"โรคความดันโลหิตสูง" จัดเป็นอีกหนึ่งโรคฮิตของคนไทยและคนทั่วโลก เนื่องจากเป็นกันได้ง่ายๆ ไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรมากมายก็สามารถเป็นกันได้ทุกคน ส่วนใหญ่แล้วคนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงนั้นจะไม่ค่อยรู้ตัวว่าตัวเองเป็น ส่วนใหญ่จะไปตรวจเจอโดยบังเอิญ เพราะโรคความดันโลหิตสูงจะไม่ค่อยแสดงอาการออกมา ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนว่า ความดันเท่าไรถึงจะเรียกว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูง
ปริมาตรความดันของคนเป็นโรคความดันโลหิตสูง
ทำไมโรคความดันโลหิตสูงถึงน่ากลัวกว่าที่คิด
ที่โรคความดันโลหิตสูงดูน่ากลัวกว่าที่เราคิดก็เพราะว่า โรคความดันโลหิตสูงนี้เป็นต้นเหตุหรือที่มาของการเป็นโรคร้ายแรงชนิดอื่นๆได้ง่าย หรือภาษาหมอจะเรียกว่า "ภาวะแทรกซ้อน" นั่นเอง คือพอเราได้เป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคอื่นๆมันก็จะแย่งกันเข้ามาร่วมวงด้วยโดยที่ไม่เคยถามเราเลยสักคำ ว่าเราอยากจะเป็นมั๊ย(ไม่มีมารยาทเลยจริงๆ) โรคแทรกซ้อนที่มักเกิดจากโรคความดันโลหิตสูงก็มี
- โรคไตวาย หรือไตวายเรื้อรัง
- โรคหลอดเลือดหัวใจ
- โรคหัวใจขาดเลือด
- โรคหัวใจล้มเหลว
- เส้นเลือดในสมองอุดตัน หรือแตก
- อัมพฤกษ์ อัมพาต
- เลือดออกที่ตา ทำให้ตาบอด
รู้ได้ยังไงว่าเราเสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูงหรือเปล่า?
ความเสี่ยงในการเป็นโรคความดันโลหิตสูงนั้น มีทั้งความเสี่ยงจากปัจจัยภายในและภายนอก ความเสี่ยงที่เราควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ มาดูกันครับว่า เราเสี่ยงข้อไหนบ้าง
- พ่อ แม่ พี่น้อง เป็นมาก่อน และมีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป เป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้เพราะเกี่ยวกับเรื่องของกรรมพันธ์ ถ้าเลือกเกิดได้เราคงไม่เลือก Option เสริมนี้มาด้วยแน่นอน
- ชอบกินอาหารเค็มจัด หวานจัด ใครชอบกินของหวานๆ ขนมเค้ก ช็อคโกแลต ทองหยิบ ทองหยอด หรือเวลาทำกับข้าวหรือกินก๋วยเตี๋ยวชอบใส่น้ำปลา น้ำตาลเยอะๆนั่นแหละ ระวังตัวไว้ให้ดี มีความเสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูง สูงมาก
- เป็นโรคเบาหวานอยู่แล้ว มักจะเป็นโรคความดันโลหิตสูงคู่กันไปด้วย
- อ้วน น้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ค่อยออกกำลังกาย
- สูบบุหรี่จัด ดื่มเหล้า เบียร์ เป็นประจำ นี่เสี่ยงสูงเลย
เห็นมั๊ยครับว่ามีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้เราเสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูง ซึ่งแต่ละอย่างก็เป็นเรื่องที่เราต้องทำในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว คือเราอาจจะทำจนเป็นนิสัยโดยที่เราไม่รู้ตัวว่า สิ่งที่เราทำ อาหารที่เรากินอยู่ อาจทำให้เราเป็นโรคโรคความดันโลหิตสูงในอนาคตได้
เพราะฉะนั้นจะดีกว่ามั๊ยหากเราหาวิธีป้องกันโรคความดันโลหิตสูงตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อป้องกันความลำบากของสุขภาพที่อาจมาเยือนตัวเราได้ มาดูวิธีป้องกันโรคความดันโลหิตสูงก่อนที่จะสายกันดีกว่า
ทำตัวอย่างไร ให้ห่างไกลโรคความดันโลหิตสูง
- ชิมก่อนกิน ที่เห็นได้ง่ายสุดก็เวลากินก๋วยเตี๋ยวนี่แหละ ไม่ค่อยชิมกันก่อนว่าเค็มหรือยัง หวานหรือเปล่า พ่อค้ามาเสิร์ฟที่โต๊ะเสร็จปุ๊บ เปิดฝาขวดน้ำปลาเทปั๊บ ตามด้วยน้ำตาลอีก 3 ช้อน ถ้าเป็นอย่างนี้ไม่นานคงได้เป็นแน่ๆ ถ้าไม่อยากเป็นโรคความดันโลหิตสูง ก่อนที่จะกินอะไรก็ให้ชิมซะก่อนว่ามันเค็มหรือยัง จะปรุงเพิ่มอีกหรือเปล่า แต่ถ้าจะให้ดีก็ไม่ต้องปรุงเลยก็ได้ ช่วยได้เยอะ
- ลดการใช้น้ำปลา หรือเกลือเพื่อปรุงรส ไม่ใช่ลดเกลือ น้ำปลา แล้วไปใส่รสดี ใส่ซีอิ๊วแทนนะ อันนั้นมันก็ได้ผลเหมือนกัน กินเยอะก็ไม่ดีเหมือนกัน ใส่ของพวกนี้ให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วมาใส่พวกเครื่องเทศจากธรรมชาติเพื่อปรุงรสแทน เช่น กระเทียม ขิง พริกไทย มะนาว หัวหอม ผงกะหรี่
- ไม่วางขวดซีอิ๊ว ขวดน้ำปลาไว้บนโต๊ะกินข้าว เห็นเป็นไม่ได้ เหมือนมันจะมีพลังลึกลับบางอย่าง ทำให้เรายื่นมือไปหยิบขวดน้ำปลาพวกนี้มาเติมในกับข้าวแบบไม่รู้ตัว เพราะฉะนั้นหากอยากลดเค็มให้ได้ก็เอามันไปไว้ในครัว หรือไกลจากมือเราเวลากินข้าวดีที่สุด
- ทำกับข้าวกินเอง เป็นวิธีการควบคุมความเค็มของอาหารได้ดีที่สุด เว้นแต่ว่าเราอยากใส่ให้มันเค็มเกินไป อันนี้ก็ไม่เกิดประโยชน์แต่อย่างใด
- อ่านฉลากก่อนซื้ออาหารสำเร็จรูปทุกครั้ง โดยให้ดูปริมาณโซเดียมที่ระบุอยู่ในฉลากของอาหาร อาหารสำเร็จรูปทุกชนิดต้องกำหนดไว้อยู่แล้ว การเลือกกินก็ควรเลือกที่มีโซเดียมต่ำๆไว้ก่อน เค็มน้อยๆไว้ก่อนดีที่สุด
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โดยใช้เวลาอย่างน้อยๆ 30 นาที 3 วัน/สัปดาห์
- ทำจิตใจให้สบาย ไม่เครียด หรือกังวลมากนัก เพราะความเครียดจะทำให้ความดันโลหิตของเราสูงปี๊ดขึ้นได้ง่าย เพราะฉะนั้นลดความเครียดลงบ้างจะได้ไม่เป็นโรคความดันโลหิตสูงกัน
- งดสูบบุหรี่ งดดื่มเหล้า เครื่องดื่มแอกอฮอร์ เปลี่ยนจากงดเหล้าเข้าพรรษา มาเป็นงดเหล้าออกพรรษาบ้างก็ได้ ช่วยลดการดื่มลงได้เยอะเลยนะครับ
- ตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ เป็นสิ่งที่ช่วยป้องกันโรคความดันโลหิตสูงได้ดีที่สุด อย่างน้อยๆถ้าเรารู้ตัวเร็ว เราก็จะได้ป้องกันและรักษาโรคให้หายได้ทันท่วงที ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นหนักแล้วค่อยตรวจเจอ ถ้าเป็นอย่างนี้ก็ไม่ทันการแล้ว คงจะโดนโรคแทรกซ้อนอื่นๆเล่นงานจนงอมเป็นแถวๆ
นี่ก็เป็นวิธีป้องกันโรคความดันโลหิตสูงที่ได้รวบรวมมาครับ หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับผู้อ่านบ้างนะครับ กันไว้ดีกว่าแก้ ถ้าแย่แล้วเดี๋ยวแก้ไม่ทัน ดูแลความดันโลหิตของเราให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย สามารถช่วยลดความเสี่ยงการเป็นโรคต่างๆได้เยอะเลย เพราะฉะนั้นเรามาดูแลความดันของเราตั้งแต่วันนี้กันครับ เพื่อตัวเราเอง และคนที่เรารัก
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น