ไม่แน่ใจว่าช่วงนี้หน้าหนาว หรือหน้าอะไรกันแน่ อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เดี๋ยวหนาว เดี๋ยวฝน เดี๋ยวร้อนหลายคนปรับตัวไม่ทันโดนไข้หวัดเล่นงานกันยกใหญ่ เป็นเล็กน้อยซื้อยามากินพอไหว แต่ถ้าเป็นมากคงต้องไปหาหมอให้หมอช่วยเคลียร์ให้ เหนื่อยใจจริงๆ
วันนี้ผมมีเคล็ดลับป้องกันไข้หวัด น้ำมูกไหล ไซนัสอักเสบมาฝาก วิธีที่ว่าคือ "การล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ" เป็นวิธีง่ายๆที่สามารถทำได้เองที่บ้าน แต่กลับได้ผลอย่างเหลือเชื่อ
ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือดียังไง?
- ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้โพรงจมูก
- ช่วยขจัดน้ำมูกที่คั่งอยู่ในโพรงจมูก ให้ออกมาอย่างง่ายดายและรวดเร็ว
- ช่วยป้องกันการลุกลามของเชื้อโรค ไม่ให้ลุกลามไปยังไซนัสและปอด
- ช่วยลดอาการแน่นจมูก หายใจไม่ออก
- ช่วยลดเสมหะ ลดจำนวนน้ำมูกที่ไหลลงคอ
- ช่วยลดปริมาณสารก่อภูมิแพ้ในโพรงจมูก
- ช่วยลดการระคายเคือง หรืออาการคันจมูก
วิธีล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ
อุปกรณ์
- น้ำเกลือความเข้มข้น 0.9%
- กระบอกฉีดยาหรือไซริ้ง ขนาด 10-20 cc
- แก้วน้ำหรือภาชนะสำหรับแบ่งน้ำเกลือ
- กระดาษทิชชู่
วิธีล้าง
- เทน้ำเกลือลงในแก้วน้ำหรือภาชนะที่เตรียมไว้ กะให้พอดีต่อการใช้ เราจะไม่เทกลับขวดถ้ามันเหลือ เพราะจะทำให้เชื้อโรคผสมกับน้ำเกลือในขวดได้
- ดูดน้ำเกลือด้วยกระบอกฉีดยา หรือไซริ้งที่เตรียมไว้ โดยดูดให้เต็มกระบอก
- เตรียมท่าก่อนล้างจมูกโดยก้มหน้าลงเล็กน้อย เพื่อให้การล้างง่ายขึ้น กลั้นหายใจ นำไซริ้งจ่อเข้าไปในจมูก จากนั้นค่อยๆฉีดน้ำเกลือเข้าอย่างช้าๆ เลือกจมูกข้างที่หายใจสะดวกก่อน
- เปลี่ยนมาล้างจมูกอีกข้างหนึ่ง ทำเหมือนเดิมค่อยๆฉีดน้ำเกลือเข้าไปเพื่อทำความสะอาดโพรงจมูก โดยระหว่างฉีดอาจมีน้ำมูก ขนจมูก หรือสิ่งสกปรกหลุดออกมา ให้สั่งน้ำมูกที่ไหลออกมาให้หมด โดยให้สั่ง 2 ข้างพร้อมกันไม่ควรสั่งทีละข้าง เพราะอาจทำให้แก้วหูทะลุได้
- หากล้างจมูกซ้ายขวาจนแน่ใจว่าน้ำมูกหรือสิ่งสกปรกออกหมดแล้ว ให้ล้างทำความสะอาดบริเวณจมูก และบ้วนปากด้วยน้ำเปล่าอีกครั้ง จากนั้นใช้ทิชชู่เช็ดให้แห้งเป็นอันเสร็จขั้นตอนการล้าง
ทิศทางการไหลของน้ำเกลือ
ระหว่างที่เราฉีดน้ำเกลือเข้ารูจมูก น้ำเกลือจะไหลออกได้ 3 ทาง คือ
- ไหลกลับทางเดิม
- ไหลทะลุไปอีกข้าง
- ไหลเข้าปาก
บางคนล้างจมูกแล้วน้ำเกลือไหลกลับทางเดิม ไม่ไหลทะลุออกรูจมูกอีกข้างก็รู้สึกว่าตัวเองล้างไม่ถูกวิธี ซึ่งความจริงแล้วไม่ว่าน้ำเกลือจะไหลออกทางไหนก็ไม่ผิด ขอแค่อย่าให้สำลักก็พอ เพราะถ้าสำลักอาจทำให้เชื้อโรคไหลกลับเข้าไปยังไซนัสได้
ล้างจมูกบ่อยเป็นอันตรายหรือไม่?
การล้างทำความสะอาดจมูกด้วยน้ำเกลือไม่เป็นอันตราย ล้างบ่อยแค่ไหนก็ได้ขอแค่ล้างให้ถูกวิธี ไม่สำลักน้ำเกลือระหว่างล้าง แต่ส่วนใหญ่จะล้างวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น และควรล้างก่อนรับประทานอาหาร หรือหลังทานอาหารประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการอาเจียน หรือสำลักที่อาจเกิดขึ้น
อย่าลืมทำความสะอาดกระบอกฉีดยาทุกครั้ง
หลังจากล้างจมูกด้วยน้ำเกลือเสร็จแล้ว ควรล้างทำควาสะอาดกระบอกฉีดยาหรือไซริ้งด้วยน้ำสบู่ทุกครั้ง และตากให้แห้ง เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อโรค
ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ล้างจมูกได้ทั้งนั้น
หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าการล้างจมูก ควรใช้ในเด็กเท่านั้น แต่จริงๆแล้วไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ ก็สามารถล้างจมูกด้วยน้ำเกลือได้เหมือนกัน โดยเฉพาะเวลาที่รู้สึกเหมือนจะไม่สบาย มีน้ำมูก หรือรู้สึกเจ็บคอ ควรรีบล้างทำความสะอาดโพรงจมูกด้วยน้ำเกลือ จะช่วยให้อาการเจ็บป่วยบรรเทาลง เผลอๆอาจไม่ต้องกินยาหาหมอเลยก็ได้
ประสบการณ์ล้างน้ำเกลือลดอาการไอ และเสมหะ
ผมมีประสบการณ์ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือมาเล่าให้ฟัง เรื่องของเรื่องคือ มีช่วงหนึ่งผมมีปัญหาไอเรื้อรัง ไอได้ไอดีไอไม่หยุด โดยเฉพาะตอนกลางคืนอากาศเย็นๆไอจนไม่ได้หลับไม่ได้นอน ตอนแรกไอแบบแห้งๆไม่มีเสมหะ ทนไม่ไหวตัดสินใจไปหาหมอที่โรงพยาบาลรัฐบาล หมอให้ x-rey ปอดกับตรวจเลือด ผลออกมาปกติทั้ง 2 อย่าง สุดท้ายหมอสรุปว่าผมน่าจะเป็นหลอดลมอักเสบ ให้ยาแก้ไอกับยาละลายเสมหะมากิน กินยาจนหมดไม่หาย ตัดสินใจซื้อยามากินเองก็ไม่หาย สุดท้ายทนไม่ไหวลองไปหาหมอเฉพาะทางที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง
หมอให้ยาเสตียรอยด์สำหรับสูดทาปาก ยาพ่นทางจมูก ยาแก้แพ้ และยาแก้ไอ พร้อมกับให้ผม ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ หมอบอกว่าวิธีนี้ช่วยให้โพรงจมูกสะอาด ลดอาการแพ้ ลดน้ำมูก พอน้ำมูกน้อยลงเสมหะจะน้อยลงตามไปด้วย
กลับบ้านผมก็ปฏิบัติตามที่หมอบอกอย่างเคร่งครัด ล้างจมูกทุกวันวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ประมาณ 1 สัปดาห์อาการไอของผมลดน้อยลง เสมหะก็น้อยลงตามไปด้วย ตอนแรกบอกตามตรงผมไม่คิดว่าการล้างจมูกจะได้ผลดีขนาดนี้ พอลองทำแล้วหายผมล้างจมูกด้วยน้ำเกลือทุกวันเลย เหมาะกับคนเป็นภูมิแพ้อย่างผมมาก
การล้างจมูกด้วยน้ำเกลือเป็นวิธีดูแลสุขภาพที่ง่ายและได้ผลดี ช่วยลดอาการภูมิแพ้ ลดน้ำมูกที่ข้นเหนียวได้เป็นอย่างดี เดี๋ยวนี้ใครเป็นไข้หวัดมีน้ำมูก ผมแนะนำให้ล้างน้ำเกลือตลอด ช่วยให้หวัดหายเร็วขึ้น ช่วงนี้ใครไม่สบายลองล้างโพรงจมูกด้วยน้ำเกลือดูครับ มัน work จริงๆ
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น