่องที่สำคัญก็บางคนชอบกังวลเกี่ยวกับเรื่องการปวดฉี่โดยเฉพาะตอนเดินทาง ชอบกลัวว่าจะปวดฉี่ตอนอยู่บนรถพอจิตใจพะวักพะวงอยู่กับเรื่องปวดฉี่เข้าห้องน้ำอยู่อย่างนั้น ก็อาจเป็นสาเหตุทำให้เราปวดฉี่บ่อยได้เหมือนกัน เรื่องนี้ฟังดูแปลกแต่มันมีคนเป็นแบบนี้จริงๆนะ</div>
<div>
<br /></div>
<div>
เบื่อต้นผมคิดว่าคง<b><span style="color: #990000;">แก้ปัญหาเรื่องปวดฉี่บ่อย</span></b>ด้วยการดื่มน้ำตอนก่อนนอนให้น้อยลง และหลีกเลี่ยงการกินผลไม้ที่มีน้ำเยอะๆหรือผมไม้ที่มีความเป็นกรดสูงดูก่อน ถ้าลดแล้วยังปวดฉี่บ่อยอยู่ผมคิดว่าคงต้องไปหาหมอให้หมอตรวจร่างกายสักหน่อยแล้ว กลัวว่าเป็นโรคร้ายขึ้นมาแล้วจะแก้ไม่ทัน</div>
Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1454503014668685226.post-75782261308680309912015-02-09T00:28:00.000-08:002016-04-19T22:06:04.704-07:00มารักษาสิวอุดตันกันเถอะ ลดการอุดตัน ลดการเกิดสิว<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjJSMZ7RUHkVo3JV3VBttB2nAzY8qa_O5HHu_pSBPzxuxlGWTW15ccvLi0tDeuZGsjA5OYK7dQ7GfT_3-zUXWAM4Bjw91qYNXPDF2DxFsr_U0urfFbPVW7JtRwamEJOIerI3i7CKzGTLq8/s1600/backhead-acne.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="รักษาสิวอุดตันด้วยตัวเอง" border="0" height="402" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjJSMZ7RUHkVo3JV3VBttB2nAzY8qa_O5HHu_pSBPzxuxlGWTW15ccvLi0tDeuZGsjA5OYK7dQ7GfT_3-zUXWAM4Bjw91qYNXPDF2DxFsr_U0urfFbPVW7JtRwamEJOIerI3i7CKzGTLq8/s1600/backhead-acne.jpg" title="รักษาสิวอุดตันด้วยตัวเอง" width="560" /></a></div>
<br />
ปัญหาสิวอุดตันเป็นบ่อเกิดของการเกิดสิวหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นปัญหา<b><span style="color: #990000;">สิวอักเสบ สิวหนอง สิวหัวช้าง</span></b> ล้วนแล้วแต่เกิดมาจากสิวอุดตันด้วยกันทั้งสิ้น ดังนั้นคงถึงเวลาแล้วล่ะที่เราต้องกำจัดสิวอุดตันให้หมดไปจากใบหน้าสวยๆหล่อๆของเราสักที มาเริ่มกันเลยครับ<br />
<br />
<a name='more'></a><br />
<div style="text-align: center;">
<script async="" src="//pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/adsbygoogle.js"></script>
<!-- healthbeautydd-300 -->
<br />
<ins class="adsbygoogle" data-ad-client="ca-pub-3419656287281437" data-ad-slot="4814025537" style="display: inline-block; height: 250px; width: 300px;"></ins><script>
(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});
</script>
</div>
<h3>
<u><span style="color: #990000;">สาเหตุการเกิดสิวอุดตัน</span></u></h3>
<ul>
<li>เครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิว ครีมกันแดดที่ใช้</li>
<li>ทำความสะอาดผิวหน้าไม่สะอาด</li>
<li>ผิวหน้าผลัดตัวไม่ดี</li>
</ul>
<div>
<br /></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhFVqFh6do50bvmh-WFkH7He76-oAXR71RWXrI19SdrGy-4JN3Q9s0zhXscRJIJOv7CxnssJDK-G1U1YXQ45LfaXkOgH6Bh16E0Iz1XkaGz2L3QBJobhAvijChdZgKXZ9XPPf8nxp8Lct8/s1600/face+wash+acne.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="299" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhFVqFh6do50bvmh-WFkH7He76-oAXR71RWXrI19SdrGy-4JN3Q9s0zhXscRJIJOv7CxnssJDK-G1U1YXQ45LfaXkOgH6Bh16E0Iz1XkaGz2L3QBJobhAvijChdZgKXZ9XPPf8nxp8Lct8/s1600/face+wash+acne.jpg" width="400" /></a></div>
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">ล้างหน้าให้สะอาดหมดจด</span></u></h3>
<br />
มาเริ่มต้นรักษาสิวอุดตันด้วยการทำความสะอาดผิวหน้าอย่างถูกวิธีกันก่อนครับ การล้างหน้าลดสิวอุดตันควรเริ่มจากการเลือกโฟมล้างหน้าที่เหมาะกับสภาพผิว ผิวมันก็เลือกโฟมที่ชะล้างความมันได้ดี ในขณะที่ผิวแห้งก็ควรเลือกโฟมล้างหน้าที่ช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้ผิว แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าโฟมล้างหน้าที่เราใช้เหมาะกับผิวของเรา วิธีสังเกตง่ายๆก็คือ หลังล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าหน้าจะไม่แห้งตึงมากเกินไป ไม่แสบหน้า ไม่คันหน้า หน้าไม่ลอก ประมาณนี้ โฟมล้างหน้าสำหรับคนผิวมัน เช่น Acne-aid liquid cleanser , cetaphil oily skin cleanser , CLEAN & CLEAR Essentials Foaming Facial Wash โฟมล้างหน้าสำหรับผิวแห้ง เช่น Physiogel cleanser , Acne-aid gentle cleanser , Oilatum soap bar เลือกโฟมล้างหน้าดี ล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น แค่นี้ก็สามารถช่วยลดการเกิดสิวอุดตันไปได้เยอะแล้ว<br />
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEicXMuTS1tDx276yhDByumlkC8a3xsln03VbEuzp9g4JhnrlJk68KzBjikT58wsr0n-T4Bix93Bn-nsIKVPJbap0OKmCvWaJ-v5wUst5LZJ6vMyDsVDkhI0qPx659VXcQmLjOvVJWAX9Uc/s1600/benzac+ac.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="Benzac AC ยาทารักษาสิวอุดตัน" border="0" height="400" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEicXMuTS1tDx276yhDByumlkC8a3xsln03VbEuzp9g4JhnrlJk68KzBjikT58wsr0n-T4Bix93Bn-nsIKVPJbap0OKmCvWaJ-v5wUst5LZJ6vMyDsVDkhI0qPx659VXcQmLjOvVJWAX9Uc/s1600/benzac+ac.jpg" title="Benzac AC ยาทารักษาสิวอุดตัน" width="336" /></a></div>
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">ทายารักษาสิวอุดตันอย่างเหมาะสม</span></u></h3>
<div>
<u><span style="color: #990000;"><br /></span></u></div>
ลองได้เป็นสิวอุดตันแล้วถ้าไม่รักษามันไม่หายแน่นอน ถ้าเราไม่เอาสิวอุดตันที่ฝังอยู่ใต้ผิวออกไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานเท่าไรมันก็จะยังอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน ดังนั้นเราจำเป็นต้องทายาเพื่อลดการอุดตันของสิว ช่วยให้สิวที่ฝังอยู่โผล่หัวออกมาให้ได้ และวิธีรักษาสิวอุดตันที่นิยมทำกันและเป็นมาตรฐานการรักษาสิวทั่วไปก็คือ <b><span style="color: #990000;">"การทายาลดสิวอุดตัน" </span></b>นั่นเอง ยาทาลดการเกิดสิวอุดตันมีหลายตัวหลายยี่ห้อ การเลือกใช้ก็จะแตกต่างกันออกไปตามความรุนแรงของสิว ลักษณะผิว และการแพ้ยา
<br />
<br />
ตัวอย่างยาทารักษาสิวอุดตัน เช่น Benzac , Retin-a , แป้งน้ำศิริราช , Bha paula's choice , Skinoren cream ,Differin , Isotrexin, Epiduo เป็นต้น ส่วนการใช้ยาจะแตกต่างกันออกไป เช่น Benzac ใช้ทาก่อนล้างหน้า เช้า-เย็น แป้งน้ำศิริราช ,BHA และ Skinoren cream ทาหลังล้างหน้าเช้า-เย็นโดยไม่ต้องล้างออก ส่วน Retin-a , Isotrexin ,Differin ใช้ทาหลังล้างหน้าก่อนนอน ก่อนใช้ยารักษาสิวอุดตันควรปรึกษาแพทย์ เภสัช หรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางทุกครั้ง เพราะยาแต่ละตัวมีผลข้างเคียงที่เราควรรู้ควรระวังด้วยครับ<br />
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgYbNorrR8Daa7HasrMaXhaiPAA-xQr4-VsI_uNzNNTRI4hQkfFIW46gb9r5MWNPakyh3zDbW8Ij2ROYZuEUlfe6jawHDX1q-rqJfdRTxU54lo1Mcnxqz_VRmWv6iNBpXysfrcSWNotwI8/s1600/push-acne.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="การกดสิวอุดตัน" border="0" height="275" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgYbNorrR8Daa7HasrMaXhaiPAA-xQr4-VsI_uNzNNTRI4hQkfFIW46gb9r5MWNPakyh3zDbW8Ij2ROYZuEUlfe6jawHDX1q-rqJfdRTxU54lo1Mcnxqz_VRmWv6iNBpXysfrcSWNotwI8/s1600/push-acne.jpg" title="การกดสิวอุดตัน" width="400" /></a></div>
<br />
<h3>
<span style="color: #990000;"><u>การกดสิวอุดตัน</u></span></h3>
<div>
<u><span style="color: #990000;"><br /></span></u></div>
การกดสิวเป็นการรักษาสิวอุดตันเสริมของหมอ ช่วยให้สิวที่อยู่ใต้ผิวออกมาเร็วขึ้น วิธีกดสิวคือหมอจะใช้ที่กดสิวที่เป็นโลหะหัวแบนมีรูตรงกลางกดไปบริเวณสิวอุดตันแต่ละเม็ดของเรา ใครเคยกดสิวจะรู้ว่าเจ็บมาก เจ็บจนน้ำตาเล็ดเลยทีเดียว กดเสร็จหน้าเราจะบวมแดงเป็นจ้ำๆตามตำแหน่งที่โดนกด ถ้าโชคดีหมอกดออกทุกเม็ดหน้าเราจะเรียบดี แต่ถ้ากดออกไม่หมดนี่เป็นเรื่องเลยนะ เพราะสิวอุดตันจะแปลงร่างเป็นสิวอักเสบทีนที ต้องหายาแต้มสิวมาทาด่วน ส่วนใหญ่ทุกคลินิกมีบริการกดสิวหมด ราคาจะคิดเหมารวมทั้งหน้าเป็นรายครั้ง ครั้งละ 150-300 บาทว่ากันไป บางคลินิกหมอจะเป็นคนกดให้ แต่บางคลินิกจะให้พนักงานกดซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นอย่างหลังมากกว่า<br />
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjQAnvVPrFUH4owVhFS_fM4cOzmVzRTOVPPjC7DIiLcX4ukuAjn-GJRRcymCyssWF8XnEKYPOz7p90llKVQe3cc5q84EW9xW_nDrOnT6RL6o7feMfXhBG87ZoFms67pLQSyCijxKBwZfCM/s1600/Top-Acne-Laser-Skin-Treatment.jpeg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="เลเซอร์สิวอุดตัน" border="0" height="301" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjQAnvVPrFUH4owVhFS_fM4cOzmVzRTOVPPjC7DIiLcX4ukuAjn-GJRRcymCyssWF8XnEKYPOz7p90llKVQe3cc5q84EW9xW_nDrOnT6RL6o7feMfXhBG87ZoFms67pLQSyCijxKBwZfCM/s1600/Top-Acne-Laser-Skin-Treatment.jpeg" title="เลเซอร์สิวอุดตัน" width="400" /></a></div>
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">เลเซอร์สิวอุดตัน</span></u></h3>
<div>
<u><span style="color: #990000;"><br /></span></u></div>
เลเซอร์สิวอุดตันหรือ CO2 Laser เป็นอีกหนึ่งวิธีที่นิยมใช้ลดการเกิดสิวอุดตัน เป้าหมายคล้ายกับการกดสิวเป็นวิธีเอาสิวอุดตันออกจากหน้าให้เร็วขึ้นแต่ต่างกันตรงที่ เลเซอร์สิวอุดตันใช้ทเคโนโลยเข้ามาช่วยทำให้การกำจัดสิวง่ายขึ้น วิธีการรักษาสิวอุดตันด้วยเลเซอร์นั้นหมอจะใช้เครื่อง CO2 Laser ยิงเพื่อเปิดผิวบริเวณที่เป็นสิว จากนั้นก็ใช้ที่กดสิวหรือนิ้วมือกดสิวอุดตันออกมา ข้อดีของวิธีนี้คือช่วยให้กดสิวง่ายขึ้นไม่ต้องใช้แรงกดมากนั้น ป้องกันการเกิดรอยช้ำหลังการกดสิวได้เป็นอย่างดี ข้อเสียคืออาจมีรอยไหม้จากการยิงเลเซอร์เกิดขึ้น และการยิงเลเซอร์สิวอุดตันมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการกดสิวหลายเท่า ราคาอาจคิดเป็นช็อตช็อตละ 100 บาท หรือเหมารวมทั้งหน้าประมาณ <b><span style="color: #990000;">1,000-3,000 บาท</span></b> ซึ่งราคาจริงอาจแตกต่างกันในแต่ละคลินิก<br />
<br />
การรักษาสิวอุดตันมีหลายวิธี การรักษาส่วนใหญ่ต้องผสมผสานกันไป ทายาลสิวอุดตันด้วยกดสิวด้วย หรือทายาด้วยเลเซอร์ด้วย จะเลือกวิธีไหนก็สุดแท้แต่ความต้องการและงบประมาณของแต่ละบุคคล จะเดินเข้าคลินิกรักษาสิวเลยหรือจะรักษาสิวด้วยตัวเองคงต้องเลือกเอาสักทางครับ
<br />
Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1454503014668685226.post-12769799046807028332014-12-08T23:47:00.001-08:002016-04-19T22:05:42.747-07:00แนะนำ 3 ครีมลดรอยสิว รอยดำ รอยแดง จุดด่างดำจากสิวที่น่าสนใจ<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjlCFLni2pTUvpddUfr4nCEhA1G1frIGMxd2QFKLe2ZtWQTUgpbM0jeHKxyc-zHuJNMdjcZGo6RPihDOhZPsnqZzD4cSUH3zbh3ZO3N-koZsIIZSYbFdp-I9-XcAb_h0ho5tLr6mqJPI3k/s1600/GARNIER-DARK-SPOT-CORRECTOR.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="378" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjlCFLni2pTUvpddUfr4nCEhA1G1frIGMxd2QFKLe2ZtWQTUgpbM0jeHKxyc-zHuJNMdjcZGo6RPihDOhZPsnqZzD4cSUH3zbh3ZO3N-koZsIIZSYbFdp-I9-XcAb_h0ho5tLr6mqJPI3k/s1600/GARNIER-DARK-SPOT-CORRECTOR.png" width="560" /></a></div>
<br />
เรื่องรอยสิวไม่ว่าจะเป็น <b><span style="color: #990000;">"รอยแดง รอยดำ หรือจุดด่างดำจากสิว"</span></b> เป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นกับคนเป็นสิวทุกคน ปัจจุบันจึงไม่น่าแปลกใจที่ครีมลดรอยสิวจะขายดีเป็นเทน้ำเทท่าขนาดนี้ ว่าแล้ววันนี้ผมก็เลยมีครีมลดรอยสิว 3 ตัวมาแนะนำครับ เป็นครีม 3 ตัวที่ผมคิดว่าช่วยลดรอยแดงและจุดด่างดำจากสิวได้ดีทีเดียวซึ่งแต่ละตัวมีส่วนผสมหลักที่แตกต่างกันออกไป มียี่ห้ออะไรบ้างมาดูกันครับ<br />
<br />
<a name='more'></a><br />
<div style="text-align: center;">
<script async="" src="//pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/adsbygoogle.js"></script>
<!-- healthbeautydd-300 -->
<br />
<ins class="adsbygoogle" data-ad-client="ca-pub-3419656287281437" data-ad-slot="4814025537" style="display: inline-block; height: 250px; width: 300px;"></ins><script>
(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});
</script>
</div>
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">ครีมลดรอยสิว Garnier Dark Spot Corrector</span></u></h3>
<br />
ครีมลดรอยสิว Garnier Dark Spot Corrector ทางผู้ผลิตบอกว่าเป็นซีรั่มที่ช่วยลดรอยดำจากสิว โดยสารสำคัญที่ใช้คือ Ascorbic Acid หรือก็คือวิตามินซีนั่นเอง อย่างที่รู้กันว่า<b><span style="color: #990000;">วิตามินซีสามารถช่วยลดจุดด่างดำบนผิวหน้าของเราได้ </span></b>ช่วยยับยั้งการผลิตเม็ดสีและช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนไปในตัวแต่ต้องมี % มากพอในการออกฤทธิ์ซึ่งจะอยู่ที่ 5-10% และ ครีมลดรอยสิว Garnier Dark Spot Corrector หลอดนี้ใส่วิตามินซีมาที่ 5% ซึ่งเป็นปริมาณขั้นต่ำพอดี เนื้อครีมเป็นสีเหลืองอ่อนๆไม่ข้นมาก ทาแล้วซึมได้ดีพอประมาณแอบเหนียวหน้านิดๆแต่ก็พอรับไหว ช่วยลดจุดด่างดำได้ดีพอใช้ไม่ได้หวือหวาอะไร แต่ถ้าเทียบกับครีมวิตามินซีด้วยกัน Garnier Dark Spot Corrector หลอดนี้ถูกกว่าใช้แล้วคุ้มกังเงินที่เสียไป หลอดขนาด 50ml ราคา 200 กว่าบาทเกือบๆ 300 แล้วแต่ร้านที่ซื้ออีกที บางร้านอาจมีโปรโมชั่นก็ว่ากันไป ใครสนใจสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายเครื่องสำอางทั่วไป เช่น Watson , Boots , Big C , Lotus<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgpMvusO1nEokX4DuEFUvBz5n5OcPVY9Ca5Zhg1D74Mg8A8Dm-1uLylA4qWY57I5Dg-hZZ_DvNdJoS2BHI-EOuTW8bEz8f2Xq6Puqtw6rrvN88EkTXL7-EnSoRMlpcmbViItRN0N3__4f8/s1600/Mederma.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="378" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgpMvusO1nEokX4DuEFUvBz5n5OcPVY9Ca5Zhg1D74Mg8A8Dm-1uLylA4qWY57I5Dg-hZZ_DvNdJoS2BHI-EOuTW8bEz8f2Xq6Puqtw6rrvN88EkTXL7-EnSoRMlpcmbViItRN0N3__4f8/s1600/Mederma.png" width="560" /></a></div>
<h3>
<u><span style="color: #990000;"><br /></span></u></h3>
<h3>
<u><span style="color: #990000;">ครีมลดรอยสิว Mederma</span></u></h3>
<br />
จะเรียก Mederma ว่าครีมลดรอยสิวก็คงไม่ถูกซะทีเดียวเพราะจริงๆแล้ว Mederma มันเป็นเนื้อเจลมากกว่า เป็นเนื้อเจลใสมีกลิ่นแรงที่ผมว่าไม่หอม ออกไปทางฉุนซะมากกว่า ส่วนผสมหลักคือ Cepalin ซึ่งจริงๆแล้วมันก็คือสารสกัดจากหัวหอมที่นิยมผสมในครีมลดรอยสิวทั่วๆไป แต่ <b><span style="color: #990000;">Cepalin เป็นสารสกัดพิเศษที่ทางผู้ผลิตบอกว่ามีประสิทธิภาพสูงกว่าสารสกัดจากหัวหอมแบบทั่วไป </span></b>ซึ่งเป็นสิทธิบัตรเฉพาะของทาง Mederma เค้า ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าจริงแท้แค่ไหนแต่จากที่ได้ลองใช้ดูก็รู้สึกว่ามันดีจริงนะ ช่วยลดรอยดำจากสิวได้ดี ทาแล้วรู้สึกว่าแผลเป็นอ่อนนุ่มลงแตกต่างจากครีมลดรอยสิวยี่ห้ออื่นที่เคยใช้มา
<br />
<br />
เนื้อเจลทาแล้วซึมเข้าผิวเร็ว ไม่มันมาก ผมว่าเหมาะกับคนผิวมันดี แต่ข้อด้อยของ Mederma คือ มันมีส่วนผสมของแอกอฮอล์ จำได้ว่าทาครั้งแรกนี่แสบตาเลย ดังนั้นใครที่แพ้แอลกอฮอล์ควรหลีกเลี่ยง แต่ถ้าใครไม่แพ้จัดว่าเป็นครีมลดรอยสิวที่ดีมากตัวหนึ่ง ส่วนเรื่องราคาถ้าเทียบกับยี่ห้ออื่นสูงกว่าเล็กน้อย หลอดเล็กขนาด 10g ราคาข้างกล่องอยู่ที่ 450 บาท แต่ถ้าซื้อร้านยาขายส่งแถวๆโรงพยาบาลศิริราชจะอยู่ที่หลอดละ 280 บาทครับ<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhX25tuvkIlnP1bojMfPu096PF5itS6JijUI2qwB9n8JxPMFFbAwNoL32vwG7I6-Uq2UFKZin0ATzWkmVH48X8tV-oNmObUB3WVI19cWLPn5i8cFntuZO7D_BChU-y6wPtGiG-6eOFrvD0/s1600/Skinoren-Cream.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="378" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhX25tuvkIlnP1bojMfPu096PF5itS6JijUI2qwB9n8JxPMFFbAwNoL32vwG7I6-Uq2UFKZin0ATzWkmVH48X8tV-oNmObUB3WVI19cWLPn5i8cFntuZO7D_BChU-y6wPtGiG-6eOFrvD0/s1600/Skinoren-Cream.png" width="560" /></a></div>
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">ครีมรักษาสิว Skinoren cream</span></u></h3>
<br />
Skinoren cream ไม่ใช่ครีมลดรอยสิวโดยกำเนิด แต่จริงแล้วมันเป็นครีมทารักษาสิว ใช้ทาลดสิวอุดตันและสิวอักเสบ ตัวยาออกฤทธิ์คือ Azelaic acid ซึ่งช่วยผลัดเซลผิวช่วยลดการอุดตันของผิว ในขณะที่ตัวยาสามารถยับยั้งการผลิตเม็ดสีผิวได้ด้วย Skinoren cream จึงเป็นครีมที่นิยมใช้รักษาสิวและฝ้าไปพร้อมๆกัน เรื่องรักษาสิวอาจเป็นรองครีมตัวอื่นๆ แต่เรื่องช่วยลดรอยสิวจุดด่างดำจากสิวถือว่าโดดเด่นกว่า Skinoren cream จึงเป็นครีมที่เหมาะกับคนเป็นสิวมากตัวหนึ่ง เพราะสามารถช่วยลดการเกิดสิวและจุดด่างดำจากสิวในหลอดเดียว ส่วนราคาค่าตัว<b><span style="color: #990000;">ขนาด 30g ราคา 350-400 บาท</span></b> หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปครับ ใช้ทาหลังล้างหน้าเช้า-ก่อนนอน ทาทิ้งไว้โดยไม่ต้องล้างออก<br />
<br />
นี่เป็น<b><span style="color: #990000;">ครีมลดรอยสิวจุดด่างดำจากสิว</span></b>ที่ผมว่ามัน work ครับ 3 ตัวนี้ใครสนใจลองซื้อมาใช้กันได้ เป็น 3 ครีมลดรอยสิวที่มีสไตล์แตกต่างกัน ชอบสารสกัดหัวหอม วิตามินซี หรือ Azelaic acid เลือกเอาตามความพอใจครับ
<br />
Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1454503014668685226.post-87829414045107464172014-11-20T02:22:00.006-08:002016-04-19T22:05:27.547-07:00ทำ Mini subcision + VIPL ที่นิติพลครั้งสุดท้าย 1 เดือนผ่านไปเป็นยังไงบ้างมาดูกัน(ครั้งที่ 8)<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhP49wA8sIwT5z7U16J6kfcZvez92Qj4wSKcTHPDfyk1vRBGCkqo0WegSgt_6WtpoxpLx5XoSMGIywYizRuY4IjwdkwerC1BrGlkv8VisIJrubb1YTHaRxwu_BLIahg_9-Bx41rR8Vo7p8/s1600/Minisubcision-Nitipon.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="ทำ Mini subcision + VIPL ที่นิติพลครั้งสุดท้าย" border="0" height="429" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhP49wA8sIwT5z7U16J6kfcZvez92Qj4wSKcTHPDfyk1vRBGCkqo0WegSgt_6WtpoxpLx5XoSMGIywYizRuY4IjwdkwerC1BrGlkv8VisIJrubb1YTHaRxwu_BLIahg_9-Bx41rR8Vo7p8/s1600/Minisubcision-Nitipon.png" title="ทำ Mini subcision + VIPL ที่นิติพลครั้งสุดท้าย" width="560" /></a></div>
<br />
และแล้วก็มาถึงการทำ VIPL ครั้งที่ 4 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้าย ปิดคอร์ส<b><span style="color: #990000;"> Mini subcision + VIPL </span></b> 20,000 บาทกันไป เป็นยังไง? ได้ผลหรือเปล่า? หลุมสิวตื้นขึ้นบ้างมั้ย? ดูด้วยตาตัวเองดีกว่าครับ<br />
<a name='more'></a><br />
<div style="text-align: center;">
<script async="" src="//pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/adsbygoogle.js"></script>
<!-- healthbeautydd-300 -->
<br />
<ins class="adsbygoogle" data-ad-client="ca-pub-3419656287281437" data-ad-slot="4814025537" style="display: inline-block; height: 250px; width: 300px;"></ins><script>
(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});
</script>
</div>
<br />
<h3>
<span style="font-size: small; font-weight: normal;">นี่เป็นรูป 1 เดือนหลังจากทำ VIPL ครั้งสุดท้าย รอยดำยังคงมีอยู่บ้าง เป็นตำแหน่งตรงที่โดนทำ subcision หนักๆ ส่วนตำแหน่งอื่นก็จางไปเยอะ โดยรวมแล้วผมว่าก็ OK นะ หลุมสิวก็ดูตื้นอยู่ ดูดีกว่าก่อนทำเยอะ แต่มันก็ไม่หายไปเลยนะโดยเฉพาะหลุมใหญ่ๆยังคงเห็นชัด แต่หลุมขนาดเล็กก็ดูตื้นขึ้นนะ</span></h3>
<div>
<span style="font-size: small; font-weight: normal;"><br /></span></div>
<h3>
<u><span style="color: #990000;">ถ้ารอยดำหาย หน้าจะดูดีขึ้น</span></u></h3>
<br />
ครั้งสุดท้ายที่ไปหาหมอ หมอบอกว่าหลุมสิวบนหน้าผมดูตื้นขึ้นแต่รอยดำที่เกิดขึ้นทำให้ยังดูว่าหลุมยังลึกอยู่ ถ้ารอยดำหายจะเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ชัดขึ้น หมอก็เลยจ่ายครีมลดรอยดำชื่อ PK Blink Gel เป็นเจลใสที่มีส่วนผสมของ arbutin ช่วยให้จุดด่างดำจากสิว หรือรอยสิวจางลงเร็วขึ้น (คุณหมอว่าอย่างนั้นนะ) <b><span style="color: #990000;">กระปุกละ 750 บาท</span></b><br />
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">ชวนทำเมโสหน้าใสต่อ</span></u></h3>
<br />
หมอบอกว่าถ้าอยากให้รอยสิวจางเร็วสามารถฉีดเมโสหน้าใสช่วยได้ โดยฉีดเข็มละ 5,000 บาท ฉีดเข็มเดียวอยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือน หมอบอกว่าฉีดแล้วหน้าจะขาวฟูขึ้นมาทีเดียว เหมาะกับคนที่ต้องการลดรอยสิวในเวลาอันสั้น ฟังแล้วผมก็อยากทำนะ แต่ยังไม่พร้อมที่จ่าย โดนไปสองหมื่นยังไม่ฟื้นเลย ก็เลยบอกหมอไปว่าขอคิดดูก่อน แต่ก็สนใจอยากทำอยู่เหมือนกัน<br />
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">ความพึงพอใจหลังทำ</span></u></h3>
<br />
ผ่านมาเดือนกว่าๆ หน้าที่บอบช้ำเริ่มกลับเข้าที่เข้าทาง รอยดำที่เกิดจากการทำ Mini subcision และ subcision เริ่มจางลง หน้าก็เลยเริ่มดูขาวขึ้น ถ้าทาครีมดีๆหน้าจะดูเรียบขึ้นมาก ถามว่าพอใจมั้ยก็พอใจในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังอยากให้หลุมตื้นขึ้นกว่านี้ กำลังคิดอยู่ว่าจะทำต่อคอร์ส 2 หรือว่าเปลี่ยนไปลองทำวิธีอื่นดี แต่ที่แน่ๆคงต้องเก็บเงินอีกสักพัก ทำแต่ละอย่างแพงๆทั้งนั้น<br />
<br />
บทความนี้เป็นตอนจบของ<b><span style="color: #990000;">ซีรีย์การรักษาหลุมสิวด้วย Mini subcision และ VIPL </span></b>ของนิติพลคลินิก หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่ได้อ่านนะครับ ทำแต่ละครั้งหน้าเยินไปหมด นี่ถ้าไม่ได้ทำงานที่บ้านต้องออกไปทำงานข้างนอกคงจะเดือดร้อนกว่านี้ ขี้เกียจตอบคำถามคนรอบข้าง บางทีเดินไปซื้อของที่ตลาดคนยังมองเลย เอาเป็นว่าลองตัดสินใจดูครับ หลุมสิวถ้าไม่รักษามันไม่มีทางหายแน่นอน ทาครีมก็ไม่ช่วย ต้องทำอะไรกับมันสักอย่าง อยากหาย อยากหาย จริงๆเลย<br />
<br />
<ul>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/08/review-mini-subcision-vipl-1.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 1</a></li>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/08/review-mini-subcision-vipl-vipl-2.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 2</a></li>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/08/review-mini-subcision-2.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 3</a></li>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/09/review-vipl-2-4.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 4</a></li>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/09/review-mini-subcision-3-5.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 5</a></li>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/09/review-vipl-3-7-6.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 6</a></li>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/10/review-mini-subcision-4-7.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 7</a></li>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/11/mini-subcision-vipl-1.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 8</a></li>
</ul>
Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1454503014668685226.post-25953586374992298182014-10-03T02:12:00.001-07:002016-04-19T22:05:14.109-07:00Review ทำ Mini subcision ครั้งที่ 4 กระตุ้นหลุมสิวครั้งสุดท้าย หมอจัดเต็มอีกแล้ว (ครั้งที่ 7)<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgUgYdySuBBE3_HJ7cMGfRnvcJvayKMWh7V3UPWETIsvJUjXW_V3b5so2Cix_T_A0SYz-dfgpXsWVIm0CHQGlSSseRN99gfjoSJXw2Pcb7JpwruIaXvduy6e1rLNm-qVkDvqRFB16XpAZY/s1600/Mini-subcision-4-nitipon.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="ทำ Mini subcision ครั้งที่ 4 กระตุ้นหลุมสิวครั้งสุดท้าย" border="0" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgUgYdySuBBE3_HJ7cMGfRnvcJvayKMWh7V3UPWETIsvJUjXW_V3b5so2Cix_T_A0SYz-dfgpXsWVIm0CHQGlSSseRN99gfjoSJXw2Pcb7JpwruIaXvduy6e1rLNm-qVkDvqRFB16XpAZY/s1600/Mini-subcision-4-nitipon.jpg" title="ทำ Mini subcision ครั้งที่ 4 กระตุ้นหลุมสิวครั้งสุดท้าย" width="560" /></a></div>
<br />
มาถึง<b><span style="color: #990000;">การทำ Mini subcision ครั้งสุดท้าย</span></b>สำหรับคอร์สรักษาหลุมสิวที่นิติพลนี้ เป็นครั้งที่ 4 แต่ยังเหลือการทำ VIPL อีก 1 ครั้งซึ่งผมจะไปทำในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า ทำมาจะจบคอร์สแล้วสิ่งที่เห็นการเปลี่ยนแปลงได้ชัดสุดคือหน้าที่ขาวขึ้นกับรอยแผลเล็กๆและจุดด่างดำที่จางลง ส่วนหลุมสิวใหญ่ๆยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงมากนัก ดูรูปด้านล่างประกอบได้ครับ<br />
<a name='more'></a><br />
<div style="text-align: center;">
<script async="" src="//pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/adsbygoogle.js"></script>
<!-- healthbeautydd-300 -->
<br />
<ins class="adsbygoogle" data-ad-client="ca-pub-3419656287281437" data-ad-slot="4814025537" style="display: inline-block; height: 250px; width: 300px;"></ins><script>
(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});
</script>
</div>
<br />
ครั้งนี้ไปทำ Mini subcision ก็ไม่มีอะไรแตกต่างจากครั้งก่อนๆ ขั้นตอนการทำเหมือนเดิมทุกอย่าง วันนี้ก่อนทำเข้าไปพบคุณหมอคุณหมอก็จัดการฉีดสิวอักเสบให้เหมือนเดิม แต่ครั้งนี้เป็นสิวอุดตันไม่มีหัวเม็ดใหญ่ๆหลายเม็ดเลยแม้แต่ที่คอก็ยังขึ้นมาด้วย<br />
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">แนะนำให้ทำเมโสต่อ</span></u></h3>
<br />
จากนั้นคูณหมอคุยกับผมบอกว่าหลุมสิวก็เริ่มตื้นขึ้นแล้วแต่ที่ยังเห็นชัดเพราะมันยังเป็นรอยดำที่เกิดจากการทำครั้งที่ผ่านๆมา ถ้าอยากให้หายเร็วอาจต้องยิง VIPL เพิ่มเติม หรือไม่ก็แนะนำให้ทำเมโสฉีดสารเข้าไปเพื่อเติมเต็มหลุมสิว ข้อดีคือหน้าจะเรียบเนียนขึ้นทันที <b><span style="color: #990000;">ข้อเสียคือมันอยู่ได้ชั่วคราวแค่ประมาณ 3-4 เดือนเท่านั้น </span></b>ที่หมอแนะนำให้ผมทำเมโสเพราะผมบอกว่าอีก 3 เดือนผมจะแต่งงาน หมอก็เลยแนะนำวิธีที่จะทำให้หลุมสิวผมตื้นเร็วที่สุดให้ ผมก็ฟังไว้แต่ไม่ได้ตอบตกลงที่จะทำ บอกหมอไปว่าขอคิดดูก่อน คือถ้าทำ VIPL อีกคอร์สค่าใช้จ่ายตกอยู่ประมาณ 7,000 บาท ส่วนฉีดเมโสประมาณ 4,000 บาท ใจจริงก็อยากทำ แต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่ามันสิ้นเปลืองไป คือเสียไปแล้ว 20,000 กว่าบาท ทั้งค่าทำ ค่าครีม ค่ารถ เดี๋ยวจบคอร์สค่อยว่ากันอีกที<br />
<br />
พอจัดการสิวบวมๆออกหมดทั้งกดทั้งฉีด คุณหมอก็ให้พนักงานมาส์คยาชาให้ผมทิ้งไว้ 40 นาทีเหมือนเดิม พอได้เวลาก็เริ่มทำ Subcision ก่อน เซาะพังผืดหลุมสิวซึ่งครั้งนี้ทำน้อยกว่าครั้งที่แล้วและรู้สึกว่าเจ็บน้อยกว่า อาจเป็นเพราะมาส์คยาชาไว้เยอะ พอทำ Subcision เสร็จก็ต่อด้วย Mini subcision ทันที หมอก็เอาค้อนมาทุบหน้าผมเหมือนเดิม ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายหมอเลยทุบให้นานหน่อย ทำเสร็จส่องกระจกดูหน้า หน้าช้ำเหมือนเดิมแต่รอยกรีดตอนทำ Subcision มากกว่าเดิม มีแผลหนึ่งโดนเป็นรอยยาวเหมือนโดนมีดกรีดเลย หวังว่ามันคงไม่เป็นอะไรนะ<br />
<br />
หลังจากทำ Mini subcision ครั้งสุดท้ายผ่านมาได้ 7 วัน รู้สึกว่าหน้าเริ่มดีขึ้น<b><span style="color: #990000;"> สิวอุดตันเม็ดใหญ่ๆที่ชอบบวมขึ้นมาก็หายไปหมด</span></b> สิวก็ไม่ค่อยขึ้นแล้วครั้งหน้าคิดว่าคงไม่ต้องโดนจับฉีดสิวแล้วล่ะ เวลาล้างหน้าเสร็จใหม่ๆรู้สึกว่าหน้าขาวสว่างดี มารอลุ้นการทำ VIPL ครั้งสุดท้ายของผมกันครับ ว่ามันจะช่วยให้หลุมสิวบนหน้าผมดีขึ้นมากน้อยแค่ไหน ครั้งหน้าเดี๋ยวรู้กัน
<br />
<ul>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/08/review-mini-subcision-vipl-1.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 1</a></li>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/08/review-mini-subcision-vipl-vipl-2.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 2</a></li>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/08/review-mini-subcision-2.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 3</a></li>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/09/review-vipl-2-4.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 4</a></li>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/09/review-mini-subcision-3-5.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 5</a></li>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/09/review-vipl-3-7-6.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 6</a></li>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/10/review-mini-subcision-4-7.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 7</a></li>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/11/mini-subcision-vipl-1.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 8</a></li>
</ul>
Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1454503014668685226.post-42975542218177092672014-09-26T01:09:00.001-07:002016-04-19T22:04:59.420-07:00Review ทำ VIPL ครั้งที่ 3 ผ่านมา 7 วันสิวขึ้นหน้าหลายเม็ดเลย (ครั้งที่ 6)<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjWvY7SmY1vNe2p_6k6LqPvgLoZNUtk6VmOq3YkIjEktM3D3342XuK5pg_GMaIfV-dNcVks1BSiGv2jMO-LADkQcTQYFZqj2T0Abakd8NGPsLApMzDp9Z4r1LgbYziXn0jr0cN_81tAeyY/s1600/VIPL-3-nitipon.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="ทำ VIPL ที่นิติพล ครั้งที่ 3" border="0" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjWvY7SmY1vNe2p_6k6LqPvgLoZNUtk6VmOq3YkIjEktM3D3342XuK5pg_GMaIfV-dNcVks1BSiGv2jMO-LADkQcTQYFZqj2T0Abakd8NGPsLApMzDp9Z4r1LgbYziXn0jr0cN_81tAeyY/s1600/VIPL-3-nitipon.jpg" title="ทำ VIPL ที่นิติพล ครั้งที่ 3" width="560" /></a></div>
<br />
มาถึงการทำ<b><span style="color: #990000;"> VIPL ครั้งที่ 3 </span></b>ครั้งรองสุดท้าย ซึ่งเป็นครั้งที่ 6 ถ้านับรวมทำ Mini subcision ด้วย ใกล้ความจริงขึ้นมาทุกขณะ ไม่ใช่หลุมสิวที่หายนะครับ แต่เป็นเรื่องคอร์สที่กำลังจะหมดลง ตกลงมันช่วยให้หลุมบนหน้าผมตื้นได้บ้างหรือเปล่าเนี่ย ดูรูปด้านล่างกันเอาเองแล้วกันครับ<br />
<a name='more'></a><br />
<div style="text-align: center;">
<script async="" src="//pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/adsbygoogle.js"></script>
<!-- healthbeautydd-300 -->
<br />
<ins class="adsbygoogle" data-ad-client="ca-pub-3419656287281437" data-ad-slot="4814025537" style="display: inline-block; height: 250px; width: 300px;"></ins><script>
(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});
</script>
</div>
<br />
สำหรับการทำ VIPL ผมก็ไปเวลาเดิมประมาณเที่ยงครึ่ง ครั้งนี้ผมพาแฟนไปด้วย ผ่านมา 7 วันก่อนที่จะมายิง VIPL ในครั้งนี้ผมรู้สึกว่า<b><span style="color: #990000;">สิวขึ้นเยอะผิดปกติ</span></b> ทั้งแก้มทั้ง 2 ข้างและก็แถวๆคาง โดยเฉพาะคางนี่ขึ้นพร้อมกันประมาณ 3-4 เม็ดเห็นจะได้ สิวที่ขึ้นเป็นสิวไม่มีหัวไม่อักเสบแต่ก็กดออกไม่ได้ อาจเป็นเพราะผมทา Benzac กับ Clinda gel กดมันไว้ พอกดสิวไม่ได้ผมก็ไม่รู้ทำไงก็เลยกะว่าให้หมอฉีดสิวกับกดสิวออกให้แทน<br />
<br />
พอเข้าไปพบคุณหมอหมอก็จับดูหลุมสิวบนหน้าแล้วก็จัดการฉีดสิวกับกดสิวให้ผม ทั้งสิวไม่มีหัวที่บวมขึ้นมาและสิวหัวดำที่อุดตันอยู่ด้วย ซึ่งการทำตรงนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายเพราะรวมอยู่ในคอร์สที่ผมซื้อแล้ว หลังจากที่หมอฉีดสิวให้ผมเสร็จก็ส่งผมไปให้พนักงานกดสิวเม็ดอื่นต่อ หมอจะจัดการเฉพาะเม็ดใหญ่ๆเท่านั้น ครั้งนี้กดน้อยกว่าครั้งที่แล้วแสดงว่าการทา Benzac ก่อนล้างหน้าได้ผลทำให้สิวอุดตันไม่ค่อยขึ้นซึ่งผมก็รู้สึกอย่างนั้นเหมือนกัน<br />
<br />
พอพนักงานกดสิวให้ผมเสร็จคุณหมอก็เข้ามายิง VIPL ให้ผม ซึ่งก็ไม่มีอะไรแตกต่างจากครั้งก่อน ยิงอยู่ประมาณ 10 นาทีก็เสร็จ คุณหมอบอกวิธีดูแลผิวหน้าหลังทำ VIPL ให้ฟังแล้วก็เดินออกจากห้องไป ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของพนักงานลงครีม sensitive กับครีมกันแดดให้ ทำเสร็จก็ให้วิตามินซีผมมา 2 ซองกินเพื่อให้รอยดำจากการยิง VIPL จากเร็วขึ้น (ของเก่ายังกินไม่หมดเลย)<br />
<br />
ผ่านมาจนจะสุดทางแล้วกับคอร์สรักษาหลุมสิวด้วย Mini subcision + VIPL เหลืออีก 2 ครั้ง หวังว่าอะไรๆจะดีขึ้น<b><span style="color: #990000;"> เบื่อหลุมสิวบนหน้าจริงๆเป็นมาเป็น 20 ปีเห็นจะได้</span></b> ไม่หวังให้หายหมดแค่ให้มันตื้นกว่าเดิมก็ยังดีผมคิดว่าคนที่เป็นหลุมสิวคงเข้าใจความรู้สึกของผม ก็รอลุ้นกันต่อไปครั้งหน้าเป็นการทำ Mini subcision ครั้งสุดท้าย สู้ สู้
<br />
<ul>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/08/review-mini-subcision-vipl-1.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 1</a></li>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/08/review-mini-subcision-vipl-vipl-2.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 2</a></li>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/08/review-mini-subcision-2.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 3</a></li>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/09/review-vipl-2-4.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 4</a></li>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/09/review-mini-subcision-3-5.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 5</a></li>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/09/review-vipl-3-7-6.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 6</a></li>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/10/review-mini-subcision-4-7.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 7</a></li>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/11/mini-subcision-vipl-1.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 8</a></li>
</ul>
Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1454503014668685226.post-16529922478384494842014-09-11T06:42:00.007-07:002016-04-19T22:04:44.887-07:00Review ทำ Mini subcision ครั้งที่ 3 หมอจัดหนักจนหน้าช้ำไปหลายวัน (ครั้งที่ 5)<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg7i8fizEzhk9SptMHFRbaq3iB_0ei5egsdo1DYbSfvDIhH308SUGyBNNGMyB2EhUMX83_-UmNdMKGicSaTN9V5Q5aAvRGQ4PyalSszL-Er7_TOYmz61QA7RTOvsbOo8sB2KTq4P5AroE4/s1600/Minisubcision-3.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="Review ทำ Mini subcision ครั้งที่ 3" border="0" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg7i8fizEzhk9SptMHFRbaq3iB_0ei5egsdo1DYbSfvDIhH308SUGyBNNGMyB2EhUMX83_-UmNdMKGicSaTN9V5Q5aAvRGQ4PyalSszL-Er7_TOYmz61QA7RTOvsbOo8sB2KTq4P5AroE4/s1600/Minisubcision-3.jpg" title="Review ทำ Mini subcision ครั้งที่ 3" width="560" /></a></div>
<br />
และแล้วก็มาถึงการทำ Mini subcision ครั้งที่ 3 ถ้านับรวมกับการทำ VIPL ด้วยจะเป็นครั้งที่ 5 มาเกือบสุดทางกันแล้ว ดูจากรูปก็คงพอรู้ว่าตกลงหลุมสิวมันตื้นขึ้นมาบ้างหรือเปล่า ลองดูเทียบกับการทำ Mini subcision ครั้งก่อนๆได้ ส่วนตัวแล้วผมมองว่าหลุมสิวขนาดเล็กเริ่มฟูขึ้นมาแล้ว แต่หลุมขนาดใหญ่ยังไม่แตกต่างจากเดิมมากนัก สงสัยคงเป็นหนักเกินไปอาจต้องใช้เวลามากกว่านี้<br />
<a name='more'></a><br />
<div style="text-align: center;">
<script async="" src="//pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/adsbygoogle.js"></script>
<!-- healthbeautydd-300 -->
<br />
<ins class="adsbygoogle" data-ad-client="ca-pub-3419656287281437" data-ad-slot="4814025537" style="display: inline-block; height: 250px; width: 300px;"></ins><script>
(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});
</script>
</div>
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">Subcision อย่างหนักหน่วง</span></u></h3>
<br />
หลังจากที่ผมบอกหมอว่าที่ผมมาทำ Mini subcision ที่นิติพลครั้งนี้ก็เพื่อเตรียมตัวไปแต่งงานตอนสิ้นปี หมอก็เลยบอกว่าจะเร่งทำให้หลุมสิวมันตื้นขึ้นให้ การทำ Mini subcision ในครั้งนี้จึงเป็นครั้งที่หนักหน่วงกว่าที่ผ่านมา ที่หนักหน่วงไม่ใช่ตอนทำ Mini แต่เป็นตอนทำ subcision มากกว่า คือคุณหมอเพิ่มจำนวนจุดที่ทำมากขึ้นหลังจากทำเสร็จหน้าผมจึงช้ำเอามากๆ ช้ำจนดำไปหมด <b><span style="color: #990000;">กว่าหน้าจะหายช้ำกลับมาเป็นปกติก็เกือบ 7 วัน </span></b>วันที่ต้องทำ VIPL ต่อยังรู้สึกว่าหน้ายังช้ำไม่หายเลย แต่ก็ดีแล้วล่ะครับที่คุณหมอทำให้เต็มที่แบบนี้ ผมรู้สึกว่าคุณหมอที่ทำหน้าให้ผมเค้าเอาใจใส่คนไข้ดีนะ แนะนำดี ทำหน้าให้ผมอย่างเต็มที่ ตรงไหนเป็นหลุมมากๆหมอก็จะย้ำให้หลายครั้ง อย่างตอนทำ Mini นี้คุณหมอก็เอาค้อนทุบหน้าย้ำตรงแถวๆแก้มให้ผมหลายรอบ ครั้งก่อนไม่ได้ทุบตรงจมูกให้แต่คราวนี้ทุบด้วย หมอบอกว่าช่วยกระชับรูขมขุน ยอมรับเลยว่าเวลาทำ Mini ที่จมูกนี่มันเจ็บจริงๆ ผมว่าน่าจะเจ็บกว่าตำแหน่งอื่นเลยล่ะ<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjBgGYxVqJV3QDjr8nRa4jtPyD1C26-0T5JfgiODxzL6FTuBXBcpxhL1383OzxHUCOKxgBmYSjwuaMkCAMLHqF490JDqPI5TFIW1lIdbHNozpA6nW3IFPmLVLWgfVeQja225HDG_thHG6k/s1600/Collagen-Plus-Vitamin-C-+-Aloe-gel.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="Collagen Plus Vitamin C กับ Aloe gel ของนิติพลคลินิก" border="0" height="389" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjBgGYxVqJV3QDjr8nRa4jtPyD1C26-0T5JfgiODxzL6FTuBXBcpxhL1383OzxHUCOKxgBmYSjwuaMkCAMLHqF490JDqPI5TFIW1lIdbHNozpA6nW3IFPmLVLWgfVeQja225HDG_thHG6k/s1600/Collagen-Plus-Vitamin-C-+-Aloe-gel.png" title="Collagen Plus Vitamin C กับ Aloe gel ของนิติพลคลินิก" width="560" /></a></div>
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">ได้ Collagen Plus Vitamin C กับ Aloe gel มาใช้ด้วย</span></u></h3>
<br />
ตอนที่คุณหมอกำลังทุบค้อนที่หน้าผมอยู่ หมอได้ถามผมว่าคอลลาเจนกับ Aloe gel หมดหรือยัง ผมก็ตอบกลับไปว่าหมดแล้ว หมอก็เลยบอกว่างั้นขออนุญาตจ่ายให้นะคะ ผมก็บอก ok ครับ ก็เลยได้ Collagen Plus Vitamin C กับ Aloe gel มาทา ถามว่าใช้ทาเพื่ออะไร? Collagen Plus Vitamin C ใช้ทาเพื่อให้ผิวที่ถูกทำร้ายของเราฟื้นตัวได้เร็วขึ้น การทำ Mini subcision เป็นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนบนผิวหน้าของเราอยู่แล้ว ช่วยเติมเต็มหลุมสิวให้ตื้นขึ้นได้ การทาคอลลาเจนเสริมเข้าไปจะยิ่งทำให้หลุมสิวของเราตื้นรวดเร็วขึ้น และยังสามารถช่วยให้จุดด่างดำหรือรอยสิวจางลงได้อีกด้วย<br />
<br />
ส่วน Aloe gel นั้นใช้ทาเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า เพราะเวลาทำ Mini subcision หน้าเราจะแห้งผิดปกติ ผิวของเราจะผลัดตัวเร็วขึ้น ทำให้หน้าลอกเป็นขุยได้ เราจึงต้องทา Aloe gel ช่วยเสริมความชุ่มชื้นอีกแรง<br />
<br />
ทำ Mini เสร็จก็ปิดหน้าด้วยหน้ากากอนามัยและโบก Taxi กลับบ้านเหมือนเดิม ทำ Mini ทีไรทำให้ไม่อยากออกไปไหน ก็หน้ายับเยินซะขนาดนั้นต้องเก็บตัวอยู่บ้านอย่างเดียว แต่ก็ดีเหมือนกันครับหลุมสิวจะได้หายไวไว ไม่รู้จะช่วยได้ขนาดไหนแต่ก็หวังไว้ว่า Mini subcision นี้จะช่วยให้หน้าผมมันดูดีมากว่าเดิมนะ ก็ต้องรอลุ้นและติดตามกันต่อไปครับ เหลืออีกแค่ 2 ครั้ง สู้ สู้!!!!!!!!!!!!
<br />
<ul>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/08/review-mini-subcision-vipl-1.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 1</a></li>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/08/review-mini-subcision-vipl-vipl-2.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 2</a></li>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/08/review-mini-subcision-2.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 3</a></li>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/09/review-vipl-2-4.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 4</a></li>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/09/review-mini-subcision-3-5.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 5</a></li>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/09/review-vipl-3-7-6.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 6</a></li>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/10/review-mini-subcision-4-7.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 7</a></li>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/11/mini-subcision-vipl-1.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 8</a></li>
</ul>
Unknownnoreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-1454503014668685226.post-78699107941385926762014-09-03T04:46:00.002-07:002016-04-19T22:04:25.714-07:00ฟิตไม่มีเหนื่อยด้วย "ถั่งเช่า" เห็ดเพิ่มสมรรถภาพทางเพศที่ไวอากร้ายังต้องยอม<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhKuM4L6F5nIWpqXNWK8HH-MfoVG2hBIDagt1eKiCelJTFnpDTvC4drCnJcsh-rDGMSbfsIH1ymSxSY_qV_cnpdb5oalgDhvGF3WvMy5KPDgSxNWNRpixnbPxYNukPVqg3aVrp2J4AsWKY/s1600/tungchoa-Mushroom.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="ถั่งเช่า เห็ดเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ" border="0" height="384" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhKuM4L6F5nIWpqXNWK8HH-MfoVG2hBIDagt1eKiCelJTFnpDTvC4drCnJcsh-rDGMSbfsIH1ymSxSY_qV_cnpdb5oalgDhvGF3WvMy5KPDgSxNWNRpixnbPxYNukPVqg3aVrp2J4AsWKY/s1600/tungchoa-Mushroom.png" title="ถั่งเช่า เห็ดเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ" width="560" /></a></div>
<br />
<b>ถั่งเช่า</b> หรือ เห็ดที่มีฉายาว่า<b><span style="color: #990000;"> "หนาวเป็นหนอน ร้อนเป็นยา" </span></b>ถั่งเช่าเป็นเห็ดที่มีสรรพคุณในการบำบัดรักษาโรคได้หลากหลายชนิด แต่เรื่องที่ได้รับการร่ำลือขึ้นชื่อที่สุดก็คงเป็นเรื่อง สรรพคุณในการ<b><span style="color: #990000;"> "เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ" </span></b>ที่ต้องบอกว่ายาไวอากร้ายังต้องอาย<br />
<br />
<a name='more'></a><br />
<div style="text-align: center;">
<script async="" src="//pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/adsbygoogle.js"></script>
<!-- healthbeautydd-300 -->
<br />
<ins class="adsbygoogle" data-ad-client="ca-pub-3419656287281437" data-ad-slot="4814025537" style="display: inline-block; height: 250px; width: 300px;"></ins><script>
(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});
</script>
</div>
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">งานวิจัยเห็ดถั่งเช่า</span></u></h3>
<br />
เคยมีงานวิจัยทดลองให้ชาย 22 คนกินถั่งเช่าเพื่อเป็นอาหารเสริม โดยผลการทดลองออกมาว่า ถั่งเช่าสามารถเพิ่มจำนวนสเปิร์มในอสุจิได้ถึง 33% และสามารถลดจำนวนสเปิร์มที่ผิดปกติได้ถึง 29% นอกจากนี้เห็ดถั่งเช่ายังสามารถเพิ่มความต้องการทางเพศได้ดีอีกด้วย โดยทำการทดลองในชายและหญิงจำนวน 189 คน พบว่าสามารถเพิ่มความต้องการทางเพศได้ถึง 66% โดยสามารถเพิ่มความต้องการทางเพศของผู้หญิงได้สูงถึง 86% ไม่น่าเชื่อจริงๆ<br />
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">นอกจากเพิ่มความฟิตแล้ว ถั่งเช่ายังมีประโยชน์อีกมากมาย</span></u></h3>
<br />
นอกจากสรรพคุณในการเพิ่มสมรรถภาพทางเพศแล้ว ถั่งเช่ายังสามารถช่วยบำรุงอวัยวะต่างๆภายในร่างกายได้ดี รวมไปถึงสามารถช่วยบำบัดรักษาอาการโรคบางอย่างให้อาการทุเลา หรืออาจช่วยให้หายจากโรคเลยก็เป็นได้ ก่อนอื่นเรามาดูสารสำคัญที่อยู่ในถั่งเช่ากันก่อดีกว่า ว่ามีอะไรน่าสนใจกันบ้าง<br />
<br />
<table border="1" cellpadding="0" cellspacing="0" class="MsoTableMediumShading1Accent5" style="border-collapse: collapse; border: none; mso-border-alt: solid #78C0D4 1.0pt; mso-border-themecolor: accent5; mso-border-themetint: 191; mso-padding-alt: 0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-yfti-tbllook: 1184;">
<tbody>
<tr>
<td style="background: #4BACC6; border-right: none; border: solid #78C0D4 1.0pt; mso-background-themecolor: accent5; mso-border-themecolor: accent5; mso-border-themetint: 191; padding: 0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; width: 154.25pt;" valign="top" width="206"><div align="center" class="MsoNormal" style="margin-bottom: 0.0001pt; text-align: center;">
<b><span lang="TH" style="color: white; font-family: "Cordia New","sans-serif"; font-size: 14.0pt; mso-ansi-font-size: 11.0pt; mso-ascii-font-family: Calibri; mso-ascii-theme-font: minor-latin; mso-bidi-font-family: "Cordia New"; mso-bidi-theme-font: minor-bidi; mso-hansi-font-family: Calibri; mso-hansi-theme-font: minor-latin; mso-themecolor: background1;">สารประกอบสำคัญ<o:p></o:p></span></b></div>
</td>
<td style="background: #4BACC6; border-left: none; border: solid #78C0D4 1.0pt; mso-background-themecolor: accent5; mso-border-themecolor: accent5; mso-border-themetint: 191; padding: 0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; width: 307.85pt;" valign="top" width="410"><div align="center" class="MsoNormal" style="margin-bottom: 0.0001pt; text-align: center;">
<b><span lang="TH" style="color: white; font-family: "Cordia New","sans-serif"; font-size: 14.0pt; mso-ansi-font-size: 11.0pt; mso-ascii-font-family: Calibri; mso-ascii-theme-font: minor-latin; mso-bidi-font-family: "Cordia New"; mso-bidi-theme-font: minor-bidi; mso-hansi-font-family: Calibri; mso-hansi-theme-font: minor-latin; mso-themecolor: background1;">ประโยชน์</span><span style="color: white; mso-themecolor: background1;"><o:p></o:p></span></b></div>
</td>
</tr>
<tr>
<td style="background: #D2EAF1; border-bottom: solid #78C0D4 1.0pt; border-left: solid #78C0D4 1.0pt; border-right: none; border-top: none; mso-background-themecolor: accent5; mso-background-themetint: 63; mso-border-bottom-themecolor: accent5; mso-border-bottom-themetint: 191; mso-border-left-themecolor: accent5; mso-border-left-themetint: 191; mso-border-top-alt: solid #78C0D4 1.0pt; mso-border-top-themecolor: accent5; mso-border-top-themetint: 191; padding: 0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; width: 154.25pt;" valign="top" width="206"><div class="MsoNormal" style="margin-bottom: 0.0001pt;">
<b>Cordycepin<o:p></o:p></b></div>
</td>
<td style="background: #D2EAF1; border-bottom: solid #78C0D4 1.0pt; border-left: none; border-right: solid #78C0D4 1.0pt; border-top: none; mso-background-themecolor: accent5; mso-background-themetint: 63; mso-border-bottom-themecolor: accent5; mso-border-bottom-themetint: 191; mso-border-right-themecolor: accent5; mso-border-right-themetint: 191; mso-border-top-alt: solid #78C0D4 1.0pt; mso-border-top-themecolor: accent5; mso-border-top-themetint: 191; padding: 0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; width: 307.85pt;" valign="top" width="410"><div class="MsoNormal" style="margin-bottom: 0.0001pt;">
<span lang="TH" style="font-family: "Cordia New","sans-serif"; font-size: 14.0pt; mso-ansi-font-size: 11.0pt; mso-ascii-font-family: Calibri; mso-ascii-theme-font: minor-latin; mso-bidi-font-family: "Cordia New"; mso-bidi-theme-font: minor-bidi; mso-hansi-font-family: Calibri; mso-hansi-theme-font: minor-latin;">เพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด
ต้านเชื้อแบคทีเรียก่อโรค<o:p></o:p></span></div>
</td>
</tr>
<tr>
<td style="border-bottom: solid #78C0D4 1.0pt; border-left: solid #78C0D4 1.0pt; border-right: none; border-top: none; mso-border-bottom-themecolor: accent5; mso-border-bottom-themetint: 191; mso-border-left-themecolor: accent5; mso-border-left-themetint: 191; mso-border-top-alt: solid #78C0D4 1.0pt; mso-border-top-themecolor: accent5; mso-border-top-themetint: 191; padding: 0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; width: 154.25pt;" valign="top" width="206"><div class="MsoNormal" style="margin-bottom: 0.0001pt;">
<b>Adenosine<o:p></o:p></b></div>
</td>
<td style="border-bottom: solid #78C0D4 1.0pt; border-left: none; border-right: solid #78C0D4 1.0pt; border-top: none; mso-border-bottom-themecolor: accent5; mso-border-bottom-themetint: 191; mso-border-right-themecolor: accent5; mso-border-right-themetint: 191; mso-border-top-alt: solid #78C0D4 1.0pt; mso-border-top-themecolor: accent5; mso-border-top-themetint: 191; padding: 0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; width: 307.85pt;" valign="top" width="410"><div class="MsoNormal" style="margin-bottom: 0.0001pt;">
<span lang="TH" style="font-family: "Cordia New","sans-serif"; font-size: 14.0pt; mso-ansi-font-size: 11.0pt; mso-ascii-font-family: Calibri; mso-ascii-theme-font: minor-latin; mso-bidi-font-family: "Cordia New"; mso-bidi-theme-font: minor-bidi; mso-hansi-font-family: Calibri; mso-hansi-theme-font: minor-latin;">ต้านการแข็งตัวของเลือด
ต้านลิ่มเลือด<o:p></o:p></span></div>
</td>
</tr>
<tr>
<td style="background: #D2EAF1; border-bottom: solid #78C0D4 1.0pt; border-left: solid #78C0D4 1.0pt; border-right: none; border-top: none; mso-background-themecolor: accent5; mso-background-themetint: 63; mso-border-bottom-themecolor: accent5; mso-border-bottom-themetint: 191; mso-border-left-themecolor: accent5; mso-border-left-themetint: 191; mso-border-top-alt: solid #78C0D4 1.0pt; mso-border-top-themecolor: accent5; mso-border-top-themetint: 191; padding: 0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; width: 154.25pt;" valign="top" width="206"><div class="MsoNormal" style="margin-bottom: 0.0001pt;">
<b>Cordycepic Acid<o:p></o:p></b></div>
</td>
<td style="background: #D2EAF1; border-bottom: solid #78C0D4 1.0pt; border-left: none; border-right: solid #78C0D4 1.0pt; border-top: none; mso-background-themecolor: accent5; mso-background-themetint: 63; mso-border-bottom-themecolor: accent5; mso-border-bottom-themetint: 191; mso-border-right-themecolor: accent5; mso-border-right-themetint: 191; mso-border-top-alt: solid #78C0D4 1.0pt; mso-border-top-themecolor: accent5; mso-border-top-themetint: 191; padding: 0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; width: 307.85pt;" valign="top" width="410"><div class="MsoNormal" style="margin-bottom: 0.0001pt;">
<span lang="TH" style="font-family: "Cordia New","sans-serif"; font-size: 14.0pt; mso-ansi-font-size: 11.0pt; mso-ascii-font-family: Calibri; mso-ascii-theme-font: minor-latin; mso-bidi-font-family: "Cordia New"; mso-bidi-theme-font: minor-bidi; mso-hansi-font-family: Calibri; mso-hansi-theme-font: minor-latin;">เพิ่มเมตาบอริซึ่มของร่างกาย</span><o:p></o:p></div>
<div class="MsoNormal" style="margin-bottom: 0.0001pt;">
<span lang="TH" style="font-family: "Cordia New","sans-serif"; font-size: 14.0pt; mso-ansi-font-size: 11.0pt; mso-ascii-font-family: Calibri; mso-ascii-theme-font: minor-latin; mso-bidi-font-family: "Cordia New"; mso-bidi-theme-font: minor-bidi; mso-hansi-font-family: Calibri; mso-hansi-theme-font: minor-latin;">ป้องกันเลือกออกในสมอง
ลิ่มเลือก โรคหัวใจขาดเลือด หอบหืด<o:p></o:p></span></div>
</td>
</tr>
<tr>
<td style="border-bottom: solid #78C0D4 1.0pt; border-left: solid #78C0D4 1.0pt; border-right: none; border-top: none; mso-border-bottom-themecolor: accent5; mso-border-bottom-themetint: 191; mso-border-left-themecolor: accent5; mso-border-left-themetint: 191; mso-border-top-alt: solid #78C0D4 1.0pt; mso-border-top-themecolor: accent5; mso-border-top-themetint: 191; padding: 0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; width: 154.25pt;" valign="top" width="206"><div class="MsoNormal" style="margin-bottom: 0.0001pt;">
<b>SOD<o:p></o:p></b></div>
</td>
<td style="border-bottom: solid #78C0D4 1.0pt; border-left: none; border-right: solid #78C0D4 1.0pt; border-top: none; mso-border-bottom-themecolor: accent5; mso-border-bottom-themetint: 191; mso-border-right-themecolor: accent5; mso-border-right-themetint: 191; mso-border-top-alt: solid #78C0D4 1.0pt; mso-border-top-themecolor: accent5; mso-border-top-themetint: 191; padding: 0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; width: 307.85pt;" valign="top" width="410"><div class="MsoNormal" style="margin-bottom: 0.0001pt;">
<span lang="TH" style="font-family: "Cordia New","sans-serif"; font-size: 14.0pt; mso-ansi-font-size: 11.0pt; mso-ascii-font-family: Calibri; mso-ascii-theme-font: minor-latin; mso-bidi-font-family: "Cordia New"; mso-bidi-theme-font: minor-bidi; mso-hansi-font-family: Calibri; mso-hansi-theme-font: minor-latin;">ต้านอนุมูลอิสระ
ทำให้แก่ช้า</span><o:p></o:p></div>
<div class="MsoNormal" style="margin-bottom: 0.0001pt;">
<span lang="TH" style="font-family: "Cordia New","sans-serif"; font-size: 14.0pt; mso-ansi-font-size: 11.0pt; mso-ascii-font-family: Calibri; mso-ascii-theme-font: minor-latin; mso-bidi-font-family: "Cordia New"; mso-bidi-theme-font: minor-bidi; mso-hansi-font-family: Calibri; mso-hansi-theme-font: minor-latin;">ต้านการอักเสบ<o:p></o:p></span></div>
</td>
</tr>
<tr>
<td style="background: #D2EAF1; border-bottom: solid #78C0D4 1.0pt; border-left: solid #78C0D4 1.0pt; border-right: none; border-top: none; mso-background-themecolor: accent5; mso-background-themetint: 63; mso-border-bottom-themecolor: accent5; mso-border-bottom-themetint: 191; mso-border-left-themecolor: accent5; mso-border-left-themetint: 191; mso-border-top-alt: solid #78C0D4 1.0pt; mso-border-top-themecolor: accent5; mso-border-top-themetint: 191; padding: 0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; width: 154.25pt;" valign="top" width="206"><div class="MsoNormal" style="margin-bottom: 0.0001pt;">
<b>Polysaccharides<o:p></o:p></b></div>
</td>
<td style="background: #D2EAF1; border-bottom: solid #78C0D4 1.0pt; border-left: none; border-right: solid #78C0D4 1.0pt; border-top: none; mso-background-themecolor: accent5; mso-background-themetint: 63; mso-border-bottom-themecolor: accent5; mso-border-bottom-themetint: 191; mso-border-right-themecolor: accent5; mso-border-right-themetint: 191; mso-border-top-alt: solid #78C0D4 1.0pt; mso-border-top-themecolor: accent5; mso-border-top-themetint: 191; padding: 0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; width: 307.85pt;" valign="top" width="410"><div class="MsoNormal" style="margin-bottom: 0.0001pt;">
<span lang="TH" style="font-family: "Cordia New","sans-serif"; font-size: 14.0pt; mso-ansi-font-size: 11.0pt; mso-ascii-font-family: Calibri; mso-ascii-theme-font: minor-latin; mso-bidi-font-family: "Cordia New"; mso-bidi-theme-font: minor-bidi; mso-hansi-font-family: Calibri; mso-hansi-theme-font: minor-latin;">เพิ่มภูมิคุ้มกัน</span><o:p></o:p></div>
<div class="MsoNormal" style="margin-bottom: 0.0001pt;">
<span lang="TH" style="font-family: "Cordia New","sans-serif"; font-size: 14.0pt; mso-ansi-font-size: 11.0pt; mso-ascii-font-family: Calibri; mso-ascii-theme-font: minor-latin; mso-bidi-font-family: "Cordia New"; mso-bidi-theme-font: minor-bidi; mso-hansi-font-family: Calibri; mso-hansi-theme-font: minor-latin;">มีความน่าจะเป็นในการลดการโตของเนื้องอกและเซลมะเร็ง</span><o:p></o:p></div>
<div class="MsoNormal" style="margin-bottom: 0.0001pt;">
<span lang="TH" style="font-family: "Cordia New","sans-serif"; font-size: 14.0pt; mso-ansi-font-size: 11.0pt; mso-ascii-font-family: Calibri; mso-ascii-theme-font: minor-latin; mso-bidi-font-family: "Cordia New"; mso-bidi-theme-font: minor-bidi; mso-hansi-font-family: Calibri; mso-hansi-theme-font: minor-latin;">ลดระดับน้ำตาลในเลือด
ตอเรสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ </span>(<span lang="TH" style="font-family: "Cordia New","sans-serif"; font-size: 14.0pt; mso-ansi-font-size: 11.0pt; mso-ascii-font-family: Calibri; mso-ascii-theme-font: minor-latin; mso-bidi-font-family: "Cordia New"; mso-bidi-theme-font: minor-bidi; mso-hansi-font-family: Calibri; mso-hansi-theme-font: minor-latin;">ไขมันในเลือด</span>)<o:p></o:p></div>
</td>
</tr>
<tr>
<td style="border-bottom: solid #78C0D4 1.0pt; border-left: solid #78C0D4 1.0pt; border-right: none; border-top: none; mso-border-bottom-themecolor: accent5; mso-border-bottom-themetint: 191; mso-border-left-themecolor: accent5; mso-border-left-themetint: 191; mso-border-top-alt: solid #78C0D4 1.0pt; mso-border-top-themecolor: accent5; mso-border-top-themetint: 191; padding: 0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; width: 154.25pt;" valign="top" width="206"><div class="MsoNormal" style="margin-bottom: 0.0001pt;">
<b>Sterol<o:p></o:p></b></div>
</td>
<td style="border-bottom: solid #78C0D4 1.0pt; border-left: none; border-right: solid #78C0D4 1.0pt; border-top: none; mso-border-bottom-themecolor: accent5; mso-border-bottom-themetint: 191; mso-border-right-themecolor: accent5; mso-border-right-themetint: 191; mso-border-top-alt: solid #78C0D4 1.0pt; mso-border-top-themecolor: accent5; mso-border-top-themetint: 191; padding: 0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; width: 307.85pt;" valign="top" width="410"><div class="MsoNormal" style="margin-bottom: 0.0001pt;">
<span lang="TH" style="font-family: "Cordia New","sans-serif"; font-size: 14.0pt; mso-ansi-font-size: 11.0pt; mso-ascii-font-family: Calibri; mso-ascii-theme-font: minor-latin; mso-bidi-font-family: "Cordia New"; mso-bidi-theme-font: minor-bidi; mso-hansi-font-family: Calibri; mso-hansi-theme-font: minor-latin;">ป้องกันไตอักเสบเรื้อรัง</span><o:p></o:p></div>
<div class="MsoNormal" style="margin-bottom: 0.0001pt;">
<span lang="TH" style="font-family: "Cordia New","sans-serif"; font-size: 14.0pt; mso-ansi-font-size: 11.0pt; mso-ascii-font-family: Calibri; mso-ascii-theme-font: minor-latin; mso-bidi-font-family: "Cordia New"; mso-bidi-theme-font: minor-bidi; mso-hansi-font-family: Calibri; mso-hansi-theme-font: minor-latin;">ป้องกันโรคหอบหืด</span><o:p></o:p></div>
<div class="MsoNormal" style="margin-bottom: 0.0001pt;">
<span lang="TH" style="font-family: "Cordia New","sans-serif"; font-size: 14.0pt; mso-ansi-font-size: 11.0pt; mso-ascii-font-family: Calibri; mso-ascii-theme-font: minor-latin; mso-bidi-font-family: "Cordia New"; mso-bidi-theme-font: minor-bidi; mso-hansi-font-family: Calibri; mso-hansi-theme-font: minor-latin;">เพิ่มประสิทธิภาพการบีบตัวของหัวใจ<o:p></o:p></span></div>
</td>
</tr>
</tbody></table>
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">คุณสมบัติของถั่งเช่า</span></u></h3>
<div>
<ul>
<li>บำบัดหลอดลมอักเสบเรื้อรัง โรคภูมิแพ้ อาการหอบหืด อาการวัณโรค โรคปอด ถุงลมโป่งพอง และโรคหัวใจ</li>
<li>เสริมประสิทธิภาพของการทำงานของตับและไต</li>
<li>มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอการแก่ และการเสื่อมของเซลล์ร่างกาย</li>
<li>ออกฤทธิ์ยับยั้งพิษของแบคทีเรีย รวมทั้งแบคทีเรียวัณโรค</li>
<li>ช่วยเพิ่มออกซิเจนจึงเหมาะกับนักกีฬา เพราะจะทำให้เหนื่อยน้อยลง รวมถึงผู้มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ</li>
<li>ออกฤทธิ์ขยายหลอดเลือด เพิ่มปริมาณเลือดที่เข้าไปหล่อเลี้ยงหัวใจและปอด เพิ่มระดับออกซิเจนในร่างกาย ระบบการหายใจ และช่วยเรื่องระบบไหลเวียนโลหิต ช่วยบรรเทาอาการเจ็บหน้าอก และอาการออ่นเพลีย</li>
<li>บรรเทาอาการขาดออกซิเจน ช่วยระงับประสาท ลดความดัน ควบคุมระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด ลดระดับไขมันในเลือด</li>
<li>ป้องกันอาการหลอดเลือดแข็งตัว อาการโรคหัวใจ และอาการประสาทเสื่อม</li>
<li>ช่วยป้องกันโรคความจำเสื่อม ลดอาการตายของเซลล์สมอง</li>
<li>ช่วยลดความวิตกกังวล ทำให้นอนหลับสนิท</li>
</ul>
<div>
<br /></div>
<h3>
<u><span style="color: #990000;">ราคาของถั่งเช่า</span></u></h3>
</div>
<div>
<br /></div>
<div>
อย่างที่รู้กันว่าเห็ดถั่งเช่านั้นเป็นเห็ดที่มีราคามหาโหดเอามากๆ อาจเป็นเพราะว่ามันหายาก และการเพาะเลี้ยงในปัจจุบันก็ยังไม่แพร่หลายมากนัก ถึงเพาะได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ว่ากันว่าราคาของถั่งเช่านั้นอย่างเกรดต่ำๆราคาจะอยู่ที่ 250,000 บาท/กิโลกรัม แต่ถ้าเป็นถั่งเช่าเกรดคุณภาพ <b><span style="color: #990000;">ราคาจะอยู่ที่ 2,500,000 บาท/กิโลกรัม </span></b>ขึ้นไปเลยทีเดียว (เห็นราคาแล้วเหงื่อตก ชาตินี้จะได้กินมั้ยเนี่ย)</div>
<div>
<br /></div>
<div>
<h3>
<u><span style="color: #990000;">ข้อควรระวังของการกินถั่งเช่า</span></u></h3>
<div>
<ul>
<li>ควรระวังการใช้ในผู้ป่วยเบาหวาน เนื่องจากถั่งเช่ามีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดได้ จะไปเสริมฤทธิ์กับยาลดน้ำตาลในเลือด</li>
<li>ควรระวังการใช้ในผู้ป่วยที่ได้รับยากลุ่มป้องกันการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด เนื่องจากถั่งเช่ามีฤทธิ์ต้านการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด</li>
<li>ควรระวังการใช้ในผู้ป่วยที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน (immunosuppressive) ทั้งนี้เพราะว่าถั่งเช่ามีฤทธิ์กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน</li>
</ul>
<div>
<br /></div>
<div>
ถึงแม้ว่าถั่งเช่าจะเป็นเห็ดที่มากความสามารถ มากสรรพคุณซะเหลือเกิน แต่ยังไงก็แล้วแต่ งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับเห็ดถั่งเช่านั้นยังมีให้เห็นน้อย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการทดลองขนาดเล็กมากกว่า ด้วยราคาที่แพงหูฉี่ทำให้ก่อนที่จะซื้อถั่งเช่ามากินอาจต้องคิดแล้วคิดอีก หนึ่งคือคิดว่าซื้อมากินแล้วจะสามารถช่วยบรรเทาอาการรักษาโรคที่เป็นอยู่ได้หรือเปล่า กับสองคือซื้อมาแล้วจะมีตังค์กินข้าวหรือเปล่า เพราะมันแพงซะเหลือเกิน ต้องมีตังค์จริงๆถึงจะกินเห็ดชนิดนี้ได้<b><span style="color: #990000;"> "ถั่งเช่าเงินล้าน"</span></b></div>
</div>
</div>
Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1454503014668685226.post-3373288505575875112014-09-01T02:22:00.004-07:002016-04-19T22:04:03.928-07:00Review ทำ VIPL รักษาหลุมสิวที่นิติพล ครั้งที่ 2 โดนกดสิวด้วยเจ็บจริงๆ (ครั้งที่ 4)<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgK9Kfue4EMCLdXaY7n4OxQLPR5WPKuDzaifCz_yy_cIAxm0cB6yv_L9J33TGdZh5z8wWPQjy2Q3-uDOFNDrNIDgA9MojvKcpn4SfZJXYLVs7P0GJt3ul0Iqrvn-x5rX04xXOY6rg5Ww5I/s1600/Minisubcision-nitipon.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="Review ทำ VIPL รักษาหลุมสิวที่นิติพล ครั้งที่ 2 " border="0" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgK9Kfue4EMCLdXaY7n4OxQLPR5WPKuDzaifCz_yy_cIAxm0cB6yv_L9J33TGdZh5z8wWPQjy2Q3-uDOFNDrNIDgA9MojvKcpn4SfZJXYLVs7P0GJt3ul0Iqrvn-x5rX04xXOY6rg5Ww5I/s1600/Minisubcision-nitipon.jpg" title="Review ทำ VIPL รักษาหลุมสิวที่นิติพล ครั้งที่ 2 " width="560" /></a></div>
<br />
วันนี้มาทำ VIPL เพื่อลดรอยดำ รอยสิว ช่วยกระตุ้นหลุมสิวกันเหมือนเคย กับ<b><span style="color: #990000;">คอร์ส Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 4 </span></b>มาถึงครึ่งทางแล้ว ก็ดูรูปกันเอาเองนะครับว่าตกลงหลุมสิวมันตื้นขึ้นมาบ้างหรือเปล่า<br />
<br />
<a name='more'></a><br />
<div style="text-align: center;">
<script async="" src="//pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/adsbygoogle.js"></script>
<!-- healthbeautydd-300 -->
<br />
<ins class="adsbygoogle" data-ad-client="ca-pub-3419656287281437" data-ad-slot="4814025537" style="display: inline-block; height: 250px; width: 300px;"></ins><script>
(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});
</script>
</div>
<h3>
<span style="font-size: small; font-weight: normal;">ไปถึงที่นิติพลอนุสาวรีย์ชัยฯประมาณเที่ยงครึ่งเห็นจะได้ รอคุณหมออยู่แป๊บหนึ่ง คุณหมอก็เรียกเข้าไปพบ วันนี้ที่หน้าของผมมีสิวอักเสบ 2 เม็ด หมอก็จัดการเอาเข็มมาเขี่ยๆสิวและบีบสิวออกให้ผม บีบนะไม่ใช่กด ใช้มือบีบกันจะๆเลย หมอบอกว่าต้องบีบออกอย่าปล่อยให้เป็นหนอง เพราะสิวหนองนี่แหละที่ทำหน้าเป็นหลุมสิว</span></h3>
<div>
<span style="font-size: small; font-weight: normal;"><br /></span></div>
<h3>
<u><span style="color: #990000;">กดสิวนี่มันเจ็บจริงๆ</span></u></h3>
<br />
หลังจากหมอสังหารสิวอักเสบของผมเรียบร้อยแล้ว ก็ให้ผมไปรอข้างนอก ตอนแรกนึกว่าจะได้ทำ VIPL เลย แต่พนักงานบอกว่าเดี๋ยวกดสิวอุดตันออกก่อน ผมก็งงๆหมอไม่ได้บอกว่าต้องกดสิวด้วย แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเดินตามพนักงานที่นิติพลไปแต่โดยดี ไปถึงพนักงานก็ให้ผมขึ้นเตียง ทำความสะอาดหน้า แล้วก็จัดการกดสิวที่อยู่บนหน้าผม ก่อนกดพนักงานถามว่าเคยกดสิวหรือเปล่าคะ ผมตอบกลับไปว่าไม่เคยกดที่คลินิกสักที เคยแต่กดเองนี่ครั้งแรกเลย พนักกงานก็เลยบอกผมว่าถ้าเจ็บก็บอกได้นะคะ ผมก็ OK ครับ<br />
<br />
หลังจากกดไปได้ประมาณ 5-6 เม็ด ผมก็รู้สึกว่าการให้คนอื่นกดสิวให้นี่มันเจ็บจริงๆ ปกติถ้าเรากดเองเวลาเจ็บเราก็จะยั้งๆมือ แต่พอเป็นคนอื่นเค้าไม่รู้ว่าเราเจ็บหรือเปล่า รู้แค่ว่ากดสิวอุดตันให้ออกเป็นใช้ได้ก็เลยกดอย่างเต็มแรง สโลแกนโก๋แก่บอกมันส์ทุกเม็ด แต่ผมบอกเลยว่ากดสิวนี่<b><span style="color: #990000;"> "เจ็บทุกเม็ด" </span></b>ระหว่างที่พนักงานกดสิวให้ผมอยู่ก็ถามขึ้นมาว่า กดสิวกับทำ Mini subcision นี่อันไหนเจ็บกว่ากัน ผมตอบแบบไม่ต้องคิดว่ากดสิวเจ็บกว่าครับ mini ยังใส่ยาชาให้ โดนก็ยังไม่รู้สึกอะไรมาก แต่กดสิวนี่กดกันสดๆ เจ็บจนน้ำตาเล็ดอ่ะครับ<br />
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">เริ่มทำ VIPL กันต่อ</span></u></h3>
<br />
หลังจากกดสิวเสร็จคุณหมอก็เดินเข้ามาเพื่อเริ่มทำ VIPL การยิงก็เหมือนกับครั้งแรกไม่มีอะไรแตกต่าง แต่ได้ยินพนักกงานคุยกับคุณหมอว่า นี่หลุมสิวตื้นไปเยอะเลยนะคะ คุณหมอก็ตอบว่ายังไม่สะใจหมอ สามารถทำให้ตื้นกว่านี้ได้ แล้วก็เล่าถึงลูกค้าที่สำโรงให้ฟังว่า หมอมีลูกค้าอยู่คนหนึ่งผิวประมาณผมเลย บอกว่าผิวหน้าแบบผมหลุมสิวจะตื้นช้าและยาก อาจต้องทำประมาณ 2-3 คอร์ส ผมนึกในใจคอร์สแรกก็ปาไป 20,000 แล้ว ถ้าทำต่ออีกกลัวจะเป็นโรคเพิ่มขึ้น<b><span style="color: #990000;"> "โรคทรัพย์จาง" </span></b>ยังไงล่ะครับ แต่คุณหมอก็บอกนะว่าคือทำให้เต็มที่ทุกครั้งเดี๋ยวรอดูครั้งสุดท้ายก่อนว่าเป็นยังไง ค่อยว่ากันอีกที ผมก็ไม่ได้พูดอะไรปล่อยให้หมอยิง VIPL ไปเรื่อยๆจนเสร็จ<br />
<br />
ก่อนกลับหมอบอกว่าสัปดาห์หน้าอาจจะงดทำ Mini subcision ไปก่อน เพราะเห็นว่าหน้าผมมีสิวขึ้นเยอะ กลัวว่าทำแล้วอาจไปกระตุ้นให้สิวขึ้นมากกว่าเดิม แต่ถ้าจะมาให้หมอดูหน้าก็ได้ ผมก็รับทราบ เดินออกมาจากห้องทำ VIPL รับวิตามินซีมากินอีก 2 ซองแล้วก็กลับบ้าน<br />
<br />
หลังจากทำ VIPL ไปได้ 2-3 วัน สิวอักเสบผมขึ้นมาอีกประมาณ 2-3 เม็ด น่าจะมาจากการกดสิวแล้วหัวสิวมันไม่ออกของพนักงาน ทำให้ผมต้องแต้มยาอยู่หลายวันกว่าจะหาย รู้สึกเซ็งเล็กน้อย ก็จบกันไปกับการทำ VIPL ครั้งที่ 2 ในคอร์สรักษาหลุมสิวที่นิติพลนับเป็นครั้งที่ 4 เหลืออีก 4 ครั้ง ก็ตามลุ้นกันต่อไป จะมา Update การเปลี่ยนแปลงให้ดูทุกสัปดาห์แน่นอนครับ
<br />
<ul>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/08/review-mini-subcision-vipl-1.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 1</a></li>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/08/review-mini-subcision-vipl-vipl-2.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 2</a></li>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/08/review-mini-subcision-2.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 3</a></li>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/09/review-vipl-2-4.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 4</a></li>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/09/review-mini-subcision-3-5.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 5</a></li>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/09/review-vipl-3-7-6.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 6</a></li>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/10/review-mini-subcision-4-7.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 7</a></li>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/11/mini-subcision-vipl-1.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 8</a></li>
</ul>
Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1454503014668685226.post-86481688660626221222014-08-20T20:46:00.003-07:002016-04-19T22:03:49.146-07:00Review ทำ Mini subcision ครั้งที่ 2 คราวนี้เปลี่ยนหมอ เปลี่ยนเครื่องมือที่ใช้ด้วย (ครั้งที่ 3)<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhZdFiQCsXY97WmCGoVvOp-9b8b3eMymalbb3M8oeK19MeKa4fFlW7cToMUbz4CkG2o2g7eZwyAer8_5sOeOaT0_eAOhIzR4fvxNitSYp83jPF-5i0jC1rejBLL-0I-EKLEX8rRq51llKg/s1600/Mini-subcision-2.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="Review ทำ Mini subcision ครั้งที่ 2" border="0" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhZdFiQCsXY97WmCGoVvOp-9b8b3eMymalbb3M8oeK19MeKa4fFlW7cToMUbz4CkG2o2g7eZwyAer8_5sOeOaT0_eAOhIzR4fvxNitSYp83jPF-5i0jC1rejBLL-0I-EKLEX8rRq51llKg/s1600/Mini-subcision-2.jpg" title="Review ทำ Mini subcision ครั้งที่ 2" width="560" /></a></div>
<br />
สำหรับ review การทำ <b><span style="color: #990000;"> Mini subcision ในครั้งที่ 2</span></b> นี้ ผมได้ตัดสินใจเปลี่ยนหมอตามที่พนักงานได้แนะนำไว้ โดยเปลี่ยนจากวันพุธมาเป็นวันศุกร์ ผมไปถึงที่นิติพลคลินิกประมาณ 12.30 น. นั่งรอหมออยู่พักหนึ่งพนักงานก็เรียกเข้าไปทำความสะอาดหน้าและทายาชา จากนั้นก็ใช้ฟิล์มใสที่ใช้ห่ออาหารปิดหน้าของผมเอาไว้ ผมถามพนักงานว่าปิดไว้เพื่ออะไร พนักงานบอกผมว่าเพื่อให้ยาชามันซึมได้ดีขึ้น<br />
<a name='more'></a><br />
<div style="text-align: center;">
<script async="" src="//pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/adsbygoogle.js"></script>
<!-- healthbeautydd-300 -->
<br />
<ins class="adsbygoogle" data-ad-client="ca-pub-3419656287281437" data-ad-slot="4814025537" style="display: inline-block; height: 250px; width: 300px;"></ins><script>
(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});
</script>
</div>
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">รอให้หน้าชาประมาณ 40 นาที</span></u></h3>
<br />
หลังจากทายาชาเสร็จก็ต้องรอให้ยาออกฤทธิ์ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 40 นาที พอได้เวลาพนักงานก็เดินเข้ามาในห้องแกะฟิล์มใสที่หน้าด้านซ้ายออก พร้อมกับเอาที่เกลี่ยมาเกลี่ยยาชาบริเวณหน้าด้านขวาของผมออก ทำเสร็จหมอก็เดินเข้ามา แล้วบอกผมว่าจะเริ่มทำ Mini subcision แล้วนะ โดยเริ่มจากการทำ subcision แบบธรรมดาก่อน บางคนอาจสงสัยว่า subcision คืออะไร ผมขออธิบายแบบสั้นๆกันก่อน<br />
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">Subcision คือ</span></u></h3>
<br />
Subcision คือ การใช้มีดขนาดเล็กที่เรียกว่า norkor needle กรีดหรือเซาะไปยังบริเวณหลุมสิวของเรา เพื่อให้พังผืดที่ยึดหลุมสิวของเรามันคลายตัวออก ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้นได้ดี มักทำในกรณีที่หลุมสิวนั้นเป็นหลุมกว้างและเป็นมานานจนมีพังผืดเกาะนั่นเอง<br />
<br />
หมอทำ Subcision ให้ผมอยู่หลายตำแหน่ง เพราะหลุมสิวบนหน้าผมส่วนใหญ่จะเป็นหลุมกว้าง คือปากหลุมกว้างแต่ไม่ลึก ลักษณะจะเป็นเหมือนแอ่งกระทะ กรีดไปก็ซับเลือดไป พอกรีดหน้าซีกขวาเสร็จหมอก็กรีดซีกซ้ายต่อ ด้านที่กรีดแล้วพนังงานก็ทายาชาซ้ำลงไปอีกรอบทันทีเพื่อเตรียมตัวทำ Mini subcision ต่อ<b><span style="color: #990000;"> ถามว่าทำ Subcision เจ็บมั้ย? ต้องบอกเลยว่าเจ็บในระดับหนึ่ง</span></b> มันจะจี๊ดๆเสียวๆทุกครั้งที่หมอกรีดหน้า ขนาดทายาชายังรู้สึกได้ แต่หมอก็ถามผมตลอดนะว่าเจ็บมั้ย ทนได้หรือเปล่า ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวหมอฉีดยาชาให้ ผมก็บอกว่าไม่เป็นไรผมทนได้ (อยากหล่อต้องอดทน)<br />
<br />
<h3>
<u><span style="color: #990000;">เริ่มทำ Mini subcision ต่อ</span></u></h3>
<br />
หมอหมอทำ subcision อย่างสาสมแล้ว ก็ทำ Mini subcision ต่อ โดยหมอบอกว่าเค้าจะใช้ค้อนที่มีเข็มอันเล็กๆทุบที่หน้าผมเพื่อกระตุ้นหลุมสิวที่เล็กๆ หลังจากที่จัดการหลุมสิวขนาดใหญ่ด้วย subcision ไปแล้ว พอพูดจบหมอก็เริ่มทุบด้วยค้อนไปทั่วหน้าผม โดยเริ่มจากขมับด้านซ้าย แก้ม คาง จมูก แล้วก็ไล่ไปด้านขวาต่อ จากนั้นมาทุบย้ำบริเวณแก้มที่เป็นหลุมสิวเยอะๆอีกทีก็เสร็จ<br />
<br />
หลังจากที่ทุบหน้าด้วยค้อน Mini subcision เสร็จคุณหมอก็บอกว่าจะทาครีมเรียกเนื้อให้ผม ซึ่งจะช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้นมาได้ ผมก็เลยถามด้วยความสงสัยว่ามันคือครีมอะไร หมอตอบว่ามันคือ hyaluronic acid , คอลลาเจน และวิตามินซี ก็ทาไปทั่วหน้า จากนั้นพนักงานก็มาเก็บงานให้เรียบร้อยก็เป็นอันเสร็จสิ้นสำหรับการทำ Mini subcision ครั้งที่ 2 ในวันนี้<br />
<br />
การทำ Mini subcision ในครั้งที่ 2 นี้ เปลี่ยนทั้งหมอ เปลี่ยนทั้งเครื่องมือ ไม่รู้ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร <b><span style="color: #990000;">จะช่วยให้หลุมสิวตื้นมากกว่าเดิมได้แค่ไหน</span></b>ก็ต้องรอติดตามผลกันไปอีกหนึ่งสัปดาห์ เดี๋ยวผมจะถ่ายรูปเก็บไว้ทุกวันเพื่อเอาไว้เทียบผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นว่าเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน อย่าลืมติดตามกันต่อกับการ Review Mini subcision ครั้งที่ 3 ในสัปดาห์หน้าด้วยนะครับ
<br />
<ul>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/08/review-mini-subcision-vipl-1.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 1</a></li>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/08/review-mini-subcision-vipl-vipl-2.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 2</a></li>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/08/review-mini-subcision-2.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 3</a></li>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/09/review-vipl-2-4.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 4</a></li>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/09/review-mini-subcision-3-5.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 5</a></li>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/09/review-vipl-3-7-6.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 6</a></li>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/10/review-mini-subcision-4-7.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 7</a></li>
<li><a href="http://healthbeautydd.blogspot.com/2014/11/mini-subcision-vipl-1.html" target="_blank">ทำ Mini subcision + VIPL ครั้งที่ 8</a></li>
</ul>
Unknownnoreply@blogger.com1