เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 59 ที่ผ่านมาผมมีโอกาสได้ไปบริจาคเลือดกับสภากาชาดที่เดอะมอลล์งามวงศ์วานมา เป็นการบริจาคครั้งที่เท่าไรจำไม่ได้ พยาบาลบอกผมก่อนบริจาคว่าครั้งล่าสุดที่บริจาค คือ ปี 2553 ซึ่งนานมาก ก่อนหน้านี้ผมสุขภาพไม่สู้ดีต้องกินยาตลอดทำให้พลาดการบริจาคไป แต่ครั้งนี้ผมพร้อมแล้วเตรียมตัวมาอย่างดี ถึงแม้ว่าหลังบริจาคผมจะหน้ามืดเกือบเป็นลมก็ตาม แต่เลือดก็เต็มถุงพอดี อย่างน้อยก็รู้สึกว่าได้ทำภารกิจสำเร็จอย่างที่ตั้งใจไว้
ระหว่างที่นั่งพักดื่มน้ำแดงและทานขนมอยู่นั้น ผมเหลือบไปเห็นโบรชัวร์ "บริจาคโลหิตดีอย่างไร?" แผ่นนี้เข้า หยิบอ่านรู้สึกว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการบริจาคเลือดที่มีประโยชน์ซึ่งหลายคนอาจยังไม่รู้ วันนี้ผมจึงขออนุญาตนำข้อมูลในโบร์ชัวมาแชร์ในวันนี้ครับ
บริจาคโลหิตดีอย่างไร
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ องค์สภานายิกาสภากาชาดทรงมีพระราชดำรัสถึงผู้บริจาคโลหิตว่า "โลหิตเป็นปัจจัยหล่อเลี้ยงรักษาชีวิตให้ดำรงอยู่ นับได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต การบริจาคโลหิตจึงเทียบได้กับการบริจาคชีวิตเป็นทานสูงสุด ควรยกย่องสรรเสริญอย่างยิ่ง การที่ประชาชนชาวไทยมีศรัทธาบำเพ็ญประโยชน์อย่างเดียวกันนี้ แสดงว่าทุกคนมีจิตใจเป็นกุศลถือว่าตนเป็นเพื่อน เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกัน มีหน้าที่ที่จะอนุเคราะห์ซึ่งกันและกันนอกจากนี้การบริจาคโลหิตยังถือเป็นการให้ทานที่ยิ่งใหญ่ ที่สามารถช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ ที่เจ็บป่วยให้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้ เพราะฉะนั้น ผู้บริจาคโลหิตทุกคน จึงถือว่าเป็นผู้เสียสละควรแก่การยกย่องและสรรเสริญ"
ประโยชน์จากการบริจาคโลหิต
- กระตุ้นไขกระดูกสร้างเม็ดเลือดแดง
- กล้ามเนื้อแขนขาแข็งแรง
- ระบบไหลเวียนโลหิตดี
- ผิวพรรณสดใส
- สุขภาพแข็งแรง
- ได้ตรวจสุขภาพร่างกายเป็นประจำทุก 3 เดือน
- ทราบหมู่โลหิตระบบ เอ บี โอ และระบบอาร์เอช
- มีความสุขความภูมิใจที่ได้ช่วยชีวิตผู้ป่วย
ดูเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=549036248471717&id=115623895146290
บริการตรวจสารเคมี
ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ให้บริการตรวจสารเคมีในโลหิต เช่น ตรวจหาน้ำตาล ไขมันในโลหิต ไตรกลีเซอไรด์ ไขมันดี และตรวจสภาวะการทำงานของตับ เป็นต้น (ตรวจให้ปีละ 1 ครั้ง) และให้แจ้งความจำนงที่แพทย์คัดกรองผู้บริจาคโลหิต ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00-10.00 น. (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) โดยต้องงดอาหารหลัง 20.00 น.(ดื่มน้ำเปล่าได้)สิทธิพิเศษในการรักษาพยาบาล
การช่วยเหลือในการรักษาพยาบาล ตามระเบียบกระทรวงสาธารณสุข โดยให้หน่วยบริการช่วยเหลือเฉพาะตัวดังนี้1. *ผู้บริจาคโลหิตซึ่งมีหนังสือรับรองจากสภากาชาดไทยให้หน่วยบริการช่วยเหลือเฉพาะค่าห้องพิเศษ และค่าอาหารพิเศษ โดยให้เรียกเก็บตามอัตราที่กำหนดไว้ แต่ต้องไม่เกินสิทธิอัน
พึงเบิกได้จากหน่วยงานต้นสังกัด ส่วนที่เกินให้เรียกเก็บเพียงร้อยละ 50 สำหรับผู้ไม่มีสิทธิดังกล่าว ให้หน่วยบริการเรียกเก็บเพียงร้อยละ 50 ของอัตราที่กำหนดไว้
2. **ผู้บริจาคโลหิตตั้งแต่ 24 ครั้งขึ้นไป ให้หน่วยบริการรักษาพยาบาลโดยไม่คิดมูลค่า แต่ถ้าอยู่ห้องพิเศษให้เรียกเก็บค่าห้องพิเศษ และค่าอาหารเพียงร้อยละ 50 ของอัตราที่กำหนดไว้
*ระเบียบกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยการช่วยเหลือในการรักษาพยาบาล (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2550 ข้อ 8 ประเภท ค
*ระเบียบกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยการช่วยเหลือในการรักษาพยาบาล (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2553 ข้อ 6 ประเภท ก
การช่วยเหลือในการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลต้นสังกัดสภากาชาดไทย ได้แก่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา
1. ผู้บริจาคโลหิตจำนวน 7 ครั้งขึ้นไป เป็นผู้ป่วยใน เสียค่าพยาบาลประเภทคนไข้สามัญ ถ้าใช้ห้องคนไข้พิเศษ , ผ่าตัด , ผ่าตัดคลอดบุตร ให้เพียงกึ่งหนึ่งของอัตราที่กำหนด
2. ผู้บริจาคโลหิตจำนวน 24 ครั้งขึ้นไป เป็นผู้ป่วยใน ได้รับยกเว้นเฉพาะค่ารักษาพยาบาลประเภทคนไข้สามัญ ถ้าใช้ห้องคนไข้พิเศษผ่าตัด , ผ่าตัดคลอดบุตร , ให้เสียเพียงกึ่งหนึ่งของอัตราที่กำหนด
ศรัทธาแห่งความภูมิใจ
เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณ และยกย่องสรรเสริญผู้บริจาโลหิตศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ได้จัดทำเข็มที่ระลึกผู้บริจาคโลหิตขึ้นเพื่อมอบให้ผู้บริจาคโลหิต โดยจัดทำเข็มที่ระลึกครั้งที่ 1,7,16,24,36,48,60,72,84,96 และ 108 ตามลำดับ สำหรับผู้บริจาคโลหิตครบ 50,75 และ 100 ครั้ง จะได้รับพระราชทานเหรียญกาชาดสมนาคุณชั้นที่ 3,2 และ 1 ตามลำดับ ส่วนพระภิกษุ สามเณรจะได้รับพระราชทานพัดกาชาดสมนาคุณศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เปิดทำการ
- วันจันทร์ พุธ ศุกร์ (ไม่หยุดพักกลางวัน) เวลา 08.00 - 16.30 น.
- วันอังคารและพฤหัส (ไม่หยุดพักกลางวัน) เวลา 07.30 - 19.30 น.
- วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.30 - 15.30 น.
โทร : 0-2256-4300 , 0-2263-9600-99 ต่อ 1101
E-mail : blood@redcross.or.th
Website : www.redcross.or.th, www.blooddonationthai.com
ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ
- ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 3 จ.ชลบุรี โทร. 038-278-905
- ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 4 จ.ราชบุรี โทร. 032-327-476
- ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 จ.นครราชสีมา โทร. 044-342-407
- ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 6 จ.ขอนแก่น โทร. 043-246-807
- ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 7 จ.อุบลราชธานี โทร. 045-244-628 ต่อ 105
- ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 8 จ.นครสวรรค์ โทร. 056-371-447
- ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 9 จ.พิษณุโลก โทร. 055-211-353 ต่อ 111
- ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 10 จ.เชียงใหม่ โทร. 053-418-389 ต่อ 17
- ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 12 จ.สงขลา โทร. 074-254-130
- ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ จ.ภูเก็ต โทร. 076-251-178 ต่อ 2
- งานบริการโลหิต สถานีกาชาดหัวหินเฉลิมพระเกียรติ จ.ประจวบคีรีขันธ์ โทร. 032-512-370
หรือบริจาคโลหิตได้ที่
สาขาบริการโลหิต และโรงพยาบาลประจำจังหวัดทั่วประเทศ
การบริจาคเลือดนอกจากจะช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ผิวพรรณสดใส และได้ตรวจสุขภาพแล้ว การบริจาคเลือดยังเป็นการแบ่งปันน้ำใจ ได้ช่วยเหลือผู้ป่วยที่ต้องการเลือดในการรักษา ถือเป็นการให้ทานที่ประเมินค่าไม่ได้ อยากเชิญชวนทุกคนให้มาบริจาคกันเยอะๆ จะทำตามกำลังที่มีหรือทำทุกๆ 3 เดือนก็ได้ ได้ประโยชน์ทั้งกับตัวเองและผู้อื่น สุขกายสบายใจกันถ้วนหน้าครับ
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น